หลังจากที่โลกเราทำความรู้จักกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตของมนุษยชาติ และก่อวิกฤตทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศ นักวิจัยเริ่มพัฒนาวัคซีนขึ้นมาเพื่อหวังให้เป็นเกราะป้องกันมนุษย์จากเชื้อไวรัส
ปัจจุบันมีวัคซีนที่ถูกพัฒนาแล้วหลายบริษัท เช่น ซิโนแวค แอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งประสิทธิภาพของวัคซีนก็แตกต่างกันไปตามเทคโนโลยีการผลิต
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฉีดวัคซีนจะเป็นเรื่องความสมัครใจ ทว่า รัฐบาลของแต่ละประเทศต่างเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่หรือ Herd Immunity ซึ่งนอกจากจะลดโอกาสการติดเชื้อแล้ว ยังช่วยให้สามารถเปิดประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น
ก่อนการเข้ารับการฉีดวัคซีน สิ่งที่พึงปฏิบัติเพื่อให้ร่างกายพร้อมที่สุดคือ
1. การพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ซึ่งการพักผ่อนให้เพียงพอนั้น ส่งผลต่อสภาพร่างกายโดยรวม ทั้งในเรื่องของความดันที่แต่ละคนต้องรับการตรวจเช็กก่อนฉีดวัคซีน หากความดันสูงหรือต่ำเกินไป เจ้าหน้าที่การแพทย์จะวินิจฉัยไม่ให้รับวัคซีน
2. ดื่มน้ำเปล่าปริมาณมากๆ การดื่มน้ำ 2-3 ลิตรเป็นอย่างน้อยก่อนรับวัคซีน จะช่วยบรรเทาอาการที่จะเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนได้เป็นอย่างดี
3. ไม่ออกกำลังกายหนักเกินไป หากเป็นผู้ที่ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องหยุด เพียงแต่ให้ปรับระดับความหนักของการออกกำลังกายให้เบาลง อย่าหักโหม อาจลดเวลาออกกำลังกาย หรือปรับรูปแบบการออกกำลังกาย เช่น โยคะ พิลาทิส หรือยืดเหยียด
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ปล่อยให้หิวหรือท้องว่าง ก่อนเข้ารับวัคซีน เพราะอาจทำให้ผู้รับวัคซีนเป็นลม เนื่องจากบางสถานที่อาจมีคนจำนวนมากทำให้ใช้เวลารอนาน หรือสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดได้ง่าย
5. กาแฟดื่มได้ปกติ สำหรับผู้ที่ดื่มเป็นประจำทุกวัน ไม่ควรงด เพราะหากงดอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ หากมีอาการดังกล่าวในช่วงเวลาสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน อาจทำให้สับสนและเข้าใจว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่ไม่ได้ดื่มกาแฟเป็นประจำ ควรงดดื่มกาแฟ
6. ยารักษาโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดไขมัน สามารถกินได้ต่อเนื่อง ยกเว้น ยากดภูมิต้านทานไม่ควรหยุดเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
หลังจากฉีดวัคซีน แต่ละคนร่างกายจะแสดงผลข้างเคียงแตกต่างกันไปตามสภาพความแข็งแรงของร่างกาย ในคนที่ร่างกายแข็งแรง เช่น กลุ่มคนเล่นกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำ หากได้รับวัคซีนบางยี่ห้ออาจมีเอฟเฟกต์มากกว่าบุคคลทั่วไป ทั้งนี้อาการข้างเคียงโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการดังต่อไปนี้
1. ปวด บวม แดง หรือรู้สึกตึงบริเวณที่ฉีด
2. ปวดศีรษะ เวียนหัว
3. มีไข้ต่ำๆ
4. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
5. คลื่นไส้ อาเจียน
แต่ในกรณีที่มีอาการข้างเคียงรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันที ได้แก่
1. มีไข้สูงต่อเนื่อง ปวดศีรษะรุนแรง
2. แน่นหน้าอก หายใจลำบาก
3. ผื่น ลมพิษขึ้น หรือมีจุดเลือดออกจำนวนมาก
4. อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง
5. ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง
6. ชัก หมดสติ
หลังการฉีดวัคซีนข้อควรปฏิบัติคือ
1. ดื่มน้ำเปล่าปริมาณมาก
2. เมื่อเริ่มรู้สึกมีไข้ ควรรับประทานยาพาราเซตามอลทันที
3. พักผ่อนให้เพียงพอ
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ผลไม้ที่มีวิตามินซี
5. ไม่กด หรือบีบนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ
อาการที่เกิดจากการฉีดวัคซีนจะค่อยๆ ทุเลาลงภายใน 2-3 วัน แน่นอนว่า แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ยังคงต้องรักษามาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ใส่หน้ากากอนามัย ใช้ช้อนกลาง หรือแยกสำรับอาหารแม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เพราะการติดเชื้อในระลอกสาม ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักได้รับเชื้อจากบุคคลในครอบครัว