ช้อปปี้รุกขยาย SPayLater กระตุ้นต่อม “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง”

ยักษ์ใหญ่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ช้อปปี้ (Shopee) เดินหน้าเปิดเกมรุกขยายสินเชื่อดิจิทัล SPayLater ในประเทศไทย หวังกระตุ้นต่อมนักช้อป ฝ่าวิกฤตโควิดที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจ

ที่สำคัญ ไม่ใช่แค่การปลุกอารมณ์การจับจ่าย แต่ยังหมายถึงแผนช่วงชิงกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงและกวาดยอดขายบนสมรภูมิออนไลน์ที่มีคู่แข่งรายใหญ่ ทั้งลาซาด้า (Lazada) และเจดีเซ็นทรัล (JD CENTRAL) ซึ่งต่างฝ่ายต่างงัดกลยุทธ์ต่างๆ แจกคูปองลดแหลกทุกเทศกาล เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ได้มากที่สุด รวมถึงการผูกกลุ่มลูกค้าประจำผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปี้เพย์ (ShopeePay) ลาซาด้าวอลเล็ต (Lazada Wallet) ดอลฟินวอลเล็ต (Dolfin Wallet) และจอยเพย์ (Joy Pay)

จริงๆ แล้วบริการ SPayLater เปิดตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 โดยบริษัท ซีมันนี่ ในเครือข่ายช้อปปี้ ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ เอสเพย์เลเทอร์ (SPayLater)

ช้อปปี้ระบุว่า บริการนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อวงเงินสูงภายในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อนำมาชำระค่าสินค้าบนแอป Shopee โดยไม่ต้องใช้หลักประกันใดๆ และลูกค้าสามารถเลือกจ่ายทีหลัง ระยะเวลาตั้งแต่ 1-3 เดือน ไม่ต้องมีบัตรเครดิตหรือสินเชื่อธนาคารแบบเดิมๆ

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาช้อปปี้จึงเร่งดึงกลุ่มร้านค้าผู้ขายเข้ามาร่วมบริการเอสเพย์เลเทอร์มากขึ้น ชนิดที่ว่า ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าทุกประเภทและทุกระดับราคาแบบไม่มีขั้นต่ำ ซื้อก่อนแล้วจ่ายทีหลังได้ เพื่อกระตุ้นการซื้อแบบไม่จำกัด

ขณะที่ปัจจุบันในแอปมีช่องทางการชำระเงินให้ลูกค้าเลือกหลายช่องทาง ทั้งการเก็บเงินปลายทาง การชำระผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิต การชำระผ่าน IBanking หรือ Mobile Banking ผ่านแอปของธนาคารต่างๆ การชำระผ่าน ATM โอนผ่านบัญชีธนาคาร การชำระผ่านบริการช้อปปี้เพย์และเอสเพย์เลเทอร์ โดยเฉพาะการจ่ายผ่านช้อปปี้เพย์และเอสเพย์เลเทอร์มักเพิ่มโปรโมชัน เช่น คูปองส่วนลดเงินสด คูปองส่วนลดพิเศษ คูปองฟรีค่าส่ง ให้กลุ่มลูกค้าใหม่หันมาจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จะเป็นผู้คัดเลือกกลุ่มลูกค้าชั้นดีที่มียอดออเดอร์สูง เมื่อผ่านคุณสมบัติและเงื่อนไขแล้วจะได้รับการอนุมัติวงเงิน ซึ่งจำนวนแตกต่างกันไปตามการพิจารณาประวัติการใช้จ่ายในแพลตฟอร์ม Shopee แต่มีวงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 1 แสนบาท

ล่าสุด บริษัทเผยแพร่บทความในแอป หลังมีผู้สนใจเข้าสอบถามจำนวนมาก เพื่อแจกแจงข้อดีและดึงดูดกลุ่มลูกค้าร่วมสมัครผ่านแอปพลิเคชัน เพียงกรอกข้อมูลส่วนตัวพร้อมอัปโหลดรูปถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนและรูปถ่ายหน้าตรงพร้อมบัตรประจำตัว ระบุอาชีพ รายได้และแนบเอกสารประกอบเพิ่มเติม ไม่เสียค่าธรรมเนียมการสมัคร จากนั้นจะแจ้งผลการสมัครผ่านทางแจ้งเตือนในแอปพลิเคชั่น ภายใน 1 วัน

จากการสำรวจข้อมูลจากแอปพลิเคชัน Shopee ระบุข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้งาน SPayLater คือ ผู้ใช้บริการต้องมีสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อลงทะเบียนกับ SPayLater 1 บัตรประชาชนต่อ 1 บัญชี และมีอายุมากกว่า 20 ปี แต่มีเงื่อนไข คือไม่สามารถเปลี่ยนวิธีการชำระเงิน หรือยกเลิกคำสั่งซื้อในระหว่างที่ของจัดส่ง ไม่สามารถใช้ SPayLater ในการซื้อผลิตภัณฑ์จากหมวด “บัตรกำนัล (Voucher)” ผลิตภัณฑ์จากหมวดเครดิต ตั๋วเงิน บัตรกำนัล และทองคำ

สำหรับวิธีการชำระเงินด้วย SPayLater มี 2 รูปแบบ คือ ช้อปตอนนี้ จ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) และผ่อนชำระ (Installment) ซึ่งเลือกผ่อนได้ถึงมากสุด 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกบวกค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินที่ได้รับอนุมัติ

ส่วนกรณีชำระล่าช้าจะถูกเก็บค่าติดตามทวงถามหนี้ 100 บาทต่อรอบบัญชี เเละบัญชี SPayLater จะถูกระงับจนกว่าลูกค้าชำระยอดหนี้เข้ามา เพื่อไม่ให้เกิดหนี้เสียและคัดเกรดลูกค้าแบบอัตโนมัติ

คงต้องยอมรับว่า สินเชื่อดิจิทัลกำลังมาแรงและเป็นกลยุทธ์ใหม่ของหลายๆ แพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเน้นจุดขายหลัก คือ เข้าถึงสินเชื่อสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องยื่นเอกสาร บางแบรนด์อ้างระบบ AI ตรวจสอบฐานะทางการเงินของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ แต่เหนืออื่นใด หากผู้กู้ขาดวินัยทางการเงิน ไม่บันยะบันยัง นั่นย่อมหมายถึงโอกาสการก่อหนี้ทับถมปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศไทยรุนแรงหนักขึ้นอีก