บทเรียนหน้าร้อน
วานนี้และวันนี้ปรอทในเขตชุมชนวัดได้ 46 องศาเซลเซียส ส่วนกลางทุ่งนาพุ่งขึ้นถึง 49.5 องศา บางพื้นที่ว่ากันว่าวัดได้ 52 องศา พาดหัวรองในหน้า หนังสือพิมพ์กรอบหนึ่งปลอบใจว่า “ยิ่งร้อนตับแลบเท่าไร ปีนี้น้ำท่าจะอุดมสมบูรณ์เท่านั้น” แต่อีกกรอบ บอกว่าวานนี้วันเดียว ในรัฐเบงกอลฯ มีผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อน 67 คน ในบ่ายวันเดียวกัน ข่าวสั้นของทุกสถานีรายงานการมาถึงของมรสุมฤดูฝน ซึ่งปีนี้พัดเข้าฝั่งรัฐเกรละช้าไปสี่วัน แต่สำหรับเบงกอลฯ ที่อยู่ทางตะวันออกคงต้องกลั้นใจรออีกสักสิบวัน แม้ฤดูร้อนในชนบทอินเดียจะหฤโหด และโหดเป็นพิเศษในปีนี้ เพราะถูกซ้ำเติมด้วยการขึ้นราคาน้ำมันและอาการร่วงกับร่วงของค่าเงินรูปี ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 55 รูปีต่อดอลลาร์ แต่กลับมีหลายเรื่องให้เรียนรู้ โดยเฉพาะสำหรับคนที่โตมาในเมืองไทย มีชีวิตเคยชินกับความสะดวกของเมืองหลวง ไม่รู้จัก ร้อนรู้จักหนาว สามารถเลือกเดินจากห้องแอร์ห้องหนึ่งไปยังห้องแอร์อีกห้องหนึ่งได้เสมอ จนเรื่องที่ว่าเมืองไทยมีสามฤดูเป็นแค่ความรู้มือสอง และคำว่า “หน้ามะม่วง” หาได้บอกเดือนหรือฤดูในขุมประสบ การณ์ของคนรุ่นใหม่ ชีวิตชนบทที่ศานตินิเกตัน ในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย คือการเผชิญหน้ากับกาลอากาศ ที่หมุนเวียนเปลี่ยนฤดู ฤดูหนาวที่นานราวสามเดือน ฤดูใบไม้ผลิสั้นๆ ไม่ถึงเดือน ฤดูร้อนแสนโหดที่เริ่มจากกลางเดือนมีนาคม แล้วเพิ่มองศาขึ้นเรื่อยๆ
Read More