การท่องเที่ยวแบบ Camping กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปี 2562 จนกระทั่งปัจจุบัน แม้สถานการณ์โรคไวรัสโควิดจะทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ระยะหนึ่ง แต่ตลาดซื้อขายอุปกรณ์แคมปิ้ง และช่องทางการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการกางเต็นท์ไม่เคยแผ่วลงไปแม้แต่น้อย
แม้จะไม่มีใครตอบได้ว่า เพราะเหตุใดกระแสการท่องเที่ยวแนวแคมปิ้งจึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง แต่ข้อดีของการท่องเที่ยวแนวนี้คือ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แม้บางพื้นที่การเดินทางจะไม่สะดวกสบายเท่าใดนัก แต่ภาพจำของการแคมปิ้งสำหรับบางคนอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากเดิมการเดินทางที่ต้องบุกป่าฝ่าดง ลุยๆ ผจญภัย เลอะเทอะ เปียกปอนผสมกันไป แต่หยาดเหงื่อและเสียงหัวเราะกับผู้ร่วมทางมักจะเกิดขึ้นเสมอ
ปัจจุบันกิจกรรมแคมปิ้งกลายเป็นกิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมได้ทั้งครอบครัว ทุกเพศทุกวัย เพราะนอกจากลานกางเต็นท์ในพื้นที่อุทยานต่างๆ แล้ว ยังมีผู้ประกอบการเอกชนจำนวนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสของการเติบโตของตลาดนี้ เบนเข็มเข้ามาชิมลางความหอมหวานของธุรกิจลานกางเต็นท์กันอย่างหนาแน่น
เรียกได้ว่าพื้นที่รัศมี 150 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานคร ค้นหาลานกางเต็นท์ได้ง่ายมากขึ้น ทุกวันนี้ลานกางเต็นท์เอกชนเปิดใหม่มากถึง 500 แห่ง ซึ่งทำให้ตลาดปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงขึ้น แน่นอนว่านี่กลายเป็นข้อดีของนักท่องเที่ยวที่มีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งนอกจากผู้ประกอบการลานกางเต็นท์เอกชนจะแข่งขันกันด้วยทัศนียภาพ ความสวยงามของธรรมชาติในพื้นที่ที่ตัวเองมี ผู้ประกอบการลงทุนเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภค เช่น ร้านจำหน่ายอาหารหรือร้านค้าขนาดเล็ก ห้องสุขา และห้องอาบน้ำ
แม้กระแสความนิยมการท่องเที่ยวแบบแคมปิ้งจะสร้างให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทั้งต่อตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องธุรกิจการท่องเที่ยวในท้องที่
เมื่อสังคมมีขนาดใหญ่ขึ้น สิ่งหนึ่งที่ตามมาคือปัญหาจากผู้คนที่มักจะละเลยต่อกฎระเบียบ และไม่สนใจที่จะแสดงมารยาทที่ดี มีการพูดคุยกันในกลุ่มสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการกางเต็นท์ถึงปัญหาที่พบเจอเป็นประจำ ได้แก่ การใช้เสียงดังเกินควรในยามวิกาล การขาดจิตสำนึกที่ดีต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และอีกหลายๆ ปัญหา ซึ่งทำให้ผู้ที่ประสบพบเจอขาดความสนุก และยังเสียสุขภาพจิตทั้งที่ตั้งใจไปพักผ่อนอย่างแท้จริง
“ผู้จัดการ 360 องศา” รวบรวมมารยาทที่ดีที่เหล่านักแคมปิ้งมือใหม่ควรศึกษา เพื่อให้การท่องเที่ยวแบบใหม่ของคุณมีความสุข และไม่รบกวนเพื่อนชาวแคมปิ้ง
1. พกมารยาทไปด้วย และปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของพื้นที่อย่างเคร่งครัด เพราะแต่ละคนมีจุดประสงค์ในการท่องเที่ยวแตกต่างกัน บางคนทำงานมาทั้งปีและเพิ่งหาเวลาพักผ่อนได้ การเลือกท่องเที่ยวแบบแคมปิ้งเพื่อต้องการจะใกล้ชิดธรรมชาติ นำพาตัวเองอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแสงสีเสียงอึกทึกครึกโครมและความวุ่นวายของเมือง เพื่อให้ธรรมชาติได้บำบัดจิตใจ นำร่างกายมาเติมพลังก่อนจะกลับไปเริ่มงานใหม่อีกครั้ง ทว่า สิ่งที่หลายคนพบเจอคือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาเพื่อเปลี่ยนสถานที่กินดื่ม เปิดคอนเสิร์ตกลางป่า พูดคุยกันด้วยเสียงอันดังเกินควร และเกินเวลาที่สถานที่กำหนด การกระทำเหล่านี้นอกจากจะไม่เคารพกฎระเบียบของสถานที่แล้ว ยังไร้มารยาทต่อเพื่อนนักเดินทางคนอื่นๆ แน่นอนว่า หากเป็นพื้นที่กางเต็นท์ของอุทยานฯ เจ้าหน้าที่มักจะคอยตรวจตราเป็นระยะและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามกฎเป็นอย่างดี ขณะที่ลานกางเต็นท์เอกชน เจ้าของสถานที่บางแห่งมักจะอะลุ่มอล่วยมากเกินไป หากต่างคนต่างแสดงมารยาทเชื่อว่า สังคมแคมปิ้งคงจะไม่มีการบ่นเรื่องการใช้เสียงเกินเวลาแน่นอน
2. ท่องเที่ยวอย่างไม่ทำลาย ทำร้ายธรรมชาติ การท่องเที่ยวแบบแคมปิ้งมักจะมีอุปกรณ์จำนวนมาก ทั้งอุปกรณ์หลักที่จำเป็น และบางกลุ่มมักจะมีการประกอบอาหารหรือนำอาหารหรือเครื่องดื่มมาด้วยเสมอ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมก่อนที่จะเดินทางออกจากสถานที่คือ การทำความสะอาดในพื้นที่ที่ตัวเองใช้งาน สำรวจว่าได้ทิ้งอะไรที่ไม่ควรไว้ตามธรรมชาติหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะเข้าพักในพื้นที่อุทยานฯ หรือลานกางเต็นท์เอกชน เพื่อเป็นการแสดงมารยาทที่ดีของนักแคมปิ้ง นำขยะที่เกิดขึ้นจากตัวเองออกไปทิ้งนอกสถานที่ หรือในจุดที่กำหนด เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของสถานที่และนักเดินทางกลุ่มต่อไป
3. เก็บอุปกรณ์กางเต็นท์ให้ครบ เมื่อต้องออกจากที่พัก ถอนสมอหรืออุปกรณ์อื่นๆ กลับให้ครบ และควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง เพราะอาจเกิดอันตรายต่อผู้ที่มากางเต็นท์ที่มาเช็กอินภายหลัง
4. ไม่กางเต็นท์บังวิวผู้อื่น เราอาจเห็นพื้นที่ว่างริมลำธาร ริมแม่น้ำ หากเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวกางเต็นท์บริเวณดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว แสดงความน่ารักด้วยการเดินเข้าไปสอบถามสักนิดว่า พื้นที่ว่างจุดนั้นสามารถกางเต็นท์ได้หรือไม่ เพราะบางครั้งชาวแคมปิ้งอาจเว้นพื้นที่ดังกล่าวไว้ เพื่อแบ่งปันวิวทิวทัศน์ต่อเพื่อนนักเดินทางคนอื่นๆ หลายคนอยากตื่นขึ้นมาเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติ นั่งดื่มกาแฟหน้าเต็นท์แล้วเสพบรรยากาศตรงหน้ามากกว่าจะเห็นหลังคาเต็นท์ของคนอื่นแน่ๆ
5. ไม่ตั้งเตาก่อไฟบนพื้นดินหรือพื้นหญ้าโดยตรง หากมีอุปกรณ์ทำอาหารหรือเครื่องดื่มมาด้วย ควรเตรียมอุปกรณ์มารองรับเตาแก๊สปิกนิก เพื่อเป็นการดูแลรักษาพื้นที่ดังกล่าว และยังปลอดภัยต่อผู้ที่มากางเต็นท์หลังจากที่เราออกไปแล้ว
6. ไฟประดับถึงจะสวยงาม แต่ควรปิดเมื่อถึงเวลา นอกจากเต็นท์ ถุงนอน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการตั้งแคมป์แล้ว ปัจจุบันยังมีออปชันอื่นๆ อีกมากมายที่ผู้ผลิตนำมาวางจำหน่ายเพื่อดูดเงินจากกระเป๋าของเหล่าแคมปิ้งมือใหม่ แน่นอนว่ามุมหนึ่งไฟประดับเต็นท์และบริเวณโดยรอบมีไว้เพื่อให้แสงสว่างยามค่ำคืน นอกจากนี้ ยังช่วยให้การถ่ายรูปสวยขึ้นอีกด้วย แต่ในบางครั้งแสงสว่างเหล่านี้อาจรบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นในเวลาพักผ่อน แสงที่เหมาะสมที่สุดควรเป็นสีเหลืองนวล หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ปิดไฟเมื่อถึงกำหนดเวลาของสถานที่ เพื่อให้เพื่อนร่วมลานได้พักผ่อนโดยที่ไม่มีแสงสว่างลอดเข้าไปในเต็นท์ และใช้เพียงไฟฉายเมื่อต้องเดินไปทำกิจธุระที่จำเป็น
การพกมารยาทไปด้วยในการแคมปิ้งเป็นสิ่งจำเป็นไม่ต่างจากอุปกรณ์ราคาแพงเหล่านั้น นอกจากนี้การแสดงมารยาทที่ดียังเป็นการทำให้สังคมของการแคมปิ้งน่ารัก และเป็นที่กล่าวถึงในทางที่ดีอีกด้วย