16 พฤศจิกายน 2565 ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ITC เปิดแถลงข่าวใหญ่กับนักลงทุนและสื่อ โชว์ศักยภาพและข้อมูลการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ประกาศสงครามรุกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงครบวงจรอย่างเต็มตัว โดยมีกลุ่มไทยยูเนี่ยนกรุ๊ปเป็นแบ็กอัปแข็งแกร่ง
หากย้อนที่มาธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยูเนี่ยนเริ่มต้นเมื่อปี 2520 โดยเริ่มผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋องและอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม (TUM)
ต่อมา ปี 2524 ก่อตั้งบริษัท สงขลาแคนนิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปและแตกไลน์การผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2532 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น แต่ในเวลานั้นยังพุ่งเป้าสร้างฐานธุรกิจผลิตและส่งออกปลาทูน่าบรรจุกระป๋องเป็นหลัก
ปี 2537 บริษัท ไทยยูเนี่ยนเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF และเร่งขยายอาณาจักรทั่วโลก โดยเฉพาะกลยุทธ์ซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง
บริษัทประเดิมรุกลงทุนในต่างประเทศครั้งแรกเมื่อปี 2540 ซื้อกิจการของชิกเก้นออฟเดอะซี ซึ่งเป็นแบรนด์ปลาทูน่ากระป๋องอันดับ 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ปี 2546 ซื้อกิจการบริษัท เอ็มเพรส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพการกระจายสินค้าอาหารทะเลในสหรัฐอเมริกา
ปี 2549 ตั้งบริษัท ชิกเก้นออฟเดอะซี โฟรเซ่น ฟู้ดส์ รุกตลาดอาหารทะเลแช่แข็งในสหรัฐอเมริกา และควบรวมกิจการกับบริษัท เอ็มเพรส อินเตอร์เนชั่นแนล เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทร-ยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด
ปี 2551 เข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ยู่เฉียงแคนฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋องของประเทศเวียดนาม และเข้าถือหุ้น 14.99% ในบริษัทอะแวนติ ฟีด จำกัด ผู้ผลิตอาหารกุ้งและผลิตภัณฑ์กุ้งของประเทศอินเดีย
ปี 2553 สยายปีกขยายกิจการในยุโรป เข้าซื้อกิจการบริษัทเอ็มดับบลิว แบรนด์ส เอสเอเอส ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยยูเนี่ยน ยุโรป เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุกระป๋อง และอาหารทะเลอื่นๆ โดยผลิตภัณฑ์ของไทยยูเนี่ยน ยุโรป มีแบรนด์หลักๆ เช่น John West, Petit Navire, Parmentier และ Mareblu
ในปีนั้น ไทยยูเนี่ยนประกาศรุกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง เปิดบริษัท ยูเอสเพ็ท นูทรีชั่น จํากัด และทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐอเมริกาก่อน และตั้ง US Pet Nutrition LLC เป็นผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมียม
ปี 2554 ทุ่มเงินลงทุนเข้าถือหุ้น 40% ในบริษัทแพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทแปรรูปอาหารพร้อมรับประทานและอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 49.97% ในเวลาต่อมา
ปี 2557 เข้าซื้อกิจการในภูมิภาคยุโรปอีกครั้ง โดยเทกโอเวอร์บริษัท เมอร์อไลอันซ์ เอสเอเอส จำกัด ผู้ผลิตปลาแซลมอนรมควันอันดับ 4 ของยุโรป และเป็นอันดับ 1 ในประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งซื้อกิจการบริษัท คิง ออสการ์ เอเอส จำกัด เจ้าของแบรนด์ปลาซาร์ดีนระดับพรีเมียมในประเทศนอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
ปี 2558 ประกาศรีแบรนด์องค์กรทั่วโลก เปลี่ยนชื่อบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น จำกัด มหาชน (TUF) เป็นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ขณะที่เปลี่ยนชื่อบริษัทเอ็มดับบลิว แบรนด์ส เอสเอเอส เป็น บริษัท ไทยยูเนี่ยน ยุโรป และเปลี่ยนชื่อบริษัทไทยยูเนี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ เป็น บริษัท ไทยยูเนี่ยน นอร์ทอเมริกา อิงค์ รวมทั้งตั้งหน่วยธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Global PetCare Business Unit) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงชัดเจนมากขึ้น
ปี 2564 ก่อตั้งบริษัท เจแปน เพ็ท นูทรีชั่น ในญี่ปุ่น เพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง
เดือนกันยายน 2564 บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ITC) และก่อตั้งบริษัท ไอ-เทล อเมริกา ขึ้นในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่นรับโอนหน่วยธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในเดือนธันวาคม 2564
ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนกรุ๊ปมีแบรนด์สินค้ามากกว่า 16 แบรนด์ โดยกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงมี 2 แบรนด์หลัก คือ เบลลอตต้า (Bellotta) และมาร์โว่ (Marvo) ซึ่งหลังจากนี้ภายใต้ “ไอ-เทล” กลยุทธ์และแบรนด์เพิ่มขึ้นแน่นอน.
ใต้ภาพ
ที่มา: www.i-tail.com
