“ธุรกิจครอบครัวมีความซับซ้อนในหลายๆ ด้านมากกว่าธุรกิจอื่น เพราะต้องบาลานซ์ให้ดี ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน” นิชา สมบูรณ์เวชชการ ทายาทรุ่นที่ 3 ของอ้วยอันโอสถ
ยาสมุนไพรในตลาดไทยมีอยู่ด้วยกันหลายแบรนด์ เช่น อภัยภูเบศร แหลมทองการแพทย์ อ้วยอันโอสถ ขาวละออเภสัช ซึ่งแต่ละแบรนด์มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากตลาดผู้บริโภคอยู่ในอันดับต้นๆ ของตลาดสมุนไพรไทย โดยเฉพาะ อ้วยอันโอสถ บริษัทที่หากนับถึงปัจจุบันจะมีอายุ 76 ปี
ในวันนี้ อ้วยอันโอสถถูกส่งไม้ต่อให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงฉากทัศน์ของอ้วยอันโอสถเท่านั้นที่จะเปลี่ยนไป จากแบรนด์ที่ดูสูงวัย กำลังถูกทำให้ดูเด็กลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ขณะที่คุณภาพยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ถูกนำมาใช้และต่อยอดผลิตภัณฑ์
“ผู้จัดการ 360 องศา” มีโอกาสได้สัมภาษณ์ “นิชา สมบูรณ์เวชชการ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด รับหน้าที่ดูแลภาพรวมการตลาด การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ในขณะที่น้องชายอย่าง “ชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ” ดูแลเรื่องสายการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์
คุณหมูแดง หรือ นิชา สมบูรณ์เวชชการ เข้ามาเริ่มทำงานใน บ.อ้วยอันโอสถ ตั้งแต่ปี 2552 ในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เธอเรียนรู้งานจากคุณปู่ คุณพ่อ และรับผิดชอบงานด้านการตลาดเป็นหลัก รวมถึงฝ่ายทรัพยากรบุคคล การเติบโตมาในครอบครัวที่มีธุรกิจ ทายาทหลายบริษัทส่วนใหญ่มักจะไม่ได้เริ่มต้นการทำงานในธุรกิจครอบครัวทันทีหลังเรียนจบ คุณหมูแดงเริ่มต้นทำงานที่ GE และ CP All โดยทำงานในสายการเงินมาก่อน เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากภายนอก ด้วยมีความตั้งใจที่จะสานต่อธุรกิจที่บ้าน
“ธุรกิจครอบครัวจริงๆ แล้วมีความซับซ้อนหลายด้าน เราต้องบาลานซ์ให้ดี จะทำอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน เราต้องทำงานกับคนในครอบครัวซึ่งเป็นเจเนอเรชันรุ่นก่อนๆ เช่น คุณปู่ คุณพ่อ หมูแดงและน้องชายอีกสองคนเป็นรุ่นที่สาม เราได้สัมผัส ได้รับข้อดีที่เป็นจุดแข็งของรุ่นคุณปู่ คุณพ่อ ในขณะเดียวกัน เรายังมีสิ่งที่ต้องปรับจูนช่องว่างระหว่างรุ่น”
กว่า 70 ปีที่อ้วยอันโอสถ ยืนระยะจนมาถึงปัจจุบัน ล้มลุกคลุกคลาน ผ่านวิกฤตมาหลายครั้งเกิดจากการปรับตัว นับเป็นจุดแข็งที่ทายาทต้องเรียนรู้ ด้านหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่อาจท้าทายและกดดัน คุณหมูแดง มองว่า “บทบาทที่ได้รับเป็นสิ่งที่ท้าทาย และเมื่อความท้าทายเกิดขึ้นย่อมเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะไม่ยืนอยู่กับที่ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ลูกค้ามีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดิจิทัลช่วยให้การสื่อสารกับลูกค้าใกล้ชิดขึ้น อ้วยอันโอสถมีทีมโซเชียลมีเดียที่ค่อนข้างแข็ง เรามีครบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น facebook Instagram TikTok”
แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทว่า อ้วยอันยังมีระบบเดิมเพื่อติดต่อกับลูกค้า เช่น คอลเซ็นเตอร์ และ Line@ ที่มีทีมคุณหมอคอยตอบคำถามจากลูกค้า
ขณะที่ตลาดสมุนไพรนับว่าเป็นหนึ่งตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา บวกกับกระแสรักสุขภาพค่อยๆ ขยายวงกว้างขึ้น ผู้บริโภคต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมีจากอาหาร และยาในชีวิตประจำวัน คู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้นอาจแย่งส่วนแบ่งการตลาดไปจากอ้วยอันโอสถอยู่บ้าง
กระนั้นสิ่งหนึ่งที่คุณหมูแดงมั่นใจคือ ทีม R&D ของบริษัท ที่อยู่ภายใต้การดูแลของน้องชาย “คู่แข่งมากขึ้น ทำการตลาดยากขึ้น แต่เราค่อยๆ หาจุดที่เราจะเข้าถึงลูกค้า ทำให้ลูกค้าเห็นว่าอ้วยอันโอสถแตกต่างจากแบรนด์อื่น การมีคู่แข่งทำให้เราต้องผลักตัวเองมากขึ้น มีนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งทีม R&D ที่น้องชายดู มี Creativity ที่สูงมาก เขาสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ออกมาและสามารถแมตช์กับความต้องการของลูกค้าได้เลย เราพยายามทำลูกค้าให้เป็น Segmentation ต่างๆ ปัจจุบันอ้วยอันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 100 sku”
อ้วยอันมียาสมุนไพรที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็ก 2 ขวบ วัยทำงาน จนถึงผู้สูงวัย มีทั้งยาสามัญประจำบ้านพื้นฐาน ยาสำหรับกลุ่มผู้สูงวัย และอาหารเสริม คุณหมูแดง ยกตัวอย่างยาสมุนไพรของอ้วยอัน ที่แตกต่างจากท้องตลาด คือ ยานอนหลับที่ผลิตมาจากสมุนไพรจีน ที่ทีมวิจัยพัฒนาขึ้น นอกจากนี้ ยังมียาสมุนไพรที่สามารถใช้ได้ในกลุ่มนักกีฬา อย่าง VO2 ที่ช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพขึ้น “คู่แข่งที่มีมากมายในตลาด เราต้องหาจุดแข็งของเราให้พบ นั่นคือนวัตกรรม และการเข้าถึง Segmentation ของลูกค้า ซึ่งทำให้อ้วยอันโอสถแตกต่างจากคู่แข่ง”
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด โจทย์ที่คุณหมูแดงต้องทำให้สำเร็จหลังเข้ามาบริหารงานอย่างเต็มตัวคือ การปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ แม้ว่าอ้วยอันโอสถจะถูกนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ แต่การกลบจุดอ่อนของแบรนด์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
อ้วยอัน แปลว่า สะอาด และปลอดภัย คำที่ถูกคิดค้นมาตั้งแต่รุ่นปู่ แต่ด้วยภาพลักษณ์และอายุของแบรนด์ที่ดูสูงวัย เสมือนคุณหมอจีนใจดี แต่ทายาทรุ่นที่สามต้องการให้แบรนด์อ้วยอันโอสถดูเด็กลง เป็นคุณหมอวัย 30 ต้นๆ เข้าถึงได้ง่าย ปี 2552 การเริ่มใช้พรีเซ็นเตอร์ในภาพยนตร์โฆษณา ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย เมื่อบทพิสูจน์ปรากฏให้เห็นในช่วงวิกฤตโควิด ที่มีคนถามหาแบรนด์อ้วยอันมากขึ้น
แต่การใช้พรีเซ็นเตอร์อาจไม่ตอบโจทย์ในปัจจุบัน คุณหมูแดงจึงปรับแผนการตลาดมาเป็น Music Marketing และเลือกเพลงต้นฉบับ “อ้ายจัสวอนน่าเป็นแฟนยูได้บ่” ของ สิงโต นำโชค มาดัดแปลงเนื้อเป็น “ไอจัสวอนนาแฮฟอ้วยอันได้บ่” การฉีกกฎในครั้งนี้ทำให้หลายคนแทบจำเพลงต้นฉบับไม่ได้แล้ว
ปัจจุบันอ้วยอันโอสถมีสินค้ากว่า 100 sku แบ่งเป็นแบรนด์ อ้วยอันโอสถ และ herbal one ซึ่งเน้นอาหารเสริม ส่วนอ้วยอันโอสถมีแบรนด์ย่อยแตกออกไป เช่น มังกรทอง และยาจีน ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยวางจำหน่ายในคิงเพาเวอร์ ซึ่งเป็นตำรับที่คิดค้นมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน
แม้จะมีลูกค้าจากจีนอยู่บ้าง ทว่า อ้วยอันกลับไม่ได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายนอกประเทศ แต่เป็นลักษณะการหิ้วสินค้าไปจำหน่าย ในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว พม่า ขณะที่ประเทศในแถบยุโรป เช่น รัสเซีย โรมาเนีย มีผู้ประกอบการรับยาสมุนไพรอ้วยอันโอสถไปทำแบรนด์ของตัวเอง
ช่องทางการจำหน่ายหลักของอ้วยอันโอสถ คือ ร้านขายยา 65-70% โมเดิร์นเทรด 20-25% และช่องทางออนไลน์ 10% โดยลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ 45% ต่างจังหวัด 55%
คุณหมูแดงระบุถึงแผนการที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า คือการขยับขยายโรงงานผลิต หลังจากที่โรงงานปัจจุบันไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้
“การขยายโรงงานไม่ใช่เพราะปัจจุบันเราเจอกับภาวะสินค้าขาดตลาด เพียงแต่เราต้องการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับดีมานด์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจำเป็นที่เราจะต้องย้ายไปโรงงานแห่งใหม่ หากเราไม่ขยาย เราอาจเสียโอกาสในออเดอร์ใหญ่ๆ ไม่ใช่แค่รองรับลูกค้าจากต่างประเทศ แต่รองรับการจ้างผลิตด้วยเช่นกัน”
“คนที่อยากจะมีสินค้าคุณภาพแต่เป็นแบรนด์ของตัวเองมีค่อนข้างมาก เราเคยรับจ้างผลิตได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันเต็มกำลังการผลิตแล้ว จึงไม่สามารถรองรับในจุดนี้ได้ เราเสียโอกาสไป”
จังหวะของอ้วยอันโอสถในมือทายาทรุ่นที่สามนับว่าน่าสนใจไม่น้อย นอกจากแผนงานที่เตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่จะเข้ามาในอนาคต อีกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ สิ่งที่คุณหมูแดงยึดมั่นมาตลอดนับตั้งแต่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารของอ้วยอันโอสถคือ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน
“เราผูกพันกับการทำงานของคุณพ่อ และคุณปู่ เป็นโรลโมเดลที่หมูแดงเห็น และชื่นชม ถูกปลูกฝังมาก็คือ ความขยัน ความซื่อสัตย์ และความอดทน มันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ในการทำธุรกิจ เราอยู่จุดนี้เห็นสิ่งนี้มา 10 กว่าปี ทำให้ทั้งสามข้อที่เป็นเหมือนคุณสมบัติในการทำธุรกิจทำให้เราฝ่าฟันและทำให้มันสำเร็จไปได้”
“แต่เพียง 3 อย่างนี้ไม่เพียงพอ ในรุ่นของหมูแดงสิ่งที่เรานำเข้ามา คือ เราต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง เพราะมันเกิดขึ้นตลอดเวลา ถ้าเราเจอสิ่งที่เปลี่ยนแปลง เราทำใจยอมรับมันและฝ่าฟันมันไปให้ได้ การเป็นทีมเวิร์ก การรับฟัง คนในองค์กร เสียงเล็กๆ ไม่ว่าจากพนักงานฝ่ายผลิต หรือเพื่อนร่วมทีม ถ้าเป็นรุ่นก่อนอาจจะใช้วิธีสั่งมาอย่างเดียว แต่รุ่นเรา เรามาคุยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะบางครั้งสิ่งที่เป็นประโยชน์ไม่ได้มาจากระดับท็อป เช่น ผู้บริหาร แต่มาจากคนตัวเล็กๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไป ซึ่งหากเรานำสองสิ่งนี้รวมกับสิ่งที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ จะทำให้เรา Fulfill องค์กร ให้เราบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ”
แนวความคิดที่เรียบง่าย แต่อุดมไปด้วยทัศนคติเชิงบวก น่าจะนำพาให้อ้วยอันโอสถยืนอยู่ในแถวหน้าของตลาดสมุนไพรไทยได้อย่างไม่ยาก.