ยักษ์ออนไลน์หลายค่ายต่างเตรียมพร้อมกลยุทธ์ลุยตลาดในปีหน้ารับพฤติกรรมนักชอปที่หันมาจับจ่ายผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซมากขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ใช่ New Normal ช่วงโควิด-19 ระบาดเท่านั้น แต่กลายเป็นวิถีชีวิต Now Normal ส่วนหนึ่งของผู้บริโภคยุคใหม่ไปเสียแล้ว
ยิ่งล่าสุด หลายฝ่ายเริ่มหวั่นวิตกกับการแพร่ระบาดระลอกสอง หลังเกิดเหตุผู้ลักลอบเดินทางจากประเทศเมียนมากลับเข้าไทยพร้อมเชื้อไวรัสอันตราย ยิ่งตอกย้ำวิถีชีวิต Now Normal ของหลายๆ กิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย ใช้เจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่าง และรวมถึงการจับจ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ โดยคาดการณ์ว่า ตัวเลขตลาดอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2564 มีแนวโน้มพุ่งสูงมากจากปี 2563 ที่ประเมินไว้จะทะลุเป้าหมาย 220,000 ล้านบาท อัตราเติบโตกว่า 35% จากปี 2562 ที่มีมูลค่าประมาณ 163,300 ล้านบาท
ภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเติบโตของอีคอมเมิร์ซก้าวกระโดดตลอด 8 ปีที่ผ่านมา และสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่งสปีดมากขึ้น โดยมีจำนวนลูกค้าใหม่เข้ามาใช้แพลตฟอร์มลาซาด้าเพิ่มขึ้นหลายล้านคน ภาคธุรกิจมีแบรนด์สินค้าและจำนวนผู้ขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
ที่สำคัญ ผู้คนและกลุ่มลูกค้าหลักใช้เวลาเยี่ยมชมแพลตฟอร์มพุ่งพรวด 30% โดยมีปัจจัยหลักทั้งการลดความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อ ความสะดวกสบาย จุดขายเรื่องการส่งสินค้าในเวลารวดเร็ว มีโปรโมชั่นฟรีชิปปิ้ง และสิทธิพิเศษ On Top มากมาย
ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ยังระบุว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่มีการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ทั่วประเทศใน 7 กลุ่มอาชีพ จำนวน 8,072 คน ผู้ซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจและกลุ่มนักศึกษา โดยนิยมซื้อสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มสมัยใหม่ เช่น ลาซาด้า (Lazada) ช้อปปี้ (Shopee) มากที่สุด คิดเป็น 46.45% ของกลุ่มตัวอย่าง
รองลงมา คือ กลุ่มห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ได้แก่ ห้างเทสโก้ โลตัส บิ๊กซี วัตสัน โรบินสัน มีผู้นิยมเข้าไปใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ ประมาณ 25.32% และช่องทาง Facebook 16.44%
สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนใหญ่มียอดซื้อต่ำกว่า 1,000 บาทต่อเดือน คิดเป็น 49.23% รองลงมา คือ 1,001 – 3,000 บาท 37.57% และมากกว่า 3,000 บาท 13.2% โดยภาพรวมประมาณการยอดการใช้จ่ายออนไลน์มีมูลค่าสูงถึง 52,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 7.8% ของยอดการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมของประเทศ
สินค้าและบริการที่นิยมซื้อผ่านออนไลน์มากที่สุด ได้แก่ เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์และของใช้ภายในบ้าน โดยเหตุผลหลักในการซื้อสินค้าออนไลน์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความสะดวก ราคาถูก และมีให้เลือกหลากหลาย
ตัวเลขที่สะท้อนภาพชัดเจนยิ่งขึ้น คือ จำนวนออเดอร์สั่งซื้อสินค้าพุ่งสูงในทุกแคมเปญพิเศษ โดยเฉพาะเทศกาลคนโสด 11.11 ที่ผ่านมา บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) ทำยอดขาย 1,000 ล้านบาท ใน 2 ชั่วโมงแรกและมียอดขายทั้งวันกว่า 6 ล้านออร์เดอร์ มีแบรนด์และผู้ขายทั่วประเทศกว่า 80,000 ราย สร้างรายได้จากแคมเปญนี้ และผู้ขายชาวไทยมากกว่า 450 ราย สร้างยอดขายกว่า 1 ล้านบาทในวันเดียว
ขณะที่สินค้าจากประเทศญี่ปุ่นเติบโตเพิ่มขึ้น 13 เท่า สินค้าของประเทศเกาหลีเติบโตขึ้น 25 เท่า และมีจำนวนนักชอปมากกว่า 260,000 คน แลกของขวัญฟรีในแคมเปญ 11.11
นอกจากนี้ ลาซาด้ายังใช้กลยุทธ์สร้างสีสันเปิดนิทรรศการศิลปะ Lazada Un(Expected) Box รูปแบบอินเทอร์แอกทีฟในห้องธีมต่างๆ 15 ห้อง ในคอนเซ็ปต์ต่างๆ เช่น ห้องรับแขกสไตล์โคซี่ ห้องแต่งหน้าสีสันสดใส สวนสวยช่อดอกไอวี่ จัดแสดงสินค้านานาชาติประเภทความงามและแฟชั่น เครื่องใช้และของประดับตกแต่งบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเปิดให้เข้าชมยาวถึงวันที่ 10 มกราคมปีหน้า ในศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อบัตรเข้าชมงานผ่านแอปพลิเคชันลาซาด้า ราคา 199 บาท และจะได้รับ Voucher มูลค่า 199 บาท ซื้อสินค้า LazGlobal และสินค้าจัดแสดงภายในงาน
ด้านช้อปปี้เปิดเผยว่า ช่วงแคมเปญ Shopee 11.11 Big Sale เครือข่ายช้อปปี้ใน 7 ประเทศ สามารถขายสินค้าได้กว่า 200 ล้านชิ้น ร้านค้ามีคำสั่งซื้อมากกว่าปกติ 10 เท่า มีการเล่นเกมบน Shopee มากกว่า 2,500 ล้านครั้ง และเข้าชม Shopee Live 20 ล้านชั่วโมง
ทั้งลาซาด้าและช้อปปี้จึงลุยหนักต่อเนื่องกับแคมเปญส่งท้ายปี 12.12 วันที่ 12 เดือนธันวาคม โดยลาซาด้าทุ่มแจกคูปองส่วนลด มูลค่า 1,212 บาท ทุกเที่ยงวันตั้งแต่วันที่ 4 -14 ธันวาคม ฟรีค่าจัดส่ง และรับเงินคืน 10% เมื่อช้อปสินค้าบน LazMall รวมถึงแคมเปญ Crazy Brand Mega Offers ดีลเด็ดจากแบรนด์ดังบน LazMall ตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสองของวันที่ 12 ธันวาคมนี้
ฝ่ายช้อปปี้ เปิดมหกรรม 12.12 Birthday Sale ตั้งแต่ต้นเดือนถึง 15 ธันวาคม เช่น โปรโมชั่นส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ Shopee 9 บาท ทุกวัน ช้อปรับเงินคืน 50% และจัดดีลเด็ดจากร้านอาหารชื่อดัง เพียงซื้อคูปองส่วนลดในราคาเพียง 1 บาท และนำไปสแกนจ่ายที่หน้าร้านอาหารตามที่ต้องการเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 50 บาท รวมทั้งงัดกลยุทธ์เกมโชว์ไลฟ์สดในวันที่ 12 ธันวาคม เวลา 18.00 – 20.00 น. ที่ช่อง 7 HD และในแอปพลิเคชันช้อปปี้ แจกรางวัล มูลค่า 12 ล้านบาท เช่น Samsung SMART TV 65 นิ้ว รถจักรยานยนต์ Yamaha Grand Filano Hybrid และ เงินสด 100,000 บาท
ขณะเดียวกันมีค้าปลีกหลายค่ายเร่งบุกช่องทางออนไลน์อย่างหนัก ทั้งกลุ่มเซ็นทรัล เดอะมอลล์ เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี หรือกลุ่มซีพี ที่มีทั้งร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ซีพีเฟรชมาร์ท รวมถึงแบรนด์สินค้าต่างๆ อย่างข้าวสารตราฉัตร
แม้กระทั่งธุรกิจร้านกาแฟที่ลูกค้าเคยชินกับการสั่งเมนูหน้าเคาน์เตอร์ ล่าสุดมีแบรนด์ระดับพรีเมียม พาคามาร่า คอฟฟี่ โรสเตอร์ (Pacamara Coffee Roasters) เปิดตัว พาคามาร่า โมบายล์ แอปพลิเคชัน Specialty Coffee Application สร้างฟังก์ชันการทำงาน ทั้งการเลือกสั่งเมนูเครื่องดื่ม เมล็ดกาแฟ เบเกอรี่ และสินค้าอื่นๆ ล่วงหน้า เหมือนมาสั่งเองที่ร้าน สามารถเปลี่ยนเมล็ดกาแฟ เปลี่ยนชนิดของนม เลือกระดับความหวาน เลือกสาขา และเลือกชำระเงินค่าสินค้าผ่านแอปฯ แถมโปรโมชั่นสะสมคะแนนรับสิทธิประโยชน์ พร้อมระบบการแจ้งเตือนสิทธิประโยชน์ใหม่ตลอดเวลา
ดังนั้น ในช่วงสถานการณ์เฝ้าระวังโควิดระลอกสองและยึดมาตรการเว้นระยะห่างจนกว่าจะมีการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างแพร่หลาย ตลาดออนไลน์ยังเป็นเทรนด์ฮิตทำกำไรรุ่งสุดๆ ในปี 2564 และอาจแข่งขันดุเดือดยาวถึงปี 2565-2566 ด้วย