Home > Life (Page 44)

สถานภาพผู้สูงอายุทั่วโลกสั่นคลอน

 ไม่มีใครปฏิเสธว่า เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มีบทบาทเปลี่ยนแปลงไม่เฉพาะวิธีการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ยังมีอิทธิพลต่อวิธีจัดการชุมชนยุคศตวรรษที่ 21 ของเราด้วย ผลการศึกษามากมายพบว่า ขณะที่สังคมพัฒนาสู่ความทันสมัยมากขึ้น ผู้สูงอายุยิ่งสูญเสียอำนาจทางการเมืองและสังคม รวมทั้งอิทธิพลและภาวะผู้นำ ซึ่งมักนำไปสู่การมีส่วนร่วมในสังคมน้อยลงเรื่อยๆ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุในทั่วโลกมีหลากหลายด้วยกัน อาทิ ประชากรสูงอายุ เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม “การมีอายุมากขึ้นจัดเป็นกระบวนการทางวัฒนธรรมและชีววิทยา” Gyoung–Hae Han แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล เขียนในหนังสือ Tradition and Modernity in the Culture of Aging in Korea ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Korea Journal of Population and Development อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวต่อไปว่า ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบันกำลังครอบงำมุมมองเชิงวัฒนธรรมของการมีอายุมากขึ้น โดยหันมาให้ความสำคัญกับความอ่อนเยาว์และผลิตภาพทางการเงิน แต่ไม่ให้คุณค่ากับความสูงวัยและประสบการณ์ แม้วัฒนธรรมในเกาหลี ญี่ปุ่น จีน และประเทศเอเชียอื่นๆ จะยังให้เกียรติและถือเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลพ่อแม่ผู้ชรา แต่การพัฒนาสู่ความทันสมัยได้เข้ามากัดกร่อนและทำลายประเพณีหลายอย่างที่ยึดถือกันมาช้านาน จีนกำลังเผชิญกับภาวะเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรุนแรง จากการที่ลูกๆ แยกตัวออกไปทำงาน

Read More

พิพิธภัณฑ์ต่างจังหวัด

 ฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมมาก นักคิด นักเขียน อาร์ติสต์แขนงต่างๆ หรือแม้แต่นักการเมือง และผู้มีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศ ล้วนมีค่าควรแก่การจดจำ ในฝรั่งเศสจึงมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ มากมาย กระจายไปตามเมืองต่างๆ กุสตาฟ กูร์เบต์ (Gustave Courbet) เป็นจิตรกรยุคก่อนอิมเพรสชั่นนิสต์ เป็นหนึ่งในผู้นำร่องในการแหกกฎของราชบัณฑิตยสภาสาขาวิจิตรศิลป์ ด้วยการเขียนรูปเกี่ยวกับชาวบ้านขนาดใหญ่ ซึ่งแต่เดิมสงวนให้แต่บุคคลสำคัญ นอกจากนั้นยังพันผูกกับการเมือง มีส่วนร่วมในการลุกฮือของชาวปารีสในยุคที่เรียกว่า Commune de Paris เคยเขียนหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐให้ย้ายเสากลางปลาซ วองโดม (Place vendôme) ไปติดตั้งที่โอเต็ล เดแซงวาลีดส์ (Hôtel des Invalides) แทน เพราะเป็นเสาที่จารึกการสงครามของนโปเลอง (Napoléon) อันเป็นยุคจักรวรรดิ ไม่มีคุณค่าแต่อย่างใด ช่วง Commune de Paris ชาวปารีส เขาเกิดที่ออร์นองส์ (Ornans) เมืองนี้จึงทำบ้านที่เขาเคยพำนักเป็นพิพิธภัณฑ์ วินเซนต์ วาน โก๊ก (Vincent Van Gogh) เดินทางไปเมืองอาร์ลส์

Read More

กายวิภาคอาการปวดศีรษะ

 ว่ากันว่าชาวออสเตรเลียประมาณ 6 ล้านคน ต้องทุกข์ทรมานกับอาการปวดศีรษะหรือปวดไมเกรนเป็นประจำ ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าเกิดจากสาเหตุทุกอย่างตั้งแต่น้ำหอม ไส้กรอก การหยุดยาบางประเภท ภาวะขาดน้ำ หรือแม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์ “อาการปวดศีรษะตามปกติที่มีสาเหตุจากความเครียดและกล้ามเนื้อตึงหรือเกร็งนั้น ไม่ถือว่าเป็นอันตราย แต่ถ้าเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน รุนแรง และมีอาการวิงเวียนหรือการมองเห็นผิดปกติร่วมด้วย ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ละเลยไม่ได้เด็ดขาด” Dr. Ronald McCoy แห่ง Royal Australian College of General Practitioners อธิบาย ต่อไปนี้เป็นวิธีสังเกตอาการปกติของการปวดศีรษะพร้อมสาเหตุหรือสิ่งกระตุ้นและวิธีเยียวยา ปวดศีรษะจากภาวะตึงเครียดคุณรู้สึกมีอะไรกดทับบนศีรษะ รู้สึกตึงบริเวณหนังศีรษะ ขมับ หรือต้นคอ ซึ่งมีสาเหตุจากความเครียด วิตกกังวล และการกัดฟัน ถือเป็นอาการพื้นฐานที่สุด และเกี่ยวข้องกับภาวะที่กล้ามเนื้อหลังส่วนบน ศีรษะ และต้นคอตึงหรือเกร็ง เยียวยาด้วยการประคบน้ำแข็ง และรับประทานยาระงับปวด Dr. McCoy แนะนำว่า “การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยบรรเทาความตึงเครียดที่ว่านี้ได้เป็นอย่างดี” ปวดศีรษะจากผงชูรสคุณรู้สึกมีแรงกดบนขมับหรือปวดขมับตุ้บๆ ร่วมกับอาการตึงโดยรอบหน้าผาก เจ็บหน้าอกและวิงเวียน สาเหตุเพราะบริโภคสารกลูตาเมท เช่น ผงชูรสที่ใส่ในอาหาร รวมทั้งอาหารประเภททูน่ากระป๋อง นมผง มันฝรั่งทอดกรอบ

Read More

อาหารสร้างสุข

“ทั้งความสุขและกิจกรรมทางจิตวิทยาเชิงบวกทั้งหมด ล้วนมีรากฐานจากการบริโภคอาหารที่ถูกหลัก” คำกล่าวของ Dr. Drew Ramsey แห่ง Center for Mind Body Medicine และผู้เขียนร่วมหนังสือ The Happiness Diet “ถ้าคุณรู้สึกหงุดหงิดฉุนเฉียว หรือรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีแรง คงยากที่จะมีความคิดเชิงบวกได้ คุณจะรู้สึกไม่มีความสุข จึงจำเป็นมากที่เราต้องทำความเข้าใจว่า อาหารมีอิทธิพลต่อเราอย่างไร” การบริโภคอาหารผิดหลัก นอกจากมีผลทำให้เราหมดแรงเร็วกว่าปกติแล้ว ยังอาจทำให้รู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน สมาธิสั้น ซึ่ง Drew เป็นคนหนึ่งในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อว่า วิธีที่ดีที่สุดในการเยียวยาปัญหาสุขภาพจิตในปัจจุบันคือ การหวนกลับไปบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเรา เหมือนอย่างที่บรรพบุรุษทำกันมาเมื่อหลายพันปีก่อน เขาอธิบายว่า “มีการเปิดเผยข้อมูลมากมายที่เชื่อมโยงรูปแบบการบริโภคกับความเสี่ยงของโรคทางจิตใจที่สำคัญๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคสมาธิสั้น ดังนั้น ถ้าคุณไม่อยากพบจิตแพทย์ อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยคุณได้ จึงแนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคุณ” ไขมันกับความสุขกรดไขมันโอเมก้า-3 ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความสุขของเรา จากการที่มีคุณประโยชน์มหาศาลต่อร่างกาย เช่น ส่งเสริมสุขภาพหัวใจ สมอง ข้อต่อ ผิวหนัง ระบบภูมิคุ้มกัน

Read More

เปิดตัวอาหารระดับ “ซูเปอร์สตาร์”

 เป็นที่รู้กันดีว่า ปลาทะเลน้ำลึกที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง บร็อคโคลี และบลูเบอร์รี ได้ชื่อว่าเป็นอาหารมหัศจรรย์ที่ช่วยบำรุงสุขภาพให้ดีขึ้น แต่อาหารที่มีคุณสมบัติดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่นี้ ผลการวิจัยล่าสุดระบุมีอาหารระดับ “ซูเปอร์สตาร์” อีก 12 ชนิดที่คุณพลาดไม่ได้ดังนี้ ซิลเวอร์บีท (silverbeet)-ทำให้สายตาดีขึ้นรู้กันมานานแล้วว่า ลูทีนกับซีแซนทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่วิเศษมากในแง่ช่วยปกป้องสุขภาพสายตาในอนาคต จากการที่ช่วยให้นัยน์ตาของคุณสามารถทนทานต่อการทำลายจากรังสียูวี แต่การวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ยังระบุว่า ทั้งลูทีนและซีแซนทีนทำให้คุณมีสายตาแหลมคมขึ้นด้วย ศาสตราจารย์ Billy Hammond แห่งมหาวิทยาลัยจอร์เจียอธิบายว่า สารต้านอนุมูลอิสระจะมารวมตัวอยู่ด้านหน้าของลูกนัยน์ตา “เหมือนสวมแว่นกันแดดสีเหลืองไว้ภายในลูกตาของเรา สารดังกล่าวทำหน้าที่กรองแสงสีฟ้าซึ่งเป็นแสงที่มองเห็นได้ที่เป็นอันตรายที่สุด เมื่อแสงสีฟ้านี้กระจายตัวอยู่ในลูกตา ทำให้มีอาการแสบตา และเมื่อกระจายตัวอยู่ในบรรยากาศ ทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง” หากมีสารลูทีนและซีแซนทีนเคลือบนัยน์ตาอยู่ จะช่วยให้คุณมองเห็นได้ไกลขึ้นและชัดขึ้นด้วย แอปริคอตแห้ง-สำหรับกลุ่มอาการพีเอ็มเอสกลุ่มอาการพีเอ็มเอสหรือกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน เป็นอาการผิดปกติหรือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสตรีซ้ำๆ และสัมพันธ์กับการมีประจำเดือน ส่วนมากอาการจะเกิดก่อนมีประจำเดือน เช่น ปวดศีรษะ หงุดหงิด เจ็บคัดตึงเต้านม แอปริคอตแห้ง 30 กรัมมีธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม ซึ่งนักวิจัยในสหรัฐฯ เชื่อมโยงว่า เป็นปริมาณที่ช่วยลดอัตราการเกิดอาการก่อนมีประจำเดือนได้ถึงร้อยละ 30-40 ผลการศึกษาของ Dr. Patricia  Chocano-Bedoya แห่งภาควิชาสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

Read More

เคล็ดหย่าศึกพี่น้องทะเลาะกัน

 พี่น้องทะเลาะกันถือเป็นภาวะปกติ แต่ถ้าศึกสายเลือดยังดำเนินต่อไปไม่มีท่าทียุติลงได้ พ่อแม่คงต้องพึ่งตัวช่วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การมีลูกหลายคนอาจทำให้คุณรู้สึกว่าต้องทำหน้าที่เป็นกรรมการห้ามศึกเกือบทั้งวันมากกว่าการทำหน้าที่พ่อแม่ คุณต้องฝึกความอดทนกับการที่ลูกๆ ทะเลาะกันไม่รู้จบว่า ใครควรได้อะไร และใครควรได้ก่อน หรือไม่ก็เสียงร้องงอแงพร้อมการตัดพ้อว่า “ไม่ยุติธรรมเลย” หรือ “แม่ (พ่อ) รักพี่ (น้อง) มากกว่าหนู” ซ้ำร้ายกว่านั้น คนเป็นพ่อแม่หัวใจแทบสลายเมื่อลูกๆ ถึงกับด่าทอใส่กัน หรือไม่ก็ลงมือตบตีชกต่อยกัน คุณจะทำอย่างไรเมื่อลูกๆ ตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกันมากกว่ารักใคร่กลมเกลียวกัน ที่สำคัญคุณอาจเป็นสาเหตุให้การทะเลาะเบาะแว้งเลวร้ายลงโดยไม่รู้ตัว ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้พ่อแม่มีแนวทางในการรับมือกับความขัดแย้งในหมู่พี่น้อง เบื้องหลังความขัดแย้งนักจิตวิทยาเด็ก Dr.Emma Little แห่งเมลเบิร์น ออสเตรเลีย อธิบายว่า “ความอิจฉา การแข่งขัน และการต้องแบ่งปันกัน เป็นเหตุผลหลักที่อยู่เบื้องหลังการทะเลาะเบาะแว้งของพี่น้อง เด็กส่วนใหญ่ต่างรักพี่รักน้อง แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาเป็นคู่แข่งอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งเวลา ความเอาใจใส่ และทรัพยากรจากพ่อแม่ ผลการวิจัยบ่งชี้ว่า พี่น้องที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี มีสถิติทะเลาะกันบ่อยครั้งถึงขนาดทุก 6–10 นาที/ครั้ง หรือประมาณวันละ 50 ครั้ง” Little ยังเตือนต่อไปว่า อย่าเพิ่งด่วนคิดว่า เมื่อลูกๆ เข้าโรงเรียนแล้ว

Read More

Monuments men

Monuments men ภาพยนตร์ของจอร์จ คลูนีย์ สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกันของโรเบิร์ต เอม เอดเซล (Robert M. Edsel) ที่พิมพ์ในปี 2009 Monuments men เป็นกลุ่มที่นายพลไอเซนฮาวร์ (Eisenhauer) ตั้งขึ้นเพื่อค้นหางานศิลป์ที่พวกนาซียึดไปจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อาร์ตแกลเลอรีและครอบครัวชาวยิว เมื่อเยอรมันยึดครองฝรั่งเศส ก็ได้ “ปล้น” ทรัพยากรของฝรั่งเศส รวมทั้งงานศิลป์ด้วย ฮิตเลอร์เองนั้นอยากเป็นจิตรกร แต่ความสามารถไม่ถึง จึงได้แต่ชื่นชมงานศิลป์อยู่ห่างๆ ในปี 1939 ฮิตเลอร์สั่งให้สร้างพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวที่เมืองลินซ์ (Linz) ในออสเตรีย ทว่าสงครามทำให้โครงการไม่แล้วเสร็จ ฮิตเลอร์เตรียมการไว้ล่วงหน้าไว้แล้วว่าหากยึดอัมสเตอร์ดัม บรัสเซลส์ และปารีสแล้ว จะฉกฉวยงานศิลป์ชิ้นใดบ้าง โดยเขาทำรายการไว้  อย่างไรก็ตาม ทุกประเทศที่มองเห็นมหันตภัยของนาซี พลันที่มีการประกาศสงครามในปี 1939 ในฝรั่งเศสได้มีการโยกย้ายงานศิลป์ชิ้นสำคัญๆ ไปเก็บซ่อนไว้ตามพิพิธภัณฑ์ในต่างจังหวัดหรือตามปราสาทของเอกชนในภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงใต้ การโยกย้ายนั้นเต็มไปด้วยความยากลำยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นงานศิลป์ขนาดใหญ่  พลันที่ฝรั่งเศสลงนามยอมแพ้เยอรมันในเดือนกรกฎาคม 1940 การปล้นงานศิลป์ก็เริ่มขึ้น จากการยึดพิพิธภัณฑ์รัฐมาเป็นฉกฉวยจากพ่อค้างานศิลป์และเอกชนที่เป็นชาวยิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกอัครราชทูตเยอรมันที่กรุงปารีสทำบัญชีรายชื่อผู้ที่น่าจะเป็นเป้าหมายแรกๆ เช่น ครอบครัว

Read More

อาหารตีกับยาได้อย่างไร?

 คุณๆ ย่อมรู้กฎความปลอดภัยดีว่า ก่อนกินยาต้องอ่านฉลากยาให้ถ้วนถี่ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้กินยาเกินขนาด (ถ้าไม่เคยทำ ให้ทำเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้) คุณเคยตระหนักและเคยได้ยินไหมว่า การกินยาหลายขนานในเวลาเดียวกัน อาจเกิดปัญหายาทำปฏิกิริยาต่อกันจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ หรือที่เรียกกันง่ายๆ ตามภาษาปากว่า “ยาตีกัน” ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง แต่วันนี้เรามีข้อควรระวังที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันมานำเสนอ นั่นคือ ยาบางประเภททำปฏิกิริยากับอาหารบางอย่างที่คุณกิน ไม่เว้นแม้แต่ยาสามัญที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ตัวอย่างง่ายๆ คือ ถ้าคุณเข้ารับการผ่าตัด แล้วต้องกินวิตามินหรือแม้แต่การเข้าโรงยิมเพื่อออกกำลังกาย ให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเป็นลำดับแรก ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างอาหารที่ทำปฏิกิริยากับยาบางประเภทที่คุณควรรู้ ส้มเกรปฟรุตการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า มียาจำนวนมากที่ทำปฏิกิริยากับน้ำเกรปฟรุตโดยเพิ่มจาก 17 ชนิดเมื่อปี 2008 เป็น 43 ชนิดในปี 2012 Dr.Andrew Boyden ที่ปรึกษาทางคลินิกของ NPS MedicineWise อธิบายว่า “น้ำเกรปฟรุตทำปฏิกิริยากับยาสามัญหลายชนิด ทำให้ขนาดยาที่กินตามปกติเพิ่มความแรงมากเกินไป หรือก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ยาลดไขมันในเลือดกลุ่ม ststins ยาโรคหัวใจบางชนิด ยาลดความดันโลหิต และยาที่คนไข้อาจต้องกินในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ไอ หรือยาแก้หวัด” หากต้องการรายละเอียดของยาที่ทำปฏิกิริยากับน้ำเกรปฟรุต ให้เข้าไปอ่านได้ในเว็บไซต์ของ NPS

Read More

ดีท็อกซ์บ้านกันดีกว่า

 ในแต่ละสัปดาห์ เราหนีไม่พ้นการดูแลบ้านให้สะอาดปราศจากเชื้อโรคและมีกลิ่นหอมสดชื่น ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเลยก็ว่าได้ เราทุกคนต่างอยากใช้ห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยม มีคนจำนวนไม่น้อยส่งเสริมให้เด็กใช้สบู่หรือน้ำยาล้างมือที่มีตัวยาฆ่าเชื้อโรค แต่คุณเคยตระหนักหรือไม่ว่า มาตรการรักษาความสะอาดในชีวิตประจำวันเหล่านี้ จริงๆ แล้วก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี “เราถูกล้างสมองให้คิดว่าเชื้อโรคทั้งหมดเป็นอันตราย และต้องใช้สารเคมีแรงๆ เพื่อสร้างบรรยากาศบ้านสะอาดให้ลูกๆ ของเรา “Nicole Bijlsma ผู้เชี่ยวชาญด้านบ้านสะอาดและผู้เขียนหนังสือ  Healthy Home, Healthy Family กล่าว “แต่ความจริงแล้ว ส่วนผสมที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป ส่วนใหญ่มีศักยภาพในการเป็นสารพิษต่อครอบครัวของคุณมากกว่า” การเดินสำรวจไปตามชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ “ปลอดภัย” มาใช้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเบื้องต้นที่เป็นประโยชน์ไม่น้อย ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวBijlsma อธิบายว่า หนึ่งในความเข้าใจผิดร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้าน คือ บ้านสะอาดก็ต่อเมื่อมีกลิ่นสะอาดของสารฟอกขาวแล้วเท่านั้น “ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวมีความเป็นพิษสูง และสามารถทำให้ปอดและผิวหนังระคายเคืองได้” Dr.Jennifer Kent แห่ง Sydney’s Green Living Centre กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวเป็นผลิตภัณฑ์ที่คนจำนวนมากคิดว่าขาดไม่ได้ “ถ้านำไปผสมกับน้ำยาทำความสะอาดที่มีความเป็นกรด ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวจะปล่อยแก๊สคลอรีนที่เป็นสารพิษออกมา” ถ้าในส่วนผสมมี sodium hypochlorite รวมอยู่ด้วย ให้โยนทิ้งได้เลย แล้วหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ decyl glucoside

Read More

อย่าละเลยสัญญาณเตือนหัวใจวาย!

 หัวใจวายคืออะไรหัวใจวาย (heart attack) หรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย (myocardial infarction) เป็นอาการเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อหัวใจรูปแบบรุนแรงที่สุด และเป็นสัญญาณว่ากล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนกำลังตายลง “ส่วนใหญ่มักเกิดจากการอุดตันของคราบสะสมไขมันหรือพลาค (plaque) ในหลอดเลือดแดงที่หัวใจ ทำให้มีเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนลดลงหรือเกิดการขาดเลือด หรือเกิดจากการที่พลาคขนาดเล็กปริแตกออกจากผนังหลอดเลือด และมีลิ่มเลือดเข้าไปหุ้มเอาไว้ จนทำให้หลอดเลือดแดงอุดตัน เกิดภาวะขาดเลือดและออกซิเจนขึ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจส่วนนั้นเริ่มตายลง จึงเกิดอาการเจ็บปวดเพราะหัวใจวาย” ศาสตราจารย์ Robert Graham กรรมการบริหารสถาบันวิจัยเกี่ยวกับหัวใจวิคเตอร์ จาง อธิบาย “สัญญาณเตือนหัวใจวายไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอไป”ศาสตราจารย์ James Tatoulis ศัลยแพทย์หัวใจและประธานที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของมูลนิธิหัวใจแห่งชาติเตือน “ไม่จำเป็นว่าต้องมีอาการฉับพลันหรือรุนแรง และประมาณ 1 ใน 4 ของผู้มีอาการหัวใจวาย โดยเฉพาะผู้หญิงยืนยันว่า พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์เจ็บแน่นหน้าอกเลยแม้แต่น้อย” Dr.Paul Antonis รักษาการผู้อำนวยการ Monashheart Southern Health อธิบายว่า “หนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้คนไข้หัวใจวายมีอาการหลากหลายออกไปคือ ระบบเส้นประสาทที่ส่งความรู้สึกไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ เป็นคนละประเภทกับที่ส่งไปยังผิวหนัง กล้ามเนื้อ และระบบโครงกระดูก ระบบเส้นประสาทที่ส่งไปยังหัวใจ มีหน้าที่หลักในการควบคุมอัตราและจังหวะการเต้นของหัวใจมากกว่าการควบคุมความรู้สึกต่อการสัมผัส และเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย

Read More