‘บุ๋ม’ บุณย์ญานุช บุญบํารุงทรัพย์ ใช้เวลากว่า 2 ปี ค้นหาตัวตนหลังลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหาร Food Passion ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์ Bar B Q Plaza และล่าสุด ตัดสินใจเปิดบริษัท ปีติ พีอาร์ ลุยธุรกิจประชาสัมพันธ์ที่มีคู่แข่งมากมาย แต่ย้ำหนักแน่นว่า ปีติพีอาร์ ไม่ใช่ Public Relation แต่เป็น Purpose Relations
เธอบอกกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ว่า บริษัท ปีติ พีอาร์ เกิดขึ้นได้เพราะรุ่นน้อง คือ ผู้บริหารบริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งรู้จักสนิทสนมกัน ดึงเธอเข้าไปช่วยวางแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
หลังจากนั้นบริษัทเริ่มมีแบรนด์ต่างๆ เข้ามาเป็นลูกค้า ได้แก่ ฮูส์คอลล์ (Whoscall) ของบริษัทสัญชาติไต้หวัน Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันป้องกันมิจฉาชีพทางสมาร์ตโฟน แบรนด์เสื้อยืด “ยืดเปล่า” บริษัท เริ่มใหม่ จำกัด และบริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนยชีส คุกกี้ น้ำผลไม้เข้มข้น ซันควิก ซึ่งบุณย์ญานุชกล่าวว่า ทุกบริษัทล้วนเป็นธุรกิจที่มีเสน่ห์ มีเนื้อหา และ Purpose ชัดเจน
“จริงๆ ก่อนเปิดบริษัท เราคุยกันในทีมและตั้งเป้าหมายชัดเจน งานของปีติพีอาร์ คือ Purpose Relation รูปแบบ News Perspective การเล่าถึง Purpose ขององค์กรที่เชื่อมั่นและคาดหวัง เพราะประเทศไทยมีธุรกิจเจ๋งๆ เยอะมาก บริษัทอยากสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำธุรกิจเจ๋งๆ เหล่านี้ ถ้าสามารถเล่าเรื่องให้ทรงพลัง โดยเรียกลูกค้าทุกรายว่า เพื่อนปีติ และอยากให้เพื่อนปีติทุกคนเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเวลานี้อยู่ในช่วงคุยๆ กับลูกค้าธุรกิจเจ๋งๆ อีกจำนวนมาก”
อันที่จริง บริษัท ปีติ พีอาร์ เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการได้ 5 เดือน และเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท มานะ ปีติ ดีใจ จำกัด ซึ่งบุณย์ญานุชเปิดก่อนหน้านั้น เพื่อรับงานทั่วไป และลึกๆ วาดฝันอยากให้เป็นโฮลดิงส์ คอมปะนี มีบริษัทลูกแตกเป็น 3 ธุรกิจ ตามคอนเซ็ปต์ มานะ ปีติ และดีใจ
“ที่บอกว่า 3 ธุรกิจ คือ ตอนนั้นเป็นความฝันตั้งแต่อยู่บาร์บีกอน เรื่องการทำแบรนดิ้ง ทำบิสิเนส คาแรกเตอร์มาร์เกตติ้ง และคิดว่า เราอยากมีคาแรกเตอร์บ้างเหมือนกัน ตั้งบริษัทชื่อ มานะ ปีติ ดีใจ มาจาก Thinking ที่ว่า คนเรากว่าจะประสบความสำเร็จ ทุกคนควรมีความมานะ ตั้งใจ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ทำ อันที่ 2 เมื่อมานะแล้ว ควรปีติ รู้สึกอิ่มเอมกับสิ่งที่ทำสำเร็จรวมถึงยินดีกับคนอื่นๆ ที่ได้ดีด้วยความจริงใจ อันที่ 3 ดีใจ คิดว่า คนไทยหรือพวกเราอีกหลายคนไม่กล้าดีใจกับสิ่งที่ทำสำเร็จ รู้สึกเขินคนอื่น จริงๆ เราควรดีใจกับสิ่งที่ตัวเองทำสำเร็จ ไม่เดือดร้อนใคร มีสิทธิ์ Express ความดีใจ”
บุณย์ญานุชเล่าว่า เธอเริ่มต้นธุรกิจแรกวางแผนให้ “มานะ” Explore ธุรกิจฟู้ด โดยทดลองทำธุรกิจเล็กๆ เพื่อช่วยชาวประมง เรียกชื่อว่า “หมึกมานะ” ด้วยความเป็นคนชอบทะเล มีไอเดียอยากทำอะไรเกี่ยวกับทะเล และมีโอกาส Explore ธุรกิจหมึกมานะ โดยซื้อปลาหมึกจากชาวประมงที่ออกเรือโบราณ นำมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ได้ใหญ่โต แต่ต้องการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีและอยากให้คนไทยกินหมึกไร้สารเคมีจริงๆ ซึ่งในอนาคตจะมีการปรับกระบวนการใหม่
ส่วน “ปีติ” หรือบริษัท ปิติพีอาร์ ถือเป็นก้าวที่ 2 เพราะอยากทำธุรกิจบริการลูกค้า อยากให้ลูกน้องปีติกับงานที่ทำและยินดีกับลูกค้า เมื่อได้ดีอยากให้คนในบริษัทมีมายด์เซต ปีติกับงานและผลงานต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีทีมงาน 7-8 คน
ขณะที่ไอเดียสุดท้าย “ดีใจ” ยังอยู่ระหว่างการคิดให้ตกผลึก เบื้องต้นอยากทำด้านมูลนิธิ เพื่อช่วยผู้คนในสังคม
เธอบอกว่า คอนเซ็ปต์ทั้งหมดมาจากชีวิตที่ผ่านอะไรมาเยอะมาก ตั้งแต่เรียนจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เอกประชาสัมพันธ์ โลดแล่นในวงการมากกว่า 25 ปี ผ่านงานบริษัทโฆษณาทั้ง Leo Burnett, McCann, SC Matchbox, DY & R และ TBWA จากนั้นไปรับตำแหน่ง Senior Marketing Manager บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ General Manager บริษัท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ทรี จำกัด ทำโปรเจกต์รายการครัวคุณหรีด ทำอีเวนต์ละครเรื่องกี่เพ้าและรักคุณเท่าฟ้า จนสุดท้ายเข้าไปรับผิดชอบงานด้านการตลาด บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ร่วมทีมปลุกปั้นแบรนด์ Bar B Q Plaza นานถึงสิบปี
“ทำงานบาร์บีกอนปีที่ 7 เราบอกกับคุณเป้ ชาตยา สุพรรณพงศ์ ทายาทรุ่น 2 ของ Bar B Q Plaza แบบตรงๆ ว่า เริ่มมีความคิดบางอย่าง แต่จะจัดการทุกอย่างจนครบปีที่ 10 ตัดสินใจลาออกเพราะมีความคิดอยาก Explore ตัวเอง ออกมาเป็นคนว่างงาน ซึ่งช่วงเวลานั้นมีคนเชิญไปทำงานหลายแห่ง ไปเป็นที่ปรึกษาแบรนด์ แต่ไม่อยากเป็นพนักงานประจำแล้ว อยาก Explore อะไรใหม่ๆ”
หลายคนเคยมีคำถามว่า ทำไมตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งใหญ่ในบริษัท ฟู้ดแพชชั่น ทั้งที่ไม่มีงานรองรับ
คำตอบ คือ เป็นผลพวงมาจากการทำแคมเปญ “The Waiters’ Mom พนักงานร้านอาหารก็มีแม่” เพราะถือเป็นโปรเจกต์แรกๆ ในอินดัสทรีเมืองไทยที่ลุกขึ้นมาพูดถึงความต้องการลึกๆ ของพนักงานอย่างจริงจัง เป็นโปรเจกต์ที่สร้างพลังอำนาจพิเศษ และไอเดียอยากผลักดันธุรกิจในสังคมดีขึ้น ไม่ใช่แค่บาร์บีคิวพลาซ่า
ที่สำคัญ การใช้เวลา Explore ตัวเองจนเปิดปีติพีอาร์ และมีลูกค้าที่มีแนวคิดเดียวกันเข้ามายิ่งเติมเต็มไอเดียชัดเจนมากขึ้น เพราะผลตอบรับดีมาก ได้ลูกค้าที่เชื่อแนวคิด Purpose Relation Make Change และมีทีมงานที่มีความเชื่อเหมือนกัน คือ การทำโลกนี้ให้ดีขึ้นผ่านการเล่าเรื่องของธุรกิจต่างๆ
“มันเป็นแนวคิดตั้งแต่ช่วงทำบาร์บีคิวพลาซ่า การเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกนี้ดีขึ้นและเป็นตัวแทนชนชั้นกลางคนหนึ่งที่อยากทำให้คนในสังคมมีชีวิตดีขึ้น นี่คือ ฐานความคิด พอมาทำปีติพีอาร์ ยังเชื่อแบบนั้น การที่คนเราเกิดมาและมี Purpose ตอบว่า เราเกิดมาบนโลกนี้ทำไม เราตายไปไม่เสียชาติเกิด ปีติเป็นท่อนหนึ่งที่อยากส่งต่อแนวคิดตรงนั้น การทำบริษัทพีอาร์ เพื่อตอบ Purpose ของธุรกิจต่างๆ”
นอกจากนั้น วางแผนโปรเจกต์ต่อเนื่องในอนาคต เช่น การทำคอร์สสร้าง Strategic Thinking ที่ช่วยตอบโจทย์ให้ธุรกิจเล็กๆ การทำหลักสูตรที่ไม่ได้ตอบโจทย์ในมุมเม็ดเงิน แต่ตอบโจทย์แนวคิดและวิธีคิดต่างๆ อาจทำหนังสือการทำธุรกิจที่มีหัวใจเป็นซีรีส์ เพราะการได้เจอผู้ประกอบการหลายคนที่มีธุรกิจที่เจ๋งมากในเมืองไทย หลายคนอาจไม่ใช่คนเด่นดัง ไม่ใช่ Speaker แต่เป็นคนทำจริง หรือทำรายการเกี่ยวกับธุรกิจที่มีหัวใจที่เติบโตได้ในโลกที่ไม่สวยแบบนี้ แตกวิธีเล่า Purpose ในแต่ละแองเกอร์ออกมา
บุณย์ญานุชทิ้งท้ายอีกว่า “อยากให้คนที่มีความเชื่อแบบเรามารวมตัวกัน แม้วันหนึ่งเราจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ปีติยังอยู่ มีคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันอยู่สานงานต่อ ซึ่งเวลานี้ปีติมีน้องใหม่ๆ ที่เคยอยู่บิ๊กคอร์ปอเรตที่มีทุกอย่าง แต่มีของบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งบริษัทที่ยิ่งใหญ่อาจไม่สามารถให้เหมือนปีติให้ได้ นั่นคือ จิตวิญญาณที่เชื่อเหมือนกัน”.