วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > On Globalization > ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใหม่

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใหม่

ตอนแรก เขาเปียกมะล่อกมะแล่ก เพราะฝนที่ตกกระหน่ำ ลงมาอย่างหนัก ขณะนั่งรถเปิดประทุนไปตามถนน Champs-Elysee เพื่อเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง จากนั้นเครื่องบินประจำตำแหน่งของเขาถูกฟ้าผ่า หลังจากเพิ่งบินออกจากฝรั่งเศส เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงเบอร์ลิน ทำให้ต้องบินกลับไปยังปารีสอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนเครื่องบินลำใหม่ แม้ว่า Francois Hollande ซึ่งสาบาน ตนเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในพิธีสาบานตนที่จัดขึ้นอย่างสมถะที่พระราชวัง Elysee Palace ประกาศว่า เขาจะเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ “ปกติธรรมดา” แต่เพียงช่วงไม่กี่ชั่วโมงแรกที่เขาได้เป็นประธานา ธิบดีฝรั่งเศสก็ไม่ปกติธรรมดาเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม Hollande มิได้แสดงอาการสะทกสะท้านและยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นประธานา ธิบดีที่ “สง่างามแต่เรียบง่าย” ตามที่เขาตั้งใจ

Hollande เคร่งขรึมสุขุมคล้ายกับประธานาธิบดีที่มาจากพรรค Socialist เพียงคนเดียวของฝรั่งเศส นั่นคือ Francois Mitterrand ก่อนที่ Hollande จะเป็นผู้มาทำลายสถิตินี้ ด้วยการ ก้าวขึ้นบันไดพระราชวัง Elysee Palace ในฐานะประธานาธิบดีจากพรรคสังคมนิยมคนที่ 2 เขาโบกมืออำลา Nicolas Sarkozy ด้วยคำสัญญาว่า ฝรั่งเศสในยุคของเขาจะเป็นฝรั่งเศสที่สงบสุข ปรองดองและเป็นเอกภาพ ก่อนจะเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสุดยอด ผู้นำ G-8 ที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการไปเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในฐานะผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศส Hollande ซึ่งไม่เคย เป็นรัฐมนตรีมาก่อน ประกาศแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากนั้น แวะไปยังกรุงเบอร์ลิน เพื่อพบกับ Angela Merkel นายกรัฐมนตรี เยอรมนีเป็นครั้งแรก

หลังการหารือ ผู้นำทั้งสองประกาศจะยังคงรักษาความเป็น คู่หูระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนีให้เข้มแข็งต่อไป และเห็นพ้องต้อง ตรงกันว่า จะต้องพยายามทำให้กรีซ คงอยู่ใน euro zone ต่อไป ให้ได้ อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ยอมรับว่ามี “ความแตกต่าง” กันแต่จะพยายามหาช่องที่จะร่วมมือกันในเรื่องที่มีความเห็นตรงกัน

นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่าสมัย Sarkozy เป็นผู้นำฝรั่งเศส ซึ่งบินไปยังเบอร์ลินที่แรกทันทีที่สาบานตนเช่นกัน คำว่า “Merkozy” เกิดจากการสมาสชื่อของ Merkel กับ Sarkozy จากการที่ทั้งสองผนึกกำลังสนับสนุนการใช้มาตรการรัดเข็มขัดเป็นทางแก้ปัญหา เสถียรภาพของ euro zone และเงินยูโรนั้น ได้ปกปิดความจริงที่ว่า แท้ที่จริงแล้ว Merkel กับ Sarkozy เข้ากันไม่ค่อยได้ แม้ว่า Merkel อาจประกาศหนุน Sarkozy อย่างเปิดเผยในการเลือกตั้งประธานา ธิบดีที่ผ่านมา ซึ่ง Sarkozy พ่ายแพ้ให้แก่ Hollande แต่ Merkel กับ Hollande ซึ่งเป็นคนที่สำรวมและมีเหตุมีผลเหมือนกันทั้งคู่ จึงเป็นการจับคู่ที่ดีกว่าในแง่ของนิสัยใจคอส่วนตัว

แม้การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะผ่านพ้นไปแล้วและฝรั่งเศสได้ผู้นำคนใหม่เรียบร้อยแล้ว แต่การเมืองฝรั่งเศสยังไม่นิ่ง Hollande เผชิญศึกเลือกตั้ง ส.ส.ในเดือนมิถุนายน จึงต้องการสิ่งที่จะมาแสดงให้เห็นความพยายามต่อสู้กับมาตรการรัดเข็มขัด นโยบายหาเสียงที่ทำให้เขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี โฆษกของพรรค Socialist เคยพูดไว้ชัดเจนว่าไม่ต้องการได้ “ประธานาธิบดี” ของสหภาพยุโรปที่มีชื่อว่า Merkel เมื่อ Hollande ซึ่งมาจากพรรคสังคมนิยมได้เป็นผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศสแล้ว เขาก็อาจจะอยากแสดงพลังในจุดยืนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสมีปัญหางบประมาณขาดดุลมาตั้งแต่ปี 1974 ดังนั้นความพยายาม ใดๆ ของ Hollande ที่จะลดความเข้มข้นของนโยบายลดการขาดดุลงบประมาณลง แม้แต่ต่อประเทศเพื่อนบ้านยุโรปที่กำลังมีปัญหาวิกฤตินี้ก็เสี่ยงที่จะกระทบกับความนิยมของ Hollande ในบ้านตัวเองได้ แต่ในขณะเดียวกันคำสัญญาของ Hollande ที่ประกาศจะต่อสู้กับมาตรการรัดเข็มขัดก็จะดูว่างเปล่าไปทันที ถ้าหากว่าเขายังคงเกาะแจไปกับเยอรมนี ที่กดดันให้กรีซใช้มาตรการรัดเข็มขัดอย่างเข้มข้น หรือถ้าหากเขาเองต้องถูกกดดันให้ต้องออกมาตรการรัดเข็มขัดในฝรั่งเศสบ้าง

Hollande ชนะเลือกตั้งด้วยการชูนโยบายลดการขาดดุลงบประมาณฝรั่งเศสลงเหลือ 3% ของ GDP ภายในปี 2013 แต่พร้อมกันนั้นเขาก็สัญญาว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ 20,000 ล้านยูโรตลอดเวลา 5 ปีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการ ยุโรป (European Commission) พยากรณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเมื่อถึงปี 2013 ของฝรั่งเศสนั้นจะอยู่ที่ 4.2% ซึ่งมากกว่า เป้าหมายของ Hollande และหมายความว่าฝรั่งเศสจะต้องประหยัดงบประมาณเพิ่มอีก 24,000 ล้านยูโร ในปี 2013 เพียงปีเดียว

หากการลดยอดขาดดุลงบประมาณของฝรั่งเศสไม่เป็นไปตามเป้า ผู้ที่จะหนีความรับผิดชอบไปไม่พ้นก็คือรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Jean-Marc Ayrault ผู้นำ ส.ส. ของพรรค Socialist ในสภาฝรั่งเศสวัย 62 ปี อดีตนายกเทศมนตรี เมือง Nantes และผู้จงรักภักดีต่อพรรคสังคมนิยมมาตลอด การที่ Hollande แต่งตั้ง Ayrault เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ฝรั่งเศสหวนคืนสู่การแบ่งงานทางการเมืองตามประเพณีนิยมแต่เก่าก่อนของฝรั่งเศส กล่าวคือ ประธานาธิบดีจะรับผิดชอบด้านนโยบายต่างประเทศ ส่วนนายกรัฐมนตรีจะดูแลนโยบายในประเทศ และนั่นจะเป็นช่องทางให้ Hollande สามารถหา “แพะ” ใกล้มือมารับบาปแทนได้สะดวก ถ้าหากว่านโยบายลดการขาดดุลงบประมาณ เกิดผิดพลาด

เช่นเดียวกับนายของเขา Ayrault ไม่เคยมีประสบการณ์เป็นรัฐมนตรีมาก่อน อย่างไรก็ตาม เขาเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอารมณ์ต่อต้านพวกชนชั้นสูงในฝรั่งเศสขณะนี้ และเช่นเดียวกับ Pierre Mauroy ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยอดีตประธานาธิบดี Mitterrand จากพรรคสังคมนิยม Ayrault มีพื้นเพมาจากต่างจังหวัดเสียยิ่งกว่าตัว Hollande เอง ครอบครัวของเขาเป็นชาวบ้าน ธรรมดา พ่อแม่เป็นชนชั้นแรงงาน และเขาไม่ได้จบการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยระดับชั้นหัวกะทิของฝรั่งเศส ทั้ง Hollande และ Ayrault มีภาพของการเป็นนักประนีประนอม และไม่ได้มีรสนิยมวิไล และแม้ว่า Ayrault จะเล่นการเมืองในสายซ้ายจัดมาตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการเมืองเมื่อวัยเยาว์ แต่เขาก็ยังเป็นที่ยอมรับของพวก หัวสายกลางในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศสยังคุ้นเคยเป็นอันดีกับ ส.ส.ฝรั่งเศส และความสามารถในการพูดภาษาเยอรมันได้อย่างคล่องแคล่วของเขา ทำให้เขาเป็นที่คุ้นเคยในเยอรมนีอีกด้วย ทว่า คนฝรั่งเศสด้วยกันเองกลับแทบไม่รู้จักเขา ผลสำรวจความนิยมของชาวฝรั่งเศสเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า Ayrault อยู่ในอันดับ 46 เพราะคนฝรั่งเศสแทบไม่เคย ได้ยินชื่อเขาเลย

ส่วนรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของฝรั่งเศสได้แก่ Pierre Moscovici ผู้จัดการหาเสียงของ Hollande ซึ่งได้แต่งตั้งอดีตศัตรู คู่แข่งทางการเมืองภายในพรรคของเขาหลายคน เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม คนที่ผิดคาดที่สุดคือ Martine Aubry นักการเมืองหญิงที่ขับเคี่ยวกับ Hollande ในการชิงตัวแทนพรรคสังคมนิยม เพื่อลงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งปฏิเสธตำแหน่งที่ Hollande แต่งตั้งให้ เพราะเห็นว่าเป็นตำแหน่งที่เล็กเกินไป ทำให้มองเห็นเงาของความขัดแย้งในอนาคต มาแต่ไกล แม้ว่าพรรคสังคมนิยมจะคิดว่าสามารถสร้างความปรองดองในพรรคได้แล้วก็ตาม

แปล/เรียบเรียง เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
เรื่อง อิโคโนมิสต์