วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
Home > Life > แค่จัดบ้านใหม่ ได้สุขภาพดีขึ้นอีกโข

แค่จัดบ้านใหม่ ได้สุขภาพดีขึ้นอีกโข

 
Column: Well – Being
 
หนทางดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น มีมากมายหลายหลากจนสาธยายไม่หมด ไม่ว่าการบริโภคผักและผลไม้มากขึ้น การวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ และเครียดให้น้อยลง
 
แต่นิตยสาร GoodHealth ให้ข้อคิดว่า ยังมีอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงจัดบ้านเสียใหม่เท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ และการรู้จักใช้ประโยชน์จากของใช้ในบ้าน สามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคุณดีขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ ไม่ว่าในแง่น้ำหนักตัว การนอน และความคิดสร้างสรรค์
 
วางกระถางต้นไม้บนโต๊ะทำงาน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี นครซิดนีย์ แนะนำว่า การวางกระถางต้นไม้ไว้บนโต๊ะทำงาน ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้ เพราะลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึงร้อยละ 25 ยิ่งระดับคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงมากเท่าไร สมองส่วนที่ควบคุมด้านความคิดก็ยิ่งทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับทักษะการทำงาน เช่น การตอบสนองต่อภาวะวิกฤต และการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ ถ้าคุณฝึกสัมผัสใบไม้อย่างสม่ำเสมอจนติดเป็นนิสัยแล้ว จิตใจของคุณจะสงบลงด้วย
 
นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ยิ่งต้นไม้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพียงใดก็ยิ่งดีขึ้นเพียงนั้น เพราะต้นไม้ยิ่งมีใบใหญ่ขึ้นเท่าไร ก็สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากขึ้นเท่านั้น
 
เก็บซีเรียลให้พ้นมือ
ผลการศึกษาปี 2015 ระบุว่า ผู้หญิงที่เก็บซีเรียลไว้ในตู้กับข้าวจนพ้นมือและไม่อยู่ในสายตา มีแนวโน้มลดน้ำหนักตัวได้ดีกว่าคนที่ตั้งไว้ล่อตาบนเคาน์เตอร์ โดยลดได้เฉลี่ย 9 กิโลกรัม
 
นักวิจัยกล่าวถึงสาเหตุว่า เพราะเรามีธรรมชาติหยิบอาหารใกล้มือเข้าปาก เมื่อเหลือบเห็นซีเรียลเป็นอันดับแรก ก็คว้าเข้าปากแทนการเลือกบริโภคอาหารที่ให้พลังงานต่ำกว่า ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นอย่างง่ายดาย
 
วิธีแก้ปัญหา คือ ให้วางผลไม้บนเคาน์เตอร์แทน ผู้หญิงที่ทำอย่างนี้สามารถลดน้ำหนักได้ 6 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม 
 
ไม่วางผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในห้องน้ำ  
ผลการศึกษาในสหรัฐฯ กล่าวว่า คุณมีความเสี่ยงสูงขึ้นในการสัมผัสกับสารเคมีอันตรายที่พบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป เมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในห้องน้ำขนาดเล็กที่มีระบบระบายอากาศไม่ดีนัก เช่น หลังจากใช้น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำราว 15 นาที แล้วคุณอาบน้ำอุ่น ทำให้ในห้องน้ำนั้นอบอวลไปด้วยไอร้อน คุณต้องสูดหรือหายใจเอาสารเคมีที่ระบุว่ามีความ “ปลอดภัย” เข้าไปในร่างกายมากถึง 3 เท่าตัว
 
ที่สำคัญให้นำกล่องหรือขวดน้ำหอมปรับอากาศออกจากห้องน้ำด้วย ผลการวิจัยระบุว่า น้ำหอมที่เป็นส่วนประกอบสำคัญเป็นสาเหตุของการเกิดอาการภูมิแพ้ และกระตุ้นให้ร้อยละ 20 ของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วมีอาการรุนแรงขึ้น รวมทั้งทำให้ร้อยละ 34 ของผู้ป่วยโรคหอบหืดมีอาการแย่ลง
 
เก็บผ้าขี้ริ้วให้มิดชิด
ผ้าขี้ริ้วถือเป็นหนึ่งในวัสดุพื้นผิวภายในบ้านที่มีการปนเปื้อนมากที่สุด มีผู้ใช้ 9 ใน 10 คนที่ใช้ผ้าขี้ริ้วขณะเตรียมอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ
 
เหตุผลคือ หลังสัมผัสเนื้อสัตว์แล้ว คนทำครัวส่วนใหญ่ล้างมือไม่สะอาด จากนั้นเช็ดมือที่ปนเปื้อนแบคทีเรียกับผ้าขี้ริ้ว ทำให้แบคทีเรียติดอยู่ที่ผืนผ้าและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อเราเช็ดมือกับผ้าผืนนั้นในคราวต่อไป จึงติดเชื้อแบคทีเรียอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
 
นักวิจัยแนะนำว่า วิธีที่ดีกว่าคือ เช็ดมือด้วยกระดาษเช็ดมือประเภทใช้แล้วทิ้งแทน ที่สำคัญต้องแน่ใจว่าได้ล้างมืออย่างสะอาดหมดจดก่อนเป็นลำดับแรก
 
นอกจากนี้ ให้ใช้กระดาษเช็ดจานประเภทใช้แล้วทิ้งแทนผ้าเช็ดจาน และใช้กระดาษดังกล่าวเช็ดโต๊ะเตรียมอาหารด้วย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อแบคทีเรีย campylobacter ที่ก่อโรคอาหารเป็นพิษได้สูงถึงร้อยละ 99.2
 
วางหนังสือบนโต๊ะข้างเตียง
หลังจากอ่านหนังสือและได้รับความรู้หรือข้อมูลใหม่ๆ แล้ว ให้รีบเข้านอนทันที คุณจะแปลกใจที่สามารถจำข้อมูลเหล่านั้นได้ดีขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่เรียนรู้ข้อมูลใหม่ตอนเก้าโมงเช้า แล้วต้องตื่นอยู่ตลอดทั้งวัน กับคนที่ได้อ่านข้อมูลใหม่ตอนสามทุ่มแล้วเข้านอนทันที เมื่อผ่านไป 24 ชั่วโมง ผู้ที่อ่านหนังสือก่อนนอนสามารถจำความรู้ใหม่ได้มากกว่าและถูกต้องกว่า
 
คำแนะนำเพิ่มเติมคือ ให้วางสมุดโน้ตและปากกาไว้ข้างเตียงด้วย เพื่อคุณจะได้จดบันทึกข้อมูลสำคัญๆ ไว้ นักวิทยาศาสตร์นอร์เวย์อธิบายว่า เป็นเพราะสมองสามารถรับรู้การตอบรับจากการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นขณะจับปากกา และการเขียนข้อมูลลงในสมุดโน้ตช่วยเสริมให้กระบวนการเรียนรู้แข็งแกร่งขึ้น
 
แขวนชุดออกกำลังกายข้างเตียง
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสเทิร์น, สหรัฐฯ กล่าวว่า ถ้าแขวนชุดออกกำลังกายในจุดที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนในทันทีที่ลุกจากเตียงนอน คุณมีแนวโน้มรู้สึกอยากสวมใส่มากขึ้น และทันทีที่ทำอย่างนั้น ดูเหมือนการออกกำลังกายจะกลายเป็นทางเลือกเดียวสำหรับคุณ เพราะมันสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่เรามักผูกพันกับเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ตามวาระเฉพาะ
 
สอดคล้องกับผลการศึกษาในสหราชอาณาจักร ที่แนะนำให้แขวนเสื้อผ้าแนวทะมัดทะแมงไว้ในตู้เสื้อผ้า เพราะเมื่อกลุ่มตัวอย่างได้สวมเสื้อทีเชิ้ตพร้อมสัญลักษณ์เชิงฮีโร่แล้ว พวกเขารู้สึกแข็งแรงขึ้น และคิดว่าสามารถออกกำลังกายได้ดีขึ้นหรือถึงขนาดสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
 
ดาวน์โหลดเสียง “ธรรมชาติ” ลงซีดี
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ระบุว่า การได้ฟังเสียงของธรรมชาติ เช่น เสียงน้ำไหล เสียงนกร้อง ถือเป็นกุญแจสำคัญของ “ธรรมชาติบำบัด” (nature therapy) ที่สามารถลดระดับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญการได้เปิดแผ่นซีดีและฟังเสียงจากธรรมชาติเหล่านี้ ก็ให้ผลดีเหมือนกัน
 
นักวิจัยจึงแนะนำให้อัพโหลดเสียงธรรมชาติดังกล่าวลงในไอพ็อดหรือสมาร์ทโฟน แล้วนำติดตัวไปด้วยเวลานัดทำฟันกับทันตแพทย์ เพราะผลการวิจัยบ่งบอกว่า การได้ฟังเสียงธรรมชาติสามารถทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดน้อยลงขณะรับการรักษา
 
โยนกล่องแปรงสีฟันทิ้ง
ความคิดที่ว่ากล่องใส่แปรงสีฟันช่วยปกป้องเชื้อโรคได้ เป็นความเชื่อที่ผิด สภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นยิ่งชักนำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ดังนั้น การเก็บแปรงสีฟันไว้ในกล่องที่ปิดมิดชิด หรือการใช้กล่องแปรงสีฟันเฉพาะอัน แทนที่จะช่วยลด กลับเป็นการเพิ่มปริมาณเชื้อโรคมากขึ้น เพราะแปรงสีฟันไม่มีโอกาสแห้งเลย
 
แนะนำให้มีขวดน้ำยาบ้วนปากชนิดกำจัดแบคทีเรียวางอยู่ในตู้ในห้องน้ำ แล้วนำมาล้างแปรงสีฟันเป็นระยะ เพื่อลดปริมาณแบคทีเรียนั่นเอง
 
ไม่เก็บเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ในห้องนอน
เพื่อให้คุณนอนหลับอย่างมีคุณภาพ โดยนักวิจัยสวีเดนกล่าวว่า การที่วางเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ไว้ในห้องอื่น หมายความว่าคุณไม่สามารถใช้งานมันได้ คุณจึงไม่เสี่ยงต่อการสัมผัสกับรังสีที่แผ่ออกจากเครื่องชาร์จ ซึ่งรบกวนการนอนได้ ผู้ที่สัมผัสกับรังสีดังกล่าวในช่วงก่อนเข้านอน ต้องใช้เวลามากกว่าจึงสามารถเข้าสู่ช่วงเวลาหลับลึกช่วงแรก รวมทั้งช่วงเวลาการหลับลึกที่สุดก็ลดน้อยลง