หลังจากที่ปล่อยให้เป็นกระแสข่าวมาพักใหญ่ว่า เซ็นทรัลรีเทล เตรียมเปิดธุรกิจใหม่ในปีนี้ จนทำให้หลายคนสงสัยใคร่รู้ว่า ยักษ์ใหญ่แห่งการค้าปลีก มีแผนธุรกิจอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง
14 กันยายน 2566 วันดีเดย์ที่เป็นทั้งการประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ และเหมือนเป็นการประกาศความพร้อมสู้ศึกในการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจากค้าส่งรายเดิมอย่าง Makro ด้วยการส่งห้างค้าส่งภายใต้ชื่อ GO Wholesale
แม้ CRC จะคร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจค้าส่งที่กินส่วนแบ่งในตลาดค้าวัสดุก่อสร้างอยู่ไม่น้อยอย่าง “ไทวัสดุ” แต่นั่นยังไม่ครอบคลุมหมวดธุรกิจอาหาร ที่น่าจะมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะช่วยให้ตัวเลขรายได้ของเซ็นทรัลรีเทลถูกเติมเต็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “CRC ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมากกว่า 75 ปี จากการสร้าง Platform of Trust ให้กับลูกค้า พาร์ตเนอร์ ซัปพลายเออร์ พนักงาน ชุมชน และนักลงทุน พร้อมทั้งมี Ecosystem ที่แข็งแกร่งด้วย Multi-category ใน 5 กลุ่มหลักได้แก่ กลุ่มฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลท์แอนด์เวลเนส ซึ่งครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้า B2Cและ B2B ตลอดจนมีจุดแข็งในเรื่องบุคลากรที่มีศักยภาพ ทำให้เราสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม อิตาลี โดยผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมา CRC สร้างรายได้ 236,245 ล้านบาท ทำกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท พร้อมทั้งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดถึง 278,934 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565
CRC มีธุรกิจหลักอยู่ในไทย เวียดนาม และอิตาลี ซึ่งนายใหญ่ของ CRC ระบุว่านี่เป็นการทำธุรกิจแบบกระจายความเสี่ยง 59 จังหวัดในไทย 41 จังหวัดในเวียดนาม และ8 เมืองในอิตาลีจำนวน 9 สโตร์
“เรามีธุรกิจครอบคลุมไทยเวียดนาม 100 จังหวัด 110 มอลล์ ร้านอาหารจำนวน6,750 แห่ง และ โรงแรม 93 แห่ง สำหรับGO Wholesale เกิดจากความต้องการที่จะสร้าง new choice for all ลดความเหลื่อมล้ำในไทย ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทุกชนิด ไม่จำกัดแบรนด์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของคู่ค้า นักลงทุน พนักงาน และสังคมรอบด้าน” ญนน์เสริม
นอกจาก ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ CRC ที่กุมบังเหียนและคอยผลักดัน GO Wholesale ให้ไปสู่เป้าหมายแล้ว อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นเสมือนแม่ทัพในศึกครั้งนี้คือ “สุชาดา อิทธิจารุกุล” นั่งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ธุรกิจในเครือ CRC ผู้ซึ่งเคยปลุกปั้นอาณาจักรค้าส่งของ Makro ที่มีมูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท การได้หญิงแกร่งอย่างสุชาดามาดูแล GO Wholesale น่าสนใจไม่น้อย
“GO Wholesale คือ ศูนย์ค้าส่งสินค้าระบบสมาชิก ในราคาขายส่ง เพื่อผู้ประกอบการที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือ กลุ่มธุรกิจโฮเรก้า (โรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจจัดเลี้ยง) กลุ่มผู้ชื่นชอบการทำอาหาร กลุ่มผู้ให้บริการอาหารในโรงงาน โรงพยาบาล และหน่วยงานอื่นๆ รวมถึงร้านค้าปลีกขนาดเล็กหรือโชห่วย โดยจุดเด่นคือการนำเสนอสูตรแห่งความสำเร็จให้แก่ผู้ประกอบการในด้านต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงใจ พร้อมเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทักษะ และต่อยอดธุรกิจรายย่อยให้มีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตไปด้วยกัน เหมือนกับชื่อแบรนด์ GO ที่ G หมายถึง การเติบโต (Growth) และ O หมายถึง โอกาส (Opportunities) สอดคล้องไปกับแนวคิด “โตเร็ว โตไกล โตไปกับ GO” หรือ Grow with GO ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโตด้วยสูตรแห่งความสำเร็จสำหรับผู้ประกอบการ” สุชาดาขยายความ
นอกจาก สุชาดา อิทธิจารุกุล แล้วยังมีอีกหนึ่งคีย์สำคัญที่เข้ามาบริหารห้างค้าส่งนี้ คือ ริคาร์โด้ โบอารอตโต้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย ซึ่งสำทับว่า GO Wholesale สาขาแรกจะมีพื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร ด้วยการออกแบบ Store Layout รูปแบบใหม่ที่พร้อมตอบโจทย์ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโฮเรก้า ร้านอาหารและร้านค้าปลีก และการให้บริการใหม่ๆ ที่มีความหลากหลาย เพื่อมาช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้า ผู้ประกอบการ พร้อมสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกอาหารสด ซึ่งมีตั้งแต่อาหารทะเลเป็นๆ เนื้อคุณภาพพรีเมียม และการให้บริการตัดแต่งสินค้าตามความต้องการของลูกค้า และบริการชำระเงินหลากหลายช่องทาง
การก้าวเข้ามาเป็นเบอร์สองของตลาดที่มีเจ้าตลาดรายใหญ่อย่าง Makro ต้องถือว่าศึกนี้ดูใหญ่หลวงนัก แต่ผู้บริหารทั้งสามดูจะแสดงทัศนคติไปในทิศทางเดียวกันว่า “ยังไม่คิดแข่งขันกับใคร เราต้องการแข่งกับตัวเอง”
“เราไม่ได้สนใจคู่แข่ง แต่การเริ่มต้นของธุรกิจนี้มาจากความต้องการของลูกค้า และเราสนใจว่าลูกค้าต้องการอะไร รวมถึงสิ่งที่เราจะนำเสนอให้แก่ลูกค้าสำหรับการเป็นห้างค้าส่งคือ บริการ ที่แตกต่าง” สุชาดาอธิบายเพิ่มเติม
นอกจากนี้ สุชาดายังมองว่า ลูกค้าคือพาร์ตเนอร์คนสำคัญ เพราะเราต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ดังนั้น เราจะไม่แข่งกับลูกค้า (ร้านค้าโชห่วย ร้านค้าปลีก) เราต้องให้ความเคารพลูกค้าทุกคน
GO Wholesale จะใช้กลยุทธ์ Grow Right คือการทำให้ธุรกิจเติบโตไปกับคนที่ใช่ ที่ออกแบบเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและร้านค้าปลีก
Grow As You Like ทำให้ทุกธุรกิจเติบโตอย่างตรงใจ จากประสบการณ์ด้านธุรกิจอาหารและค้าส่งมาอย่างยาวนานของผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพ
Grow Fast ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว กับบริการต่างๆ ของเราที่จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและต่อยอดความรู้ ทักษะใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการ
Grow Smooth เสริมสร้างให้ทุกธุรกิจเติบโตไปไกลได้อย่างราบรื่น ด้วยช่องทางการสั่งซื้อที่หลากหลาย สะดวกฉับไว ให้การดูแลธุรกิจเป็นเรื่องง่ายและประหยัดเวลา
Grow & Gain ให้ธุรกิจและกำไรเติบโต จากสิทธิพิเศษมากมายสำหรับสมาชิก
Grow Better การเติบโตอย่างยั่งยืน และ Grow Together ร่วมเติบโตไปพร้อมกัน
ขณะที่ GO Wholesale มีแนวทางการทำธุรกิจที่เน้นความโปร่งใส ไม่กีดกันคู่ค้า SMEs ทั้งรายใหญ่ รายเล็ก ให้ความสำคัญเท่ากัน ซึ่งสินค้าที่ถูกนำมาวางจำหน่ายจะมาทั้งจากเกษตรกรโดยตรง และไม่จำกัดสินค้าแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง
CRC ตั้งเป้าหมายสำหรับธุรกิจใหม่อย่าง GO Wholesale ว่าภายใน 5 ปี จะเปิดสาขาให้ได้จำนวน 43 สาขา ภายใต้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยสาขาแรกจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ ที่ย่านศรีนครินทร์ และเปิดอีก 3 สาขาที่ เชียงใหม่ พัทยา และนิคมอมตะ ในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ตามลำดับ ปัจจุบันบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ มีทุนจดทะเบียน 1,800 ล้านบาท
ก้าวย่างที่สำคัญของ CRC ที่พร้อมเปิดศึกชนยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าส่งอย่าง Makro ด้วยการส่ง GO Wholesale เข้ามาชิมลาง นับเป็นการเปิดเกมอย่างชัดเจน และการได้แม่ทัพหญิงคนสำคัญที่อยู่ในวงการค้าส่งมาก่อนจากเจ้าตลาดเดิม น่าจะมีภาษีไม่น้อยสำหรับศึกนี้
ต้องรอดูกันต่อไปว่า ความต้องการทางเลือกใหม่ที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า จนก่อเกิดห้างค้าส่งอย่าง GO Wholesale จะดำเนินไปอย่างไร เจ้าตลาดจะรับน้องใหม่รูปแบบไหนน่าสนใจไม่น้อย.
