น่านฟ้าเปิดที่เมียนมาร์ สายการบินรุมยึดหัวหาด

หลังจากที่เมียนมาร์เดินเครื่องปฏิรูปและเปิดประเทศ บรรดานักลงทุนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพุ่งความสนใจไปยังอัญมณีแห่งอาเซียนแห่งนี้ รวมถึงบรรดาสายการบินต่างๆ ที่เตรียมขยับปีกเร่งเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ เพื่อยึดหัวหาดตามเมืองหลักๆ ของเมียนมาร์ เตรียมพร้อมรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของธุรกิจการบินที่น่าติดตาม

เป็นเวลาหลายสิบปีที่เมียนมาร์ปิดประเทศด้วยเหตุผลความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ ตัดขาดความสัมพันธ์กับโลกภายนอกมาเป็นเวลานาน จนในที่สุดรัฐบาลทหารของเมียนมาร์ยอมถอนอำนาจ เปิดให้พลเรือนเข้ามาบริหารประเทศ เกิดการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมครั้งใหญ่ของเมียนมาร์

แน่นอนว่าประเทศที่ปิดตัวเองมานาน แต่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติและรุ่มรวยทางวัฒนธรรม เมื่อถึงคราวเปิดประเทศต้อนรับการมาเยือนจากต่างชาติ จึงเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามและเป็นขุมทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วโลกต่างหมายตา ซึ่งรวมถึงบรรดาสายการบินต่างๆ ของไทย ที่เร่งเปิดเส้นทางการบินใหม่ๆ และเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเพื่อเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่จะเพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบันสายการบินของไทย 3 แห่งคือ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์สและไทยแอร์เอเชีย ได้ให้บริการบินเข้าเมียนมาร์เป็นประจำอยู่แล้ว โดยเที่ยวบินส่วนใหญ่จะมีจุดหมายปลายทางที่เมืองย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงและเมืองศูนย์กลางธุรกิจของเมียนมาร์ แต่นับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา บรรดาสายการบินต่างๆ ได้ขยับขยายเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและจุดหมายปลายทางไปยังเมืองอื่นๆ ของเมียนมาร์เพิ่มขึ้น เพื่อหวังช่วงชิงจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น

เดือนตุลาคม 2555 สายการบินไทยแอร์เอเชียโลว์คอสต์ยอดนิยม ประเดิมเปิดเที่ยวบิน บินตรง กรุงเทพฯ–มัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของเมียนมาร์ และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน กรุงเทพฯ–ย่างกุ้ง ต่อวันให้มากขึ้น โดยเจาะกลุ่มคนวัยเกษียณที่ต้องการไปทำบุญ

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ โดยทำการบินเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งเพิ่มเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเดินทางไปเมียนมาร์สูงขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนไทยวัยใกล้เกษียณที่ต้องการไปทำบุญ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ที่ชอบเดินทางไปเที่ยวเอง นักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านที่มาเที่ยวไทยแล้วอยากไปเที่ยวเมียนมาร์ต่อ

นอกจากนี้ไทยแอร์เอเชียยังเตรียมเปิดเที่ยวบินไปยังเมืองเนปิดอว์ ซึ่งจะเริ่มทำการบินในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

สำหรับบูทีคแอร์ไลน์อย่างสายการบินบางกอกแอร์เวย์สที่แต่เดิมให้บริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง ล่าสุดได้ประกาศเปิดให้บริการเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ โดยเริ่มต้นเที่ยวบินในวันที่ 15 กันยายน 2556 และ กรุงเทพฯ-เนปิดอว์ เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2556 อันจะทำให้สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ เป็นสายการบินต่างชาติสายแรกที่ทำการบินตรงเข้าสู่กรุงเนปิดอว์ และเป็นสายการบินไทยสายแรกที่ทำการบินครอบคลุมทั้ง 3 เมืองใหญ่ของสหภาพเมียนมาร์

“การขยายเส้นทางบินของบางกอกแอร์เวย์สสู่สหภาพเมียนมาร์ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของบริษัทเพราะนอกจากจะทำให้สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เป็นสายการบินต่างชาติแห่งแรกที่ทำการบินตรงสู่เมืองเนปิดอว์แล้ว ยังเป็นสายการบินไทยแห่งแรกที่ทำการบินตรงสู่ 3 เมืองหลัก ของสหภาพเมียนมาร์อีกด้วย โดยเราคาดว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เนปิดอว์ นั้น จะเป็นนักธุกิจและผู้มาติดต่อราชการ สำหรับอีก 2 เมือง คือ ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์ ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว โดยทางสายการบินมั่นใจว่าจะสามารถครองใจผู้โดยสารได้ด้วยการบริการที่ประทับใจและสร้างประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่าง” คำกล่าวของ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

ในส่วนของสายการบินแห่งชาติอย่างสายการบินไทยที่มีเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง เป็นประจำอยู่แล้ว ก็มีการขยับตัวผ่านทางสายการบินโลว์คอสต์อย่างนกแอร์และสายการบินน้องใหม่อย่างไทยสมายล์ เพิ่มจุดหมายปลายทางไปยังเมืองหลักๆ ที่ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยวและการลงทุน โดยส่งสายการบินไทยสมายล์ยึดหัวหาดที่เมืองมัณฑะเลย์ เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เส้นทางกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

ทางฟากสายการบินนกแอร์ที่กำลังขยับปีกเข้าเมียนมาร์ภายในเดือนกันยายน 2556 นี้ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก่อนหน้านี้นกแอร์มีเที่ยวบินจากดอนเมืองไปยัง “แม่สอด” จังหวัดตาก ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญเชิงเศรษฐกิจการค้าชายแดนระหว่างไทยและเมียนมาร์อย่างมาก

ตั้งแต่ช่วงปี 2555 ถึงต้นปี 2556 สายการบินนกแอร์ได้มีการเจรจาและสำรวจเส้นทางการบินเพื่อเตรียมเปิดเส้นทางการบินใหม่เพิ่มเติม ซึ่งทางการสายบินนกแอร์ได้ประกาศจะเพิ่มเที่ยวบินไปยังเมียนมาร์ดังนี้ แม่สอด-เมาะละแหม่ง เริ่มให้บริการบิน 1 กันยายน 2556, แม่สอด-ย่างกุ้ง เริ่มให้บริการบิน 1 ตุลาคม 2556 และดอนเมือง–ย่างกุ้ง ซึ่งจะเริ่มให้บริการบินตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 เป็นต้นไป และจะทยอยเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้มากขึ้น ทั้งนี้เที่ยวบินจากดอนเมืองสู่ย่างกุ้งจะเป็นเส้นทางบินที่สามที่นกแอร์บินเข้าเมียนมาร์
 
นายปิยะ ยอดมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์กล่าวว่า “การขยายเส้นทางบินไปยังต่างประเทศจะเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยพิจารณาความคุ้มค่าและการทำกำไรอย่างรอบคอบ ซึ่งประเทศแรกคือเมียนมาร์ที่นกแอร์จะให้บริการ เพราะมีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสูง โดยเริ่มจากเครื่องบินเล็กประมาณ 30-60 ที่นั่ง ใช้จุดบินที่เป็นหัวเมืองสำคัญของประเทศแบบไม่ต้องผ่านมายังกรุงเทพฯ คือ กันยายนเปิดบินเส้นทางแม่สอด-เมาะลำไย, แม่สอด-ย่างกุ้ง ในเดือนตุลาคม, กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง ในเดือนพฤศจิกายน และกำลังศึกษาเส้นทางเชียงใหม่- มัณฑะเลย์ และเชียงใหม่-บากัน นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายเส้นทางบินต่างประเทศอื่นๆที่ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง เช่น จีน เกาหลี และอินเดีย”

อีกหนึ่งเส้นทางการบินที่น่าสนใจของนกแอร์คือ กรุงเทพฯ-ระนอง ที่เปิดเที่ยวบินแรกไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา เป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่คาดว่า จ.ระนอง จะเป็นอีกประตูหนึ่งที่เชื่อมโยงไปยังเมียนมาร์  เพราะขณะนี้ทางเมียนมาร์ได้เปิดด่านที่เกาะสอง โดยต่อไปคนไทยสามารถเดินทางเข้าเมียนมาร์ได้ทางเกาะสอง เพื่อเดินทางต่อไปยังมะริด ทวาย ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปนั่งเครื่องบินที่สุวรรณภูมิ

พิจารณาจากเส้นทางการบินที่นกแอร์กำลังจะเปิดเพิ่มนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นเส้นทางที่เอื้อประโยชน์ทั้งด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว เที่ยวบินแม่สอดมุ่งสู่เมียนมาร์นั้นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวให้คึกคักมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นจากการติดต่อทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศ อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายที่จะผลักดันให้ “แม่สอด” เป็นเขตปกครองพิเศษและเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อรองรับ AEC การเปิดเที่ยวบินดังกล่าวจะส่งผลเชื่อมโยงระบบคมนาคมให้ทันต่อการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ดี

ในส่วนของเมืองเมาะละแหม่งนั้น ทางการเมียนมาร์ได้ส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยยกเอาตำนานรักของมะเมี๊ยะมาเป็นจุดขายหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งธรรมะ  มีสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ และศาสนาเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากชาวไทยที่ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธเช่นเดียวกัน 

ไม่เฉพาะสายการบินของประเทศไทยเท่านั้น ที่เห็นโอกาสขยายตลาดในเมียนมาร์ ปัจจุบันยังมีสายการบินจากหลายประเทศทั่วโลก ที่ทยอยบินตรงสู่เมียนมาร์ เช่น สายการบินจากญี่ปุ่น กาตาร์ ไต้หวัน เกาหลี เยอรมนี และสายการบินสิงคโปร์ ที่เริ่มให้บริการบินเชื่อมระหว่างประเทศเช่นเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวของบรรดาสายการบินข้างต้น เป็นการรุกคืบเข้าไปยังเมืองหลักๆ ของเมียนมาร์ ที่ครอบคลุมทั้งด้านการค้าและการท่องเที่ยว เป็นความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจที่มองเห็นโอกาสจากเปิดประเทศของเมียนมาร์ที่น่าสนใจ และดูจะเป็นความเคลื่อนไหวที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน