วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > Life > “ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” จากนายอากร สู่เทพเจ้าหวยแห่งสยาม

“ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” จากนายอากร สู่เทพเจ้าหวยแห่งสยาม

ใครอยากเป็นเศรษฐี?
ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ

เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่น่าจะมีประสบการณ์ในการเสี่ยงโชคผ่านการซื้อหวยหรือลอตเตอรี่กันมาไม่น้อย เผื่อปุ๊บปั๊บรับโชคขึ้นมาจะได้กระชุ่มกระชวยหัวใจและเพิ่มเงินในกระเป๋า ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจถ้าช่วงใกล้วันหวยออกเราจะเห็นบรรดานักเสี่ยงโชคพากันเสาะแสวงหาเลขเด็ดตามสำนักต่างๆ

ในบรรดาสถานที่ขอพรขอเลขในการเสี่ยงดวงแล้ว ชื่อของ ”ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” น่าจะเป็นเป้าหมายแรกๆ ของบรรดานักเสี่ยงดวง ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ไหน และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร “ผู้จัดการ 360 องศา” ขอพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกัน

“ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” ตั้งอยู่บนชั้น 4 ของสถานีตำรวจพลับพลาชัย เป็นศาลของพ่อปู่ “ยี่กอฮง” อากงของนักเสี่ยงดวง หรือ พระอนุวัฒน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) นายอากรบ่อนเบี้ยที่ถูกขนานนามว่าคือ เทพเจ้าหวยองค์แรกแห่งสยามประเทศ

ตามประวัติกล่าวไว้ว่า “ยี่กอฮง” เป็นชาวจีน นามเดิมคือ “ตี้ยัง แซ่แต้” ตอนอายุ 16 ปี ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยทำงานเป็นเสมียนโรงบ่อนของพระยาภักดีภัทรากร (เล่ากี้ปิง) และประกอบอาชีพค้าขาย โดยเปิดร้านขายผ้าอยู่ที่หัวมุมสี่กั๊กพระยาศรี ด้านถนนบำรุงเมือง รวมถึงกิจการโรงสีข้าวและธุรกิจส่งออกจนมีฐานะร่ำรวย และยังมีตำแหน่งเป็นนายอากรเก็บภาษีให้หลวง แต่ที่สร้างความมั่งคั่งให้กับท่านอย่างมากคือ การเป็นเจ้าภาษีโรงกลั่นสุรา โรงบ่อนเบี้ย และเจ้าของโรงหวย ก.ข.

หวย ก.ข. เป็นการพนันในยุคอดีตที่นิยมเล่นกันแพร่หลายในเมืองจีนก่อนที่จะเข้ามาในสยาม หวย ก.ข. เป็นหวยที่ออกเป็นตัวอักษรของไทย 34 ตัว ทุกตัวมีชื่อที่เป็นภาษาจีนกำกับ โดยออกวันละ 2 รอบ คือ 4 โมงเย็น และ ตี 2-3 และถ้าถูกเจ้ามือจะจ่ายให้ 30 เท่า

สำหรับในพระนคร โรงหวย ก.ข. อยู่บริเวณประตูสามยอด และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนกระจายไปยังต่างจังหวัด ซึ่ง “ยี่กอฮง” คือเจ้าของโรงหวยขนาดใหญ่ของพระนคร และในทุกวันท่านจะเป็นคนหยิบตัวอักษรเองกับมือ

จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์มีพระบรมราชโองการประกาศยกเลิกหวยและบ่อนเบี้ยทั้งหมด ยี่กอฮงจึงต้องปิดโรงหวยและหันไปประกอบกิจการค้าขายอื่นๆ รวมถึงก่อนหน้านั้นมีการปรับภาษีโรงบ่อนสูงมากขึ้น ทำให้ท่านติดเงินภาษีกับรัฐอีกมากมายจนกลายเป็นผู้ล้มละลาย และถูกยึดทรัพย์ไปเป็นของหลวง

แต่ถึงกระนั้นในแต่ละปีที่ท่านดำรงตำแหน่งนายอากร ท่านนำรายได้ส่งท้องพระคลังเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญท่านยังบริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ของส่วนรวมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน สะพาน หรือโรงเรียน เช่น โรงเรียนอนุวัตน์ศึกษาคาร หรือโรงเรียนโยธินบูรณะในปัจจุบัน, โรงเรียนป้วยเอง หรือโรงเรียนเผยอิง, โรงเรียนช่องฟ้าซินเชิงวาณิชบำรุง จังหวัดเชียงใหม่, คณะเก็บศพไต้ฮงกง หรือมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งในปัจจุบัน, ถนนเตชะวณิช, สะพานอนุวัตน์วโรดม, สะพานนิยมนฤนาถ, สะพานฮงอุทิศ, ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลหัวเฉียว, ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า, บริจาคเงินซื้อเรือรบหลวงพระร่วง และสร้างท่าน้ำฮั่วเซียม

ด้วยคุณความดีนี้เองพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้เป็น “พระอนุวัฒน์ราชนิยม” รองหัวหมื่นกรมมหาดเล็ก เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2461 และพระราชทานนามสกุลให้ว่า “เตชะวณิช” และถือว่าท่านคือต้นตระกูลเตชะวณิชนั่นเอง นอกจากนั้น ยังโปรดฯ ให้ยี่กอฮงอาศัยอยู่ในบ้านเดิมคือบริเวณพลับพลาไชย ตรงข้ามกับวัดคณิกาผลไปจนตลอดชีวิต และยกหนี้ที่คงค้างหลวงให้

บั้นปลายชีวิต “ยี่กอฮง” เสียชีวิตอย่างสงบที่บ้านพักใน พ.ศ. 2479 รวมอายุได้ 86 ปี หลังจากนั้นหลวงได้นำที่ดินบริเวณบ้านเดิมของท่านมาสร้างเป็นสถานีตำรวจพลับพลาไชยขึ้นแทน และได้สร้าง “ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” ไว้บนดาดฟ้าชั้น 4 ของสถานีตำรวจ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเจ้าของเดิม ผู้ที่ได้ชื่อว่าซื่อสัตย์และสร้างคุณความดีให้กับประเทศ

ด้วยความที่ “ยี่กอฮง” เป็นเจ้าของโรงหวยผู้คนจึงนิยมมากราบไหว้เพื่อขอพร ขอหวย และขอโชคลาภจากท่าน จนกลายเป็น “อากง” ของนักเสี่ยงโชค และหลายคนขนานนามให้ท่านเป็นเทพเจ้าหวยองค์แรกแห่งสยามประเทศ โดยทุกวันที่ 5 มีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันเสียชีวิตของท่าน ทายาทร่วมกับผู้ที่เคารพเลื่อมใสและสถานีตำรวจพลับพลาไชยจะจัดทำบุญเพื่อระลึกถึงท่านในทุกปี

ปัจจุบันมีผู้คนเดินทางไปไหว้ขอพรที่ “ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” เป็นจำนวนมาก และไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชาวฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ที่เคารพเลื่อมใสและเดินทางมากราบไหว้ขอพรที่ศาลด้วยเช่นกัน และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แม้ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่การเดินทางระหว่างประเทศยังไม่สามารถทำได้สะดวกนัก ก็ยังมีการไหว้ขอพรผ่านวิดีโอคอลจากคนแดนไกลให้เราได้เห็นด้วยเช่นกัน

ถึงตรงนี้คงมีหลายคนอยากทราบว่าแล้วขั้นตอนในการไหว้ขอพร “ศาลพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง” นั้นมีอะไรบ้าง ซึ่งทางศาลมีคำแนะนำในการไหว้ดังนี้

1. ถวายกาแฟ ชา หมากพลูต่อหน้า “ยี่กอฮง” พร้อมกล่าวชื่อนามสกุล กล่าวคำอธิษฐานขอถวายกาแฟและน้ำชา ขอให้ท่านเมตตาเปิดทางขุมทรัพย์การเงิน มีโชคมีลาภ สมหวังทุกประการ

2. จุดธูป เทียน นำธูป 5 ดอกไหว้ฟ้าดิน ขานชื่อขอฟ้าดินเปิดทางให้มีโชคลาภ การเงิน การงาน

3. นำธูปอีก 9 ดอก มาไหว้ยี่กอฮง กล่าวคำบูชา ขานชื่อนามสกุล ขอพร

4. นำธูปอีก 2 ดอก ปักในกระถางหน้าประตูฝั่งละ 1 ดอก ซ้ายและขวา

5. นำพวงมาลัยไปถวาย “ยี่กอฮง” จับที่เข่าของท่านทั้ง 2 ข้างอธิษฐาน อย่าลืมกล่าวชื่อตัวเองแล้วเอ่ยขอพร

6. เติมน้ำมันตะเกียงฝั่งละครึ่งขวด แล้วแกะหมากพลู พร้อมกับจุดบุหรี่ ก่อนที่จะวางบุหรี่ที่แท่นวาง บอกกล่าวว่าลูกนำบุหรี่มาถวาย

7. ตีระฆัง 3 ครั้ง ตีกลอง 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

ซึ่งเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละคน แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือ คุณงามความดีและการทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมที่ “ยี่กอฮง” ได้เพียรกระทำมาในอดีต ผ่านการสร้างสะพาน โรงเรียน และมูลนิธิต่างๆ ซึ่งสถานที่เหล่านั้นยังคงสร้างประโยชน์ให้กับสังคมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

(ภาพ: KTC Press Club)

ใส่ความเห็น