‘โค้ก’ ส่งแคมเปญชวนผู้บริโภค “เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ” ร่วมฉลองช่วงเวลาของความสุขผ่านมื้ออาหาร

‘โค้ก’ ส่งแคมเปญชวนผู้บริโภค “เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ” ร่วมฉลองช่วงเวลาของความสุขผ่านมื้ออาหาร กับกิจกรรมการตลาดเน้นสร้างประสบการณ์ครบ 360 องศา

เครื่องดื่ม ‘โค้ก’ โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ส่งแคมเปญ ‘เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ’  ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉลองช่วงเวลาของความสุขระหว่างมื้ออาหาร จับอินไซต์ ‘เรื่องกินเรื่องใหญ่’ ชูความผูกพันระหว่างวัฒนธรรมอาหารกับคนไทยพร้อมเป็นสื่อกลางในการร่วมสร้างช่วงเวลาดีๆ ระหว่างมื้ออาหารกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่รัก เตรียมสื่อสารและสร้างเอนเกจเม้นต์กับผู้บริโภคผ่านทางกิจกรรมทางการตลาดสุดยิ่งใหญ่ครบ 360 องศา เต็มรูปแบบทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงอีเวนต์สุดพิเศษที่ ‘โค้ก’ เตรียมชูความพิเศษของอาหารสตรีทฟู้ดของไทย มาเป็นความภาคภูมิใจในการสร้างความความเชื่อต่อความสัมพันธ์บนโต๊ะอาหารที่ยาวที่สุดในโลก ท้าทายสถิติจากกินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ด (Guinness Book of World Record) ไปจนถึงเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ‘Coca-Cola Presents Siam Music Festival 2019’ สิ้นปีนี้

นางสาวมัณฑนา หล่อไกรเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญ ‘เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ’ มีที่มาจากกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของโคคา-โคล่า โดยยึดการรับฟังเสียงจากผู้บริโภคเป็นหลัก บวกกับการศึกษาและทำความเข้าใจเข้าใจอินไซต์ ‘เรื่องกินเรื่องใหญ่’ ของผู้บริโภคชาวไทย จากโจทย์นี้ ‘โค้ก’ มองว่าในวัฒนธรรมการกินของคนไทยนั้น เป็นมากกว่าการกินให้อิ่มท้อง แต่เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนได้มาได้มาลิ้มรสชาติของอาหาร สร้างความสัมพันธ์กับคนที่ล้อมวงลงนั่งแชร์ประสบการณ์ร่วมกันบนโต๊ะอาหาร และเครื่องดื่มโค้ก พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างช่วงเวลาพิเศษระหว่างมื้ออาหาร ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองช่วงเวลาดีๆ ให้ผู้บริโภคไม่เพียงได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยซ่าสดชื่น แต่ยังได้ดื่มด่ำทุกความรู้สึกพร้อมรังสรรค์ความสัมพันธ์ให้กับผู้คนที่ร่วมโต๊ะอาหารให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

ตลอดปีที่ผ่านมา ‘โค้ก’ ส่งแคมเปญ และนวัตกรรมต่างๆ ที่โดนใจผู้บริโภคเพื่อเขย่าตลาดน้ำอัดลมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกับภาพโฆษณา สุดฮิตบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนต้องซูมดูภาพรอยยิ้มที่อยู่ในฟองฟู่ของ ‘โค้ก’ ไปจนถึงการแสดงแสงและเสียงที่จอ LED ยักษ์ของเซ็นทรัลเวิลด์ ที่เปรียบเสมือนคำชวนให้เห็นว่า การกินอาหารเป็นได้มากกว่าแค่เติมเต็มให้ท้องอิ่ม แต่ยังเป็นการเติมความสุขให้กับผู้บริโภคด้วย ส่งให้ ‘โค้ก’ ครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างเหนียวแน่น โดยจากรายงานดัชนีค้าปลีกของบริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด นั้น ‘โค้ก’ เป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 35% ของตลาดน้ำอัดลมทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณห้าหมื่นล้านบาทเมื่อปี พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ โคคา-โคล่า ยังได้รับการประกาศจากนิตยสาร BrandAge ให้เป็น Thailand’s Most Admired Brand ในกลุ่มสินค้าน้ำอัดลมต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 อีกด้วย

สำหรับแคมเปญ ‘เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ’ นี้ ‘โค้ก’ เน้นการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านหลายช่องทางครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่พร้อมวลีโดนใจอย่าง เปลี่ยนมื้อเหงา เป็นมื้อเรา หรือ เปลี่ยนปิ้งย่างสุกๆ เป็นปิ้งย่างสุขๆ สื่อโฆษณานอกบ้านที่ร่วมมือกับร้านเด็ดร้านดังทั่วกรุงเทพโปรโมทเมนูเด็ดให้กลายเป็นมื้อที่พิเศษกว่าเดิม และสื่อดิจิทัลทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค นอกจากนี้ ยังเน้นสร้างการรับรู้ และให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่างๆ ของ ‘โค้ก’ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนให้ผู้บริโภคร่วมสนุกกับการมาเปลี่ยนจานเด็ดจาก 50 ร้านอาหารชื่อดังที่ ‘โค้ก’ รวบรวมไว้ให้กลายเป็นมื้ออาหารผ่านแคปชั่นเด็ดๆ ตามสไตล์ของผู้บริโภค การจับมือกับซูเปอร์แอปอย่าง “แกร็บ” และแพลตฟอร์มอาหารยอดฮิตอย่าง Starvingtime นำส่งความสดชื่นของเครื่องดื่ม ‘โค้ก’ คู่มื้ออาหารสุดโปรด และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความความสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ระหว่างมื้ออาหาร ท้าทายสถิติจากกินเนสส์ เวิลด์ เร็คคอร์ด ไปจนถึงการเติมความซ่าสดชื่นส่งท้ายปีด้วยเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ‘Coca-Cola Presents Siam Music Festival 2019’ ปลายปีนี้ ด้วยงบประมาณรวมกว่า 155 ล้านบาทตลอดระยะเวลาของแคมเปญ

“ตลอดปีที่ผ่านมาแคมเปญ และกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ของ ‘โค้ก’ นั้นได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้บริโภคชาวไทยมาโดยตลอด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ‘โค้ก’ จะได้ส่งผ่านความเชื่อของแบรนด์ว่าการกินอาหาร เป็นได้มากกว่าแค่เติมเต็มให้ท้องอิ่มผ่านทางแคมเปญ ‘เปลี่ยนมื้อธรรมดา เป็นช่วงเวลาพิเศษ’ และได้โอกาสเป็นสื่อกลางในการร่วมสร้างช่วงเวลาระหว่างมื้ออาหารในทุกวันของผู้บริโภค ให้เป็นช่วงเวลาดีดีในการเชื่อมสัมพันธ์เพื่อนฝูง ครอบครัว หรือคนรัก และเปลี่ยนช่วงเวลาในการกินอาหารที่เคยธรรมดา ให้มีความหมายกว่าที่เคย” นางสาวมัณฑนา กล่าว