วันศุกร์, ธันวาคม 27, 2024
Home > Cover Story > เดิมพันสำคัญของยูบิลลี่ ไดมอนด์ กับ LOVE 100 DIAMONDS

เดิมพันสำคัญของยูบิลลี่ ไดมอนด์ กับ LOVE 100 DIAMONDS

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในปี 2567 ถูกมองว่าเป็นไปในทิศทางบวก ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวจากความต้องการในตลาด ศูนย์ข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับคาดการณ์ว่า ราคาสินค้าจะมีเสถียรภาพขณะที่อุปสงค์อุปทานจะมีความสมดุล เนื่องจากระดับการบริโภคเข้าสู่สภาวะปกติ หรือมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ด้วย

ขณะที่เครื่องประดับหรูอาจกลายเป็นผู้นำในตลาด โดยผู้ผลิตเครื่องประดับและผู้ค้าอัญมณีระดับไฮเอนด์ เห็นว่าความต้องการเครื่องประดับของนักออกแบบระดับบนและเครื่องประดับเพื่อการลงทุนจะยังคงมาแรง

แม้ว่าแนวโน้มของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่นั่นอาจไม่เพียงพอหากจะก้าวอย่างมั่นคง ยูบิลลี่ ไดมอนด์ จึงตัดสินใจเสริมทัพอาณาจักรเพชรมูลค่าพันล้าน ด้วยการจับมือกับ LOVE100 Diamonds แบรนด์เพชรระดับโลกจากเบลเยียม ของตระกูลทอลคอฟสกี้ (Tolkowasky)

กว่าสองศตวรรษของตระกูลทอลคอฟสกี้ ตระกูลแห่งช่างเจียระไนระดับ Master Cutter ที่ถ่ายทอดความรู้และความเชี่ยวชาญความเป็นเลิศด้านการเจียระไนจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานกว่า 8 เจเนอเรชัน โดยเฉพาะ กาบี้ ทอลคอฟสกี้ (Gabi Tolkowasky) ที่นับว่าเป็นปรมาจารย์แห่งการสร้างประกายแสงด้วยการเจียระไน ที่สั่งสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญตลอดช่วงชีวิต โดยได้รับแรงบันดาลใจจากประกายแสงของดวงดาวบนท้องฟ้า นี่จึงกลายเป็นผลงานสำคัญของตระกูลทอลคอฟสกี้ นั่นคือ เพชรทรงกลม 100 เหลี่ยม ซึ่งโดยปกติแล้วเพชรทรงกลมปกติจะมีเพียง 67 เหลี่ยม

นี่คือเรื่องราวที่ ฌอง พอล ทอลคอฟสกี้ ทายาทรุ่นที่ 7 จากแบรนด์ LOVE100 Diamonds บอกเล่าถึงเรื่องราวความเป็นมาของตระกูลที่โลดแล่นอยู่ในวงการเพชร และเป็นนักเจียระไนที่มีชื่อเสียงระดับโลกยาวนานถึง 2 ศตวรรษ

และแค่ 100 เหลี่ยมคงไม่พิเศษพอที่จะสร้างความแตกต่างได้ กระทั่ง ฌอง พอล เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กาบี้ ทอลคอฟสกี้ สร้างลายเซ็นที่เขาออกแบบขึ้น นั่นคือ เหลี่ยมของเพชรที่สะท้อนแสงจะเห็นภาพรูปหัวใจและลูกศร 12 ด้าน นี่คือความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของเพชร LOVE100 Diamonds

นอกจาก ฌอง พอล ทายาทรุ่นที่ 7 แล้ว ยังมี อาโนลด์ ทอลคอฟสกี้ ทายาทรุ่นที่ 8 ที่กำลังสานต่อตำนานของตระกูล และพร้อมจะจับมือกับแบรนด์ของคนไทยอย่างยูบิลลี่ ไดมอนด์ ซึ่งมี อัญรัตน์ พรประกฤต กุมบังเหียนในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

“ต้องบอกว่า ยูบิลลี่ ไดมอนด์ กับตระกูลทอลคอฟสกี้ เคยทำงานร่วมกัน ติดต่อธุรกิจกันมานานแล้ว โดยการนำเพชร De Beers Forevermark เข้ามาเมื่อปลายปีที่แล้ว จึงเริ่มพูดคุยกันว่าจะมีโอกาสที่จะนำเพชร  LOVE100 Diamonds เข้ามาทำตลาดในไทยไหม เพราะต้องการให้คนไทยได้สัมผัสกับเพชรคุณภาพระดับเวิลด์คลาส เราใช้เวลาในการพูดคุยเรื่องนี้ประมาณ 2 ปี ซึ่งทอลคอฟสกี้มีความต้องการที่จะขยายตลาดเพชรในไทยเช่นกัน” อัญรัตน์อธิบาย

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุรูปแบบที่ชัดเจนได้ว่าจะเป็นการ Joint Venture หรือไม่ ซีอีโอ ยูบิลลี่ ขยายความต่อว่า “แต่ยูบิลลี่ไม่ได้เป็นแค่ดิสทริบิวเตอร์หรือตัวแทนนำเข้าเพชรเหมือนที่ผ่านมา ทุกอย่างยังต้องดูฟีดแบ็กของตลาดเป็นหลัก ปัจจุบันการทำงานจึงต้องร่วมพูดคุยกันทุกขั้นตอน”

นอกจากความต้องการที่จะยกระดับแบรนด์ยูบิลลี่ ไดมอนด์ สู่ความเป็น Master Brand แล้ว ปัจจุบันยูบิลลี่ ไดมอนด์ มีฐานสมาชิกมากกว่า 200,000 ราย ซึ่งแบ่งลูกค้าออกเป็น 8 กลุ่ม ความพยายามในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มลักชัวรีจากเดิมที่มีอยู่ 15-20% เพิ่มอีก 10% ภายในปีหน้า น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการที่ยูบิลลี่ ไดมอนด์ จับมือกับ ทอลคอฟสกี้ คราฟแมน เจ้าของแบรนด์  LOVE100 Diamonds ในครั้งนี้ด้วย

“นี่เป็นการทำตลาดในเอเชียครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศแรกที่ตระกูลทอลคอฟสกี้เลือกทำตลาดต่างประเทศคือ จีน ซึ่งเปิดตัวไปในช่วงก่อนโควิด และสำหรับยูบิลลี่ ซึ่งเดิมทีเรามีลูกค้าหลายเซกเมนต์ การนำแบรนด์  LOVE100 Diamonds เข้ามาจะช่วยให้เราสร้างฐานลูกค้าใหม่ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Upper Segment ที่มองหาความ Rare แบบ Personalized และด้วยเพชรที่ผ่านการเจียระไนจากตระกูลที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน 200 ปี สร้างเพชรที่มีจุดเด่นอย่างเพชร 100 เหลี่ยม ถือเป็นการเจียระไนในระดับที่สูงกว่า Ideal Cut และมี Ultimate Light Performance เพชรจะมีประกายความงามที่สูงกว่าเพชรกลมปกติถึง 25% พร้อมใบรับประกันคุณภาพจากสถาบัน De Beers ด้วย”

อัญรัตน์ยังเสริมว่า เพชรไม่ใช่ทุกเม็ดที่จะสามารถเจียระไนให้เป็นเพชร 100 เหลี่ยมได้ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่จะทำให้เพชร LOVE100 Diamonds มีความน่าสนใจมากขึ้น

การตัดสินใจปล่อยกลยุทธ์ในช่วงปลายปีเพราะอัญรัตน์มองว่า นี่เป็นช่วง Festive ที่คนจะมองหาซื้อของขวัญให้กับตัวเอง หลังทำงานกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนจะมีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย

“สิ่งที่เราจะทำเพื่อเจาะตลาดนี้ คือการสื่อสารที่จะบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเพชรแบรนด์  LOVE100 Diamonds ผ่านนิทรรศการที่เราจะจำลองขึ้น ตั้งแต่จุดเริ่มต้น การคัดสรรวัตถุดิบ เพชรดิบขุดขึ้นมา สีเป็นอย่างไร คุณภาพความสะอาดเป็นอย่างไร เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เพิ่มมูลค่าให้กับเพชรเม็ดนั้นได้ เจียระไนด้วยเทคนิคพิเศษโดยนักเจียระไนระดับโลก ซึ่งเราจะใช้พื้นที่ของยูบิลลี่ แฟลกชิป สโตร์ สาขาสีลม ที่ยังรอให้นักสะสมไทยได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ และสเต็ปต่อไปคือการขยายเป็นช็อปสำหรับ LOVE100 Diamonds โดยเฉพาะ”

กลุ่มผู้บริโภคในตลาดบนแม้จะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอทางเศรษฐกิจ แต่อารมณ์ส่งผลต่อการตัดสินใจ เช่นที่เกิดขึ้นกับอีกหลายอุตสาหกรรม ที่แม้การเติบโตจะมีแนวโน้มขยายตัว แต่ผู้บริโภคโดยเฉพาะในกลุ่มตลาดบน กลับเลือกที่จะเก็บเงินไว้มากกว่าที่จะนำออกมาใช้

ซึ่งนี่เป็นเหตุให้ 9 เดือนแรก ยูบิลลี่พบกับภาวะติดลบ 10-11% และอัญรัตน์มองว่า ตลาดเพชรที่มีมูลค่าสูงถึง 1.7 หมื่นล้านบาท แต่ภาพรวมของอุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรในไทยกลับไม่เติบโต และนี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งการเดิมพันครั้งสำคัญของยูบิลลี่ ไดมอนด์ กับการดึงแบรนด์ระดับโลกของตระกูลทอลคอฟสกี้ คราฟแมน LOVE100 Diamonds เข้ามาร่วมทำตลาดในประเทศไทย

จังหวะก้าวต่อไปของยูบิลลี่ ไดมอนด์ แบรนด์อายุ 95 ปี ที่โลดแล่นอยู่ในวงการเครื่องประดับเพชร จะปล่อยกลยุทธ์หรือจะ Collab กับแบรนด์ใดเพิ่มขึ้น คงน่าติดตาม.