วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > Cover Story > Coro Field พร้อมรีแบรนด์ จากฟาร์มเมลอน สู่ Mental Wellness

Coro Field พร้อมรีแบรนด์ จากฟาร์มเมลอน สู่ Mental Wellness

หลังจากพลิกฟื้นผืนดินที่เคยแห้งแล้งกว่า 104 ไร่ ใน อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี และพัฒนาจนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย ในชื่อ “Coro Field” ที่มีจุดขายคือฟาร์มเมลอนสายพันธุ์พิเศษจากญี่ปุ่นมากว่า 7 ปี ถึงเวลาที่ฟาร์มเมลอนแห่งนี้จะปรับตัวอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่แบรนด์ธุรกิจ Mental Wellness ที่ยังคงดึงพลังจาก “พืช” มาสร้างความสุขให้กับผู้มาเยือน

“Coro Field” (โคโร ฟิลด์) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน โดยสองพี่น้อง มิตรดนัยและพันดนัย สถาวรมณี เพื่อปฏิวัติการเกษตรรูปแบบเก่า สู่ความเป็นไลฟ์สไตล์เกษตรรูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้เป็นเพียงการปลูก แต่เป็นการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจแก่คนเมืองและเกษตรกรรุ่นใหม่ ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรไลฟ์สไตล์แห่งแรกในประเทศไทย ด้วยการนำเมลอนสายพันธุ์ญี่ปุ่นและพืชผักชนิดต่างๆ มาปลูก จนกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ใครเดินทางมายัง อ.สวนผึ้ง ต้องแวะมาเช็กอิน เที่ยวชมฟาร์มเมลอนและลิ้มรสอาหารสูตรเฉพาะของ Coro Field

มิตรดนัย สถาวรมณี ในฐานะผู้ก่อตั้ง เคยกล่าวถึงที่มาของชื่อ Coro Field เอาไว้ว่า “คำว่า ‘โคโร’ (Coro) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ‘เวลา’ ส่วนคำว่า ‘ฟิลด์’ (Field) มาจากศัพท์ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า ‘สนามกว้างๆ สีเขียว’ Coro Field จึงมีความหมายว่า สถานที่ที่ทำให้จังหวะเวลาชีวิตเดินช้าลง เพื่อให้ผู้มาเยือนได้รับพลังกายพลังใจเพื่อกลับไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข”

หลังจากเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวมากว่า 7 ปี ถึงเวลาที่ฟาร์มเมลอนชื่อดังแห่งสวนผึ้งจะปรับภาพลักษณ์ธุรกิจใหม่ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่แบรนด์ธุรกิจ Mental Wellness ที่สร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ทำให้ผู้คนมีความสุขมาจากข้างใน โดยนำคุณสมบัติของ “กัญชง” มาใช้

มิตรดนัยกล่าวถึงการปรับภาพลักษณ์ธุรกิจของ Coro Field ในครั้งนี้ว่า “Coro Field ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2558 และจุดประสงค์ของสถานที่แห่งนี้คือการได้ทำให้ผู้คนมีความสุขและได้รับแรงบันดาลใจดีๆ เพื่อกลับไปดำเนินชีวิตต่อ ผ่านพลังของธรรมชาติหรือต้นไม้ที่เราตั้งใจปลูก”

“แต่นับจากโควิด-19 แพร่ระบาด สิ่งที่เราค้นพบคือ ปัจจุบันมีคนประมาณ 1 ใน 5 บนโลกใบนี้ ที่กำลังมีปัญหาด้านจิตใจหรือกำลังไม่มีความสุข และพวกเรารู้สึกว่า Coro Field อยากเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ผู้คนมีความสุขมากขึ้น เราจึงตัดสินใจเปลี่ยนเป้าหมายในการมีอยู่ของเรา มาเป็นแบรนด์ที่โฟกัสเรื่อง Mental Wellness หรือการทำให้ผู้คนมีความสุขมากขึ้น”

จากฟาร์มเมลอน สู่ Organic Premium Hemp
โดยมิตรดนัยเปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากแต่เดิมที่ Coro Field ทำฟาร์มเมลอนสายพันธุ์พิเศษจากญี่ปุ่น แต่หลังจากปรับภาพลักษณ์ใหม่เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่แบรนด์ธุรกิจ Mental Wellness ที่จะเน้นการผลิตสินค้าและบริการเพื่อทำให้ผู้คนมีความสุขจากข้างในแล้ว Coro Field จะมีการปรับเปลี่ยนด้วยการปลูก Organic Premium Hemp หรือ กัญชงออแกนิกพรีเมียม เพิ่มเติม นอกเหนือจากการปลูกเมลอนแบบออแกนิกดังที่ทำมา

Coro Field ถือเป็นแบรนด์ที่เชื่อในพลังของพืชและมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ หลังจากมีแผนที่จะปรับภาพลักษณ์ ทางทีมได้เริ่มทำการวิจัยจนได้มาพบกับพืชที่เรียกว่า Hemp หรือ กัญชง โดยกัญชงเมื่อนำมาสกัดจะได้สารที่เรียกว่า CBD (Cannabinoid) ซึ่งเป็นสารที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ไม่ทำให้มึนเมา มีสรรพคุณสำคัญ 3 เรื่องหลัก คือ 1. Relaxation หรือการผ่อนคลาย 2. Stress Relief หรือการคลายเครียด และ 3. Sleep Aid หรือตัวช่วยในการนอนหลับ

ซึ่งมิตรดนัยกล่าวว่าสรรพคุณหลักทั้ง 3 ประการนั้น ถือเป็นจุดตั้งต้นสำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี จึงนิยมสกัดเพื่อใช้ผสมในอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ต่างๆ และเขายังย้ำว่า ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ กัญชงไม่ทำให้ผู้บริโภคมีอาการมึนเมาเหมือนกัญชาที่มีสาร THC ในปริมาณมาก (กัญชงมีสาร CBD ในปริมาณมาก และปริมาณ THC ไม่เกิน 1% จึงไม่ก่อให้เกิดความมึนเมา) ในขณะที่กัญชามี THC เกิน 1% แต่มี CBD ไม่เกิน 2% ซึ่งมีวิจัยทางการแพทย์รองรับและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

Coro Field จึงหันมาทดสอบ วิจัย และปลูกกัญชง เพื่อให้ได้สารสกัด CBD ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ ก่อนจะนำมาผลิตเป็นสินค้าที่จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดี

โดยกัญชงที่ Coro Field นำมาปลูกเป็น Organic Premium Hemp มีทั้งหมด 12 สายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก และปลูกในโรงเรือนอัจฉริยะหรือที่เรียกว่า Coro Field Lab ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากประเทศอิสราเอล นอกจากนี้ ยังได้คิดค้นระบบ IoT Smart Farm โดยทีม IoT Engineer ของ Coro Field เอง เพื่อควบคุมปริมาณแสงและคุณภาพอากาศภายในโรงเรือน ด้วยเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง

เทคโนโลยีในการปลูกดังกล่าวสามารถดูค่าการเพาะปลูกได้จาก COROFIELD Smart farm dashboard ที่ได้ทั้งข้อมูลของฟาร์ม พื้นที่ ประเภทผลผลิต ระยะเวลาการเพาะปลูก ปริมาณผลผลิตในปัจจุบัน รวมถึงสามารถวัดปริมาณแสง น้ำ ความชื้น อุณหภูมิ ค่า PH การนำไฟฟ้าของน้ำ (EC) เพื่อรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและช่วยวิเคราะห์การเพาะปลูกในครั้งต่อไปได้อย่างแม่นยำ และยังมีระบบแจ้งเตือนข้อมูลไปยังผู้ดูแลฟาร์มโดยตรง เพื่อลดความผิดพลาดให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสุนทรีย์ให้กับต้นกัญชงด้วยการเปิดเพลง Mozart และ ASMR ให้ฟังตลอดระยะการเติบโต เพื่อให้ต้นกัญชงเติบโตอย่างมีความสุข

โดย Coro Field จะนำกัญชงที่ปลูกได้มาสกัดสาร CBD ก่อนที่จะนำไปใช้ผลิตสินค้า Mood Lifestyle Products โดยมีไฮไลต์สำคัญเป็นสินค้าเปิดตัว ได้แก่ Stress Away และ Bedtime ซึ่งเป็น CBD สำหรับบริโภค โดยตัว Stress Away มี 2 รสชาติ ได้แก่ รสเลมอนและรสมินต์ มีสารสกัด CBD เข้มข้น 50 mg/drop ช่วยในการคลายเครียด คลายความวิตกกังวล

ส่วน Bedtime มีสารสกัด CBD 100 mg/drop ช่วยปรับคุณภาพการนอน ให้หลับง่าย หลับสนิท และหลับลึก รวมถึงยังนำสารสกัด CBD ไปผลิตสินค้าอื่นๆ อย่าง Mood Chews (HandCraft Gummies) หรือเยลลี่อารมณ์ดี, ช็อกโกแลต และเทียนหอม และที่สำคัญยังนำกัญชงไปเป็นวัตถุดิบในอาหาร Good Vibes Menu ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Coro Field อีกด้วย

โดย Coro Field ได้ร่วมมือกับเชฟดังแห่งยุคอย่าง เชฟแวน-เฉลิมพล โรหิตรัตนะ แห่งร้าน DAG และ เชฟแบล็ก-ภานุภน บุลสุวรรณ จากร้าน Blackitch คิดค้นสูตรอาหารเมนูพิเศษจากส่วนประกอบจากกัญชง ไม่ว่าจะเป็นส่วนต้น ใบ และรากมาใช้

กิจกรรมไฮไลต์ที่สร้างสรรค์สุขภาพใจที่ดีผ่านความมหัศจรรย์ของ “พืช”
ไม่เพียงผลิตภัณฑ์จากสารสกัด CBD จากกัญชง และอาหารเมนูพิเศษจากส่วนประกอบของกัญชงที่ครีเอตโดยเชฟชื่อดังที่มิตรดนัยตั้งใจให้เป็นสินค้าไฮไลต์ในบทบาทใหม่ของ Coro Field เท่านั้น แต่มิตรดนัยยังมีการสร้างสีสันโดยจัดกิจกรรมและปรับรูปแบบพื้นที่เพื่อสร้างสุขภาพใจที่ดีให้กับผู้มาเยือน โดยใช้ “พืช” เป็นเครื่องมือ และเพื่อตอกย้ำการเดินหน้าสู่การเป็น Mental Wellness

โดยกิจกรรมไฮไลต์แบ่งออกเป็น 6 กิจกรรมด้วยกัน ได้แก่ 1. Coro Field Lab ชมการปลูกกัญชงด้วยระบบ IoT Smart Farm ในโรงเรือนอัจฉริยะ ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้เรื่องการเพาะปลูก

2. สำรวจตัวตนกับโซน Reflex & Refresh ที่รวบรวมทุ่งดอกไม้ความหมายดีทั้ง 4 ชนิด มาอยู่รวมกัน เช่น ดอกคลิโอมี ตัวแทนของคำว่า “โชคดี”, ดอกซินเนีย ตัวแทนของคำว่า “ความสุข”, ดอกคอสมอส ตัวแทนของคำว่า “สงบและผ่อนคลาย” และดอกทานตะวัน ตัวแทนของคำว่า “การพัฒนาตัวเอง” เพื่อส่งต่อความหมายดีๆ ให้กับลูกค้า โดยดอกไม้ที่นำมาปลูกจะหมุนเวียนกันไปตามแต่ละฤดูกาล พร้อมกันนั้นยังมีกระจกบานเล็กๆ ตั้งอยู่รอบบริเวณแปลงดอกไม้ เพื่อให้สำรวจความรู้สึกของตัวเองผ่านการส่องกระจกอีกด้วย

3. เยียวยาจิตใจด้วยต้นผักกับโซน Plant & Harvest มีกิจกรรม “แปลงปลูกปัน” ให้ลูกค้าได้ลงมือปลูกผักสลัดด้วยตนเองตั้งแต่ขั้นตอนแรก และฝากผักเหล่านั้นให้ Coro Field ดูแลต่อ เมื่อผักสลัดโตพอที่จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว ผักสลัดจะถูกตัดเพื่อนำไปบริจาคต่อไป

นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถตัดผักสลัดสดๆ จากฟาร์มได้ด้วยตนเอง เพื่อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย โดยมิตรดนัยเชื่อว่า เมื่อเราได้สัมผัสกับต้นไม้และดินแล้วจะเป็นเหมือนการบำบัดความเครียดไปในตัว

4. ทำความรู้จักกับกัญชงในโซน Sense & Space ภายในโซนนี้เป็นการนำเสนอกัญชงออแกนิกพรีเมียมทั้ง 12 สายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก โดยนำเสนอในรูปแบบนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวของกัญชงแต่ละชนิดอย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ เปิดระบบควบคุมการปลูกในฟาร์มแบบ IoT Smart Farm ระบบเฉพาะของ Coro Field ให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษา

ภายในโซนนี้ยังมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์จากสารสกัด CBD จากกัญชง และการใช้ประโยชน์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย รวมถึงมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จาก CBD เพื่อช่วยคลายกังวล ผ่อนคลาย และมีการนอนหลับที่ดีมากยิ่งขึ้น

5. แบ่งปันประสบการณ์และความรู้สึกกับโซน Share your mood โดยการเขียนความรู้สึกที่อยากแบ่งปัน บอกเล่าเรื่องราวประทับใจ หรือแม้กระทั่งขอพร แล้วนำไปฝากไว้กับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่กลางสนามของ Coro Field

และสุดท้ายกับการชิมอาหารเมนูพิเศษจากกัญชง “Good Vibes Menu” ที่คิดค้นสูตรโดยเชฟแวนและเชฟแบล็ก ซึ่งเป็นเมนูที่มีเฉพาะช่วงนี้ เช่น ซุปหอยลาย ฟิชแอนด์ชิป กุ้งอบเนยกระเทียม ข้าวอบเนยกัญชง พาสต้าเพสโต้กัญชง ปลาย่างกิ่งกัญชง เป็นต้น

ถือเป็นกิมมิกเล็กๆ แต่สร้างสีสันและเรียกความสนใจจากผู้มาเยือนได้ไม่น้อย โดยมิตรดนัยเปิดเผยว่า ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป้าประสงค์หลักที่เขาต้องการนำเสนอคือสินค้าเปิดตัวอย่างสารสกัด CBD จากกัญชง ทั้งตัว Stress Away และ Bedtime เพราะเขาเชื่อว่าสินค้าทั้งสองตัวนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยผ่อนคลาย และทำให้สุขภาพใจของผู้ใช้ดีขึ้นได้

ซึ่งถือเป็นสินค้าเรือธงที่ปล่อยออกสู่ตลาดในฐานะแบรนด์ธุรกิจใหม่ของ Coro Field โดยมิตรดนัยเน้นย้ำทิ้งท้ายไว้ว่า

“ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพและสุขภาวะที่ดีจะเป็นธุรกิจที่ไม่มีทางตาย”