Column: From Paris
เห็นผลงานของปาโปล ปิกัสโซ (Pablo Picasso) เมื่อไปเที่ยววัลโลริส (Vallauris) เมืองเล็กๆ ทางใต้ของฝรั่งเศส ความพิเศษอยู่ที่ปาโบล ปิกัสโซเคยมาใช้ชีวิตที่เมืองนี้ และเขียนภาพฝาผนังให้โบสถ์ด้วย ชื่อ La guerre et la paix สงครามและสันติภาพ
ปาโบล ปิกัสโซมีผู้หญิงหลายคนในชีวิต คือโอลกา โคคลอฟวา (Olga Khokhlova) มีลูกชื่อ Paolo ต่อมา Marie-Thérèse Walter มีลูกนอกสมรสชื่อ Maya ส่วนฟรองซ็วส จีโลต์ (Françoise Gilot) มีลูกนอกสมรส 2 คนคือ โคล้ด (Claude) และปาโลมา (Paloma) และสมรสกับฌาคเกอลีน รอค (Jacqueline Roque) ดังนั้นเมื่อปาโบล ปิกัสโซถึงแก่กรรมในปี 1973 จึงทิ้งมรดกมหาศาลไว้โดยไม่ได้ทำพินัยกรรม ทายาทผู้ชอบธรรมจึงมีเพียง 2 คน คือ เปาโล ปิกัสโซ และฌาคเกอลีน รอค ต่อมาในปี 1986 ฌาคเกอลีน รอคฆ่าตัวตาย สมบัติของเธอทั้งมวลจึงตกแก่คาเธอรีน อูแตง (Catherine Hutin) ลูกสาวที่เกิดจากการแต่งงานครั้งแรก สมบัติอันรวมไปถึงผลงานของปาโบล ปิกัสโซ
ในปี 2011 คาเธอรีน อูแตงยื่นคำร้องต่อศาลว่าเกิดการขโมยภาพเขียนของปาโบล ปิกัสโซ 258 ชิ้นจากอพาร์ตเมนต์ของเธอในปารีส ต่อมาในปี 2015 เธอฟ้องต่อศาลว่ามีการขโมยภาพเขียนของปาโบล ปิกัสโซอีกหลายชิ้น หนึ่งในนั้นอยู่ในความครอบครองของดมิทริ ริโบลอฟเลฟ (Dmitri Rybolovlev) เศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของสโมสรฟุตบอล AS Monaco แต่ดิมิทริ ริโบลอฟเลฟไม่รู้ที่มาของภาพเขียนที่เขาซื้อจากอีฟส์ บูวีเอร์ (Yves Bouvier) เขาเสนอคืนภาพเขียนแก่คาเธอรีน อูแตง แต่เธอไม่รับ เพราะภาพเขียนดังกล่าวเป็นกรณีความที่ดมิทริ ริโบลอฟเลฟฟ้องศาล กล่าวหาอีฟส์ บูวีเอร์ที่ฉ้อฉล ขายภาพเขียนแก่เขาในราคาที่เกินจริง
คาเธอรีน อูแตงไม่ได้หวงผลงานของปาโบล ปิกัสโซไว้เพียงคนเดียว แต่เธอให้พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ขอยืมไปจัดนิทรรศการ ดังในกรณีของ Pace gallery ที่นิวยอร์ก ซึ่งจัดนิทรรศการเกี่ยวกับปิกัสโซและฌาคเกอลีนในปี 2014-2015 เธอให้ยืมภาพเขียนหลายภาพด้วยกัน เมื่อส่งคืนมาหลังนิทรรศการ เธอส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ฟลาวิโ กาปิตูลินา (Flavio Capitulina) ตรวจสอบว่าเกิดความเสียหายหรือไม่ ฝ่ายหลังถามเธอว่าได้ขายภาพพอร์เทรตของแม่ซึ่งปาโบล ปิกัสโซวาดหรือเปล่า เพราะมีผู้คนมาจ้างเขาตรวจสอบ คาเธอรีน อูแตงตกใจที่ภาพเขียนดังกล่าวซึ่งเก็บในตู้เช่าที่เมืองแจนวิลลีเอร์ (Gennevilliers) ซึ่งเธอมอบหมายให้โอลิวีเอร์ โตมาส์ (Olivier Thomas) เป็นผู้เช่าในนามของเธอ โดยเธอเป็นผู้จ่ายค่าเช่าตลอดมา
โอลิวีเอร์ โตมาส์เข้ามาตีสนิทกับคาเธอรีน อูแตงในปี 2003 คอยแนะนำให้ความช่วยเหลือ เมื่อเธอขายบ้าน Notre-Dame-de-Vie ที่มูแจง์ (Mougins) อันเป็นบ้านที่ปาโบล ปิกัสโซเคยพำนักกับแม่เธอ โอลิวีเอร์ โตมาส์ได้เสนอว่าน่าจะขนเครื่องเรือนไปเก็บที่ตู้เช่าของบริษัท Art Transit ที่แจนวิลลีเอร์ ในปี 2010 เธอมอบหมายให้โอลิวีเอร์ โตมาส์ขายภาพเขียนของปาโบล ปิกัสโซ 14 ภาพ โดยที่เธอไม่รู้ว่าเขาขาย 12 ภาพแก่อีฟส์ บูวีเอร์ ซึ่งขายต่อในราคาที่สูงมาก โดยมีดมิทริ ริโบลอฟเลฟเป็นหนึ่งในผู้ซื้อ คาเธอรีน อูแตงได้รับเงินค่าขายภาพเขียน 3 งวดด้วยกัน งวดสุดท้ายเป็นเช็คธนาคารในลิกเตนสไตน์
เมื่อเกิดการฟ้องร้องกันไปมาโดยมีอีฟส์ บูวีเอร์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขากล่าวว่าเขาได้จ่ายเงินค่าภาพพอร์เทรตของฌาคเกลีน รอคแก่คาเธอรีน อูแตงแล้ว แต่เธอโต้ว่าเงินที่ได้รับเป็นค่าขายภาพ 12 ภาพ ทั้งยังกล่าวเสริมว่าเมื่อเธอฟ้องศาล เธอไม่ได้เจาะจงว่าใครเป็นผู้ถูกกล่าวหา ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม เพราะภาพพอร์เทรตของฌาคเกลีน รอค 2 ภาพดังกล่าว เธอไม่ได้เป็นผู้ขาย แต่หายไปจากตู้เก็บของเธอ และเป็นภาพที่อีฟส์ บูวีเอร์ขายแก่ดมิทริ รีโบลอฟเลฟ จึงได้ตระหนักว่าอีฟส์ บูวีเอร์ได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และเป็นผู้ไปขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ และเธอยังรู้อีกว่าดมิทริ รีโบลอฟเลฟมีภาพเขียนของปาโบล ปิกัสโซ 58 ภาพ ทั้งหมดอยู่ในตู้เก็บของเธอ
ผลงานของปาโบล ปิกัสโซ 258 ชิ้นที่หายไปจากอพาร์ตเมนต์ของคาเธอรีน อูแตงนั้นเกิดจากความประสงค์ของเธอที่จะให้ถ่ายรูปภาพเขียนทั้งมวล จึงจ้างคนมาทำงานที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ หนึ่งในผู้มาทำงานนำกุญแจบ้านของเธอไปก๊อบปี้ เมื่อเธอไม่อยู่ จึงสามารถเปิดประตูเข้ามาขโมยได้ และนำไปขายแก่อาร์ตแกลเลอรีแห่งหนึ่งในปารีส การสอบสวนพบผู้ต้องสงสัยแล้ว และเขาผู้นั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ ศาลจะพิพากษาในเร็ววันนี้