วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > Cover Story > SoccerGate แจ้งเกิด ลุยแฟรนไชส์ License Store

SoccerGate แจ้งเกิด ลุยแฟรนไชส์ License Store

หากพูดถึงตลาดสินค้ากีฬาในประเทศไทยมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท ยังไม่รวมช่องทางออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊กอีกนับไม่ถ้วน โดยเฉพาะกลุ่มรองเท้าฟุตบอล (สตั๊ด) มีฐานลูกค้าระดับกลางและล่างเป็นตลาดใหญ่ ซึ่งชื่อ SoccerGate ถือเป็นหนึ่งในยุทธจักรที่ปลุกปั้นแบรนด์มานานกว่าสิบปี จนเป็นที่ยอมรับ มีการขยายหน้าร้านและล่าสุดจ่อเปิดเกมรุกขายแฟรนไชส์ License Store ชิมลาง 2 สาขาในปีนี้

ปัจจุบัน SoccerGate มีหน้าร้านรวม 5 แห่ง ได้แก่ สาขา BB Market Park บางใหญ่ สาขา Marketplace รังสิต คลอง 1 สาขาขอนแก่น ในโครงการ G9 ถ.หน้าเมือง สาขาขอบสนามอารีน่า-เลียบด่วนรามอินทรา และสาขา Outlet Mall พัทยา เฟส 2

ส่วนช่องทางออนไลน์นอกจากเว็บไซต์ https://soccergatestore.com/ ยังมี Line, Facebook รวมทั้งแพลตฟอร์ม Shopee และ TikTok ซึ่งมีการไลฟ์สดขายสินค้าราคาพิเศษเป็นช่วงๆ

วรตพงษ์ ตันมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอราวัณ เอ็กซ์สปอร์ต จำกัด และผู้ก่อตั้ง SoccerGate กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ว่า บริษัทเริ่มต้นจากการทำออนไลน์เมื่อปี 2557 และเปิดหน้าร้านที่สาขาบางใหญ่เป็นสาขาแรกเมื่อ 6 ปีก่อน โดยปัจจุบันทำตลาดเข้าถึงลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กัน ฐานลูกค้าขยับเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องจนตัดสินใจขยายสาขาที่ 2 ย่านรังสิต

กระทั่งปี  2566 บริษัทเปิดรวด 3 สาขา คือ สาขาขอนแก่น ช่วงเดือนมกราคม สาขาเลียบด่วนรามอินทรา ในเดือนเมษายน และสาขาพัทยา ในเดือนธันวาคม

สำหรับรายได้ยอดขายเติบโตชนิดก้าวกระโดด โดยเฉพาะช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คือ ปี 2564 มียอดขายรวม 58 ล้านบาท ปี 2565 ทะลุ 91 ล้านบาท และปี 2566 พุ่งพรวดพราดอยู่ที่ 129 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนออนไลน์ 60% และออฟไลน์ 40%

ที่เห็นชัดเจนน่าจะเป็นเทศกาลเปิดโกดังลดกระหน่ำประจำปี SoccerGate Warehouse Sale 80% ซึ่งปีนี้เปิดโกดังเมื่อวันที่ 1-3 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า ลูกค้าแห่เข้ามาต่อคิวเข้าโกดังชนิดหนาแน่น จนต้องใช้วิธีแจกบัตรคิวเป็นรอบๆ รอบละ 50 คน ให้เวลา 20 นาทีต่อรอบ

ขณะเดียวกัน มีกลุ่มลูกค้าจากทั่วประเทศ ซึ่งเคยซื้อรองเท้าผ่านช่องทางออนไลน์ต้องการให้บริษัทขยายสาขาไปในต่างจังหวัด เพื่อเลือกซื้อสินค้าแบบสัมผัสและลองได้อย่างเต็มที่ก่อนตัดสินใจซื้อ รวมทั้งมีผู้สนใจอีกจำนวนมากอยากลงทุนเปิดร้านภายใต้แบรนด์ SoccerGate ทำให้บริษัทเกิดแนวคิดการขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์

“ทั้งการเรียกร้องของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาเยอะมากและบริษัทอยากขยายสาขาในต่างจังหวัดด้วย อย่างเปิดสาขาที่ขอนแก่นเพราะอยากปักหมุดภาคอีสาน ซึ่งสาขาขอนแก่นทำรายได้โอเคเลย แต่บางครั้ง การจะไปแต่ละจังหวัด เราต้องสำรวจมากพอสมควร เราอาจไม่รู้พฤติกรรมแท้จริง ถ้ามีคนท้องถิ่นในพื้นที่ เขาน่าจะเข้าใจพฤติกรรมมากกว่า เข้าถึงได้มากกว่า เพราะแต่ละโลเคชัน สินค้าขายดีจะแตกต่างกัน”

เบื้องต้น บริษัทตั้งเป้าหาพาร์ตเนอร์ SoccerGate License Store ในท้องถิ่นต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อยุธยา ซึ่งปีนี้วางแผนไว้ 1-2 รายก่อนขยับขยาย โดยดึงผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟรนไชส์มาช่วยเซตระบบทั้งหมด และเตรียมประกาศเงื่อนไขประมาณปลายเดือนมีนาคมนี้

วรตพงษ์ย้ำว่า เราอยากให้พาร์ตเนอร์ทำธุรกิจได้จริง ขายได้จริง ไม่ขาดทุน พื้นที่ร้านขนาด 100-120 ตารางเมตร ประมาณสาขารังสิตและสาขาขอนแก่น ขณะที่บริษัทมีแผนขยายสาขาด้วยเช่นกัน เน้นทำเลกรุงเทพฯ เช่น บางนา ซึ่งลักษณะร้านจะอยู่ในคอมมูนิตี้มอลล์และสแตนด์อะโลน แต่ยังไม่มีแผนเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้า โดยคีย์หลักทั้งร้านในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คือ ต้องเป็นทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

“เราเป็นสเปเชียลตี้สโตร์ด้านกีฬาฟุตบอลและด้วยไพรซิ่งสินค้าของร้าน ลูกค้าเป้าหมายเราเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักสี่ห้าหกพันบาท เรนจ์ค่อนข้างกว้าง ไม่ใช่สูงหกเจ็ดแปดพันบาทถึงหมื่นบาทอย่างเดียว ราคาเราค่อนข้างเข้าถึงลูกค้าง่าย และการขายออนไลน์ทำให้เราเห็นข้อมูลลูกค้าทั่วประเทศ ตั้งแต่รุ่นเริ่มเตะบอล เขาอาจไม่ได้อยากซื้อรุ่นหกเจ็ดแปดพัน เขาอยากซื้อหลักพันกว่าบาท สองพัน หรือหลักร้อยก่อน ตลาดเรากว้างมาก”

ที่สำคัญ เทรนด์ธุรกิจกีฬายังมีศักยภาพเติบโต ทั้งในแง่เทรนด์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลเป็นทั้งการเล่นเพื่อออกกำลังกาย เล่นเพื่อเข้าสังคม โอกาสของธุรกิจและโดยเฉพาะ SoccerGate ยังมีอีกมาก เพียงแต่ต้องปรับตัว Channel ให้เข้าถึงลูกค้า

แน่นอนว่า Specialty Store อย่าง SoccerGate ทำให้นึกถึง Ari (อาริ) ซึ่งเริ่มต้นช็อปแรกในโครงการอารีน่า 10 ย่านทองหล่อ เมื่อปี 2553 ด้วยแนวคิดที่ว่า เมืองไทยไม่มีร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับฟุตบอลโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เป็นร้านขายอุปกรณ์กีฬาหลายประเภทรวมกัน

ในระยะแรก การตลาดของอาริเป็นแบบปากต่อปาก เมื่อธุรกิจเริ่มโตขึ้นจึงใช้โซเชียลมีเดียรุกตลาด ผ่านเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ยูทูบ และอินสตาแกรม เพราะลูกค้าหลัก คือ กลุ่มอายุ 10-25 ปีที่ชื่นชอบในฟุตบอล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ใช้โซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ล่าสุดเปิดให้บริการรวม 12 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ 6 สาขา ต่างจังหวัดอีก 6 สาขา ได้แก่ โคราช อุบลราชธานี ขอนแก่น ชลบุรี อุดรธานี และเชียงใหม่

อาริใช้เวลาปลุกปั้นแบรนด์จนกลายเป็นแบรนด์ร้านที่มีมูลค่า ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่เน้นขายประสบการณ์ ลูกค้าสามารถเดินเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและหยิบความเป็นแฟชั่นผสมผสานกับฟุตบอล สร้างไลฟ์สไตล์และจุดขายใหม่ๆ เช่น บริการ “Personalization” หรือบริการปักและสกรีนชื่อ เบอร์ ตราสโมสร หรือธง ลงบนรองเท้าสตั๊ดรวมถึงอุปกรณ์กีฬาชิ้นโปรด ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใส่ความเป็นตัวตนในอุปกรณ์กีฬา

จากร้านขายรองเท้าสตั๊ดรายแรกของไทย ขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดผม Offside Barber ทำนิตยสารแจกฟรีชื่อ Hattrick การแตกไลน์ธุรกิจ Ari Running เจาะกลุ่มนักวิ่ง และการปลุกปั้นแบรนด์เสื้อผ้ากีฬา Ari Gear ทั้งเสื้อบอล กางเกง ถุงเท้า มีการสนับสนุนชุดกีฬาให้สโมสรชั้นนำ เช่น บางกอก ยูไนเต็ด  พัทยา ยูไนเต็ด ทีมฟุตซอลชลบุรี บลูเวฟ และอีกหลายทีม จนกลายเป็นแบรนด์ยอดนิยม ทั้งในแง่คุณภาพเนื้อผ้า การออกแบบ และถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์แฟชั่นยอดนิยม โดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นฐานลูกค้าหลัก

หลายคนบอกว่า แค่ถือถุงแบรนด์ Ari ก็ดูพรีเมียมแล้ว

เมื่อ “ผู้จัดการ 360 องศา” ถาม วรตพงษ์ ว่า SoccerGate เป็นคู่แข่ง Ari หรือไม่

เขาตอบชัดเจนว่า คนละตลาด ถ้ามองเป็นรูปพีระมิด เทียร์บนมีกำลังซื้อ เทียร์ล่างที่เป็นฐานตลาด บริษัทต้องการลงไปเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด เป็นฐานตลาดใหญ่มาก

“กลุ่มลูกค้าหลักของเรามี 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มฟุตบอลและกลุ่มฟุตซอล ซึ่งสมัยก่อนฟุตซอลเป็นตลาดที่แข็งแรงมาก ตั้งแต่เด็กเตะหน้าโรงเรียน หน้าเสาธง จนเข้ามหาวิทยาลัย เตะสนามหญ้าเทียม ทำงาน กลุ่มลูกค้าเราอาจไม่ใช่กลุ่มนักกีฬา แต่เป็นคนชอบเล่นฟุตบอล ตั้งแต่อายุ 18 ปี จนถึง 30-36 ปี กับกลุ่ม Starter เริ่มเตะฟุตบอล 9-12 ปี ที่เราลงไปทำตลาดมากขึ้น เราพยายามเลือกรองเท้าให้น้องใช้งาน เน้นสุขภาพเท้า โดยเฉพาะเด็ก ถ้าปุ่มสูงเกินไป เท้าหรือหัวเข่าอาจมีปัญหาได้ในอนาคต”

คีย์หลัก คือ เน้นการใช้งาน เน้นออกกำลังกาย และราคาจับต้องได้ ซึ่งเอ็มดีหนุ่มย้ำว่า เป็นตลาดที่ยังไม่มีเจ้าไหนเจาะจริงจังและเป็นโอกาสของ SoccerGate ในระยะยาวด้วย.