เอเลนา ฟอร์ด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความสัมพันธ์ผู้จำหน่าย ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เดินทางเยือนประเทศไทย ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะตลาดสำคัญของฟอร์ด โดยเอเลนา ฟอร์ด ให้ความสำคัญอย่างมากกับการพัฒนาศักยภาพและยกระดับเครือข่าย ผู้จำหน่ายฟอร์ดในประเทศไทยซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการผลักดันการมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเป็นเจ้าของรถให้แก่ลูกค้าครอบครัวฟอร์ด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจของฟอร์ดให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทายาทรุ่นที่ 5 ในตระกูลของผู้ก่อตั้งบริษัท ได้พบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพนักงานและเครือข่ายผู้จำหน่ายฟอร์ดในประเทศไทย รวมถึงผู้จำหน่ายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ภายใต้โครงการ Ford Next-Gen Dealers ซึ่งฟอร์ด ประเทศไทย ริเริ่มขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของทายาทรุ่นที่สองของผู้จำหน่ายฟอร์ดในประเทศไทย ด้วยการเสริมสร้างความรู้และทักษะสำคัญที่จำเป็นในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้จำหน่ายรุ่นใหม่และสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว
“ผู้จำหน่ายฟอร์ดเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจและความสำเร็จของฟอร์ด เพราะผู้จำหน่ายเป็นตัวแทนของฟอร์ดในการส่งมอบประสบการณ์และบริการที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการเดินทางมาประเทศไทยครั้งนี้ ช่วยให้เราเข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และนำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพให้กับลูกค้าของเราต่อไป” เอเลนา ฟอร์ด กล่าว
หลานสาวของเฮนรี ฟอร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัท ยังได้ร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของฟอร์ด ประเทศไทย ในโอกาสที่ฟอร์ดก้าวขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ขายดีที่สุดอันดับ 4 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การดำเนินงาน 27 ปี ในประเทศไทย ด้วยยอดขายรวม 36,483 คันในปี 2566 โดยฟอร์ด เรนเจอร์ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ครองตำแหน่งรถขายดีที่สุดอันดับ 3 ได้อย่างเหนียวแน่นทั้งในตลาดรถกระบะและ PPV จากการนำเสนอนวัตกรรมอันโดดเด่นที่สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไทยอยู่เสมอ ประกอบกับความไว้วางใจของลูกค้าในการใช้งานนวัตกรรมบริการต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เอเลนา ฟอร์ด ยังได้เยี่ยมชมการทำงานของผู้จำหน่ายฟอร์ด วีพี เพชรเกษม และฟอร์ด อาร์เอ็มเอ หัวหมาก พร้อมชมสาธิตการนำกลยุทธ์การบริการแบบ ‘พร้อมเสมอ’ มาใช้ในการดำเนินงาน ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทีมฟอร์ดและผู้จำหน่ายในการปรับการทำงานทุกด้านให้ทันสมัย โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกในกลุ่มตลาดนานาชาติที่นำทั้ง 10 นวัตกรรมด้านบริการรูปแบบใหม่ของฟอร์ดมานำเสนอให้แก่ลูกค้า และมียอดการใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริการนัดหมายเข้ารับบริการผ่านระบบออนไลน์ (Online Service Booking) มีลูกค้าใช้บริการมากกว่า 100,000 ครั้ง ขณะที่หน่วยบริการเคลื่อนที่ (Mobile Service Unit) และบริการรับ-ส่งรถนอกสถานที่ (Pick Up & Delivery) มียอดใช้บริการรวมกันมากกว่า 44,000 ครั้ง เติบโตขึ้นถึง 150% จากปีก่อนหน้า
การเดินทางเยือนประเทศไทยของ เอเลนา ฟอร์ด นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่ฟอร์ดที่จะพัฒนาเครือข่าย ผู้จำหน่าย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในการเป็นเจ้าของรถฟอร์ดให้กับลูกค้า โดยฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนสะสมรวมกว่า 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1 แสนล้านบาท ผ่านโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) และโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) เพื่อส่งมอบรถยนต์คุณภาพชั้นนำระดับโลกสู่ผู้บริโภคทั้งในประเทศไทยและตลาดทั่วโลก ควบคู่กับการขับเคลื่อนโอกาสและการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย