วันจันทร์, ตุลาคม 28, 2024
Home > Cover Story > “วีพีพีดับเบิลยู” จากผู้นำเข้าเวสป้า สู่การบุกตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับลักชัวรี

“วีพีพีดับเบิลยู” จากผู้นำเข้าเวสป้า สู่การบุกตลาดเฟอร์นิเจอร์ระดับลักชัวรี

หลังจากดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสกูตเตอร์แบรนด์ระดับตำนานจากอิตาลีอย่าง “เวสป้า” (Vespa) มานานกว่า 14 ปี  ล่าสุดกลุ่มบริษัท วีพีพีดับเบิลยู ภายใต้การนำของนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง “พรนฎา นิวาตวงศ์” ได้ฤกษ์ขยายธุรกิจต่อยอดจากยานยนต์สู่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านแบบเต็มตัว ตั้งเป้าเจาะกลุ่มตลาดระดับลักชัวรีและพรีเมียม โดยมีเฟอร์นิเจอร์แบบ “ดัตช์ ดีไซน์” เป็นอาวุธสำคัญ

กลุ่มบริษัท วีพีพีดับเบิลยู (VPPW) เป็นผู้จัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่ม “พิอาจิโอ” หรือรู้จักกันในนาม เวสป้า ไทยแลนด์ ทำการตลาดในธุรกิจยานยนต์ของไทยมานานกว่า 14 ปี กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา วีพีพีดับเบิลยูเริ่มสร้างหลักไมล์ใหม่ ด้วยการเข้าซื้อกิจการบริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด (Quattro Design) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียมที่อยู่มานานกว่า 16 ปี เพื่อขยายธุรกิจจากยานยนต์สู่เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ครั้งใหญ่

“กลุ่มวีพีพีดับเบิลยูอาจไม่เป็นที่รู้จักในกลุ่มธุรกิจแฟชั่นหรือเฟอร์นิเจอร์มากนัก เพราะมาจากธุรกิจสายยานยนต์ แต่เราเริ่มสนใจที่จะขยายธุรกิจในกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น ซึ่งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเป็นอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ประจวบเหมาะกับ ควอตโตร ดีไซน์ เขาต้องการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์พอดี และเราเองก็เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้กับควอตโตร ดีไซน์ มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เลยมาคุยกันและตัดสินใจเทกโอเวอร์ให้ ควอตโตร ดีไซน์ เข้ามาอยู่ในกลุ่มบริษัทวีพีพีดับเบิลยูในที่สุด” พรนฎาเปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจครั้งนี้กับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ก่อนขยายความเพิ่มเติมว่า

เดิมทีบริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด มีจุดเริ่มต้นจากการออกแบบและคัดเลือกเฟอร์นิเจอร์จากทั่วโลกในลักษณะ “curate and select shop” โดยเน้นกลุ่มลักชัวรีเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่ามีความหลากหลายและน่าตื่นเต้นเพราะสินค้ามีความแปลกใหม่ตลอด แต่เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หลังจากวีพีพีดับเบิลยูเข้ามาเทกโอเวอร์จึงได้มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ให้วัยรุ่นขึ้น โดยเปลี่ยนจาก ‘ควอตโตร ดีไซน์ (Quattro Design)’ สู่แบรนด์ ‘คิวดี (QD)’ เน้นการคัดสรรและสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน มีการปรับราคาให้คุ้มค่า รวมถึงหาพันธมิตรผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เพื่อที่จะซัปพลายสินค้าให้ได้อย่างต่อเนื่อง แตกต่างจากการดำเนินธุรกิจที่ผ่านมาของควอตโตร ดีไซน์ ซึ่งพรนฎามองว่าเป็นส่วนสำคัญในการสร้างธุรกิจให้เติบโต

“เมื่อก่อนควอตโตร ดีไซน์ ทำเฟอร์นิเจอร์ลักชัวรี สินค้าเขาส่วนใหญ่เหมาะกับวิลล่าหรือบ้านหลังใหญ่ ซึ่งมันเหมือนพีระมิดยิ่งขึ้นไปฐานยิ่งเล็ก ลักชัวรีแบรนด์ในเมืองไทยมีเยอะมาก การแข่งขันสูง แต่กลุ่มล่างของลักชัวรี หรือบนของพรีเมียมมันมีช่องว่างอยู่ หรือแม้กระทั่งบนของแมสก็ยังมีช่องว่าง ด้วยความที่เราถนัดพรีเมียมแมสเพราะทำเวสป้ามาสิบกว่าปี จึงมองเห็นว่ามันมีโอกาสแต่ต้องทำสินค้าที่ตอบโจทย์และคุ้มค่า ราคาต้อง reasonable pricing จึงเป็นที่มาของการรีแบรนด์ให้วัยรุ่นขึ้น มีการปรับเปลี่ยนขนาดให้มีความหลากหลายเพื่อให้เข้าได้หลายประเภท ปรับราคาให้เกือบเท่ากับที่ต่างประเทศ และหาพันธมิตรระยะยาวที่มั่นใจได้ว่าเขาจะสามารถซัปพลายสินค้าให้ได้ตลอด และทำให้เราสามารถขยายธุรกิจต่อไปได้”

โดยล่าสุดบริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัท วีพีพีดับเบิลยู ออกมาตอกย้ำเกมรุกด้วยการเปิดตัวกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจครั้งสำคัญในตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน นำเสนอ 2 แบรนด์ใหม่อย่าง “EICHHOLTZ THAILAND” ในกลุ่มลักชัวรี และ “QD Selected” ในกลุ่มพรีเมียม โดยใช้จุดแข็งด้านดีไซน์แบบดัตช์มาเป็นอาวุธหลัก รวมถึงมีการวางโพสิชันแบรนด์สู่การเป็น “One Stop Design Solution” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าแบบที่เดียวเอาอยู่ ตั้งแต่การออกแบบ จัดหา รวมถึงจัดวาง

สำหรับ EICHHOLTZ เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชั้นนำสัญชาติดัตช์ที่มีชื่อเสียงด้านงานดีไซน์แบบ European sensibility มีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และดูไบ ถูกนำไปตกแต่งในโรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้ามาแล้วกว่า 10,000 แห่ง โดยควอตโตร ดีไซน์ ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายแบรนด์ EICHHOLTZ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่ง EICHHOLTZ จะกลายมาเป็นพันธมิตรคนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับควอตโตร ดีไซน์ ในระยะยาว

พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ กรรมการผู้จัดการ และดีไซน์ ไดเร็คเตอร์ ของบริษัท ควอตโตร ดีไซน์ จำกัด ได้อธิบายเพิ่มเติมถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีการดีไซน์แบบดัตช์มาเป็นอาวุธสำคัญว่า การออกแบบและผลิตสินค้าแบบดัตช์มีเอกลักษณ์พิเศษ ทั้งในแง่ของรูปทรง การใช้พื้นที่ ฟังก์ชัน ความสวยงาม มีความร่วมสมัยและโดดเด่นด้วยเทคนิคการผลิตที่มีคุณภาพระดับยุโรป อีกทั้งยังคำนึงถึงความยั่งยืน ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี

“EICHHOLTZ เป็นดัตช์แบรนด์ระดับโลกที่มีการออกแบบโดยผสมผสานความหรูหราแบบยุโรปกับดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่น่าดึงดูด ซึ่งเขาเป็นแบรนด์ที่เริ่มต้นจากคนที่หลงใหลในงานดีไซน์เหมือนกับเรา เรียกได้ว่ามี DNA เดียวกัน แต่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก เฟอร์นิเจอร์เขามีหลากหลายสไตล์และมีสินค้ามากกว่า  4,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นไฟ ของแต่งบ้าน โซฟา เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงของตกแต่งชิ้นเล็กๆ อย่างกรอบรูป ที่สำคัญเขาตอบโจทย์เรื่องราคาที่คุ้มค่า จึงมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะเป็นมุมไหนของบ้านจะทำให้คนรักการแต่งบ้านมีความสุขทุกวัน ส่วน QD Selected เน้นสร้างแรงบันดาลใจให้คนรักงานดีไซน์สนุกกับการแต่งบ้านได้ด้วยตนเอง”

โดยพราวพรรณเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การได้ EICHHOLTZ มาเป็นพันธมิตรในการซัปพลายสินค้าให้กับQD ถือเป็นจุดแข็งที่สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้ เพราะนอกจากคุณภาพและดีไซน์ระดับลักชัวรีในราคาที่จับต้องได้แล้ว EICHHOLTZ ยังมีการสต๊อกสินค้าอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ ทำให้สามารถสั่งและจัดส่งได้ภายใน 3 เดือน ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์ลักชัวรีอื่นๆ ที่ลูกค้าจะใช้วิธีสั่งทำและต้องรอนานมากกว่า 6 เดือนกว่าจะได้รับสินค้า ซึ่งนี่ถือเป็นจุดแข็งสำคัญในเซกเมนต์ลักชัวรีของ QD

นอกจากเปิดตัวแบรนด์ใหม่แล้ว เพื่อเป็นการตอกย้ำเกมรุก ควอตโตร ดีไซน์ ยังเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์อีก 2 แห่ง เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ได้แก่

“EICHHOLTZ THAILAND” ร้านแฟล็กชิปลักชัวรีบนพื้นที่ 900 ตารางเมตร ที่ เอ สแควร์ สุขุมวิท 26 นำเสนอคอนเซ็ปต์ “คอมพลีทลักชัวรี” ด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งระดับไฮเอนด์ เน้นกลุ่มลักชัวรีในราคาที่เข้าถึงได้

“QD Selected” ร้านไลฟ์สไตล์มัลติแบรนด์บนพื้นที่ 500 ตารางเมตร ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ตอบโจทย์กลุ่มที่ชื่นชอบงานดีไซน์คุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Add Play To Space” โดยรวบรวมเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งกว่า 3,000 รายการ จากดัตช์แบรนด์ และแบรนด์ดังจากยุโรป อย่าง POLSPOTTEN และ &klevering จากอัมสเตอร์ดัม ที่เน้นดีไซน์สุดชิค สีสันสดใส และแฝงความสนุก รวมถึงของตกแต่งในห้องครัวและห้องน้ำจากแบรนด์ Zone Denmark และ Silk-ka แบรนด์ดอกไม้ดังจากเนเธอร์แลนด์ โดยภายในร้านแบ่งออกเป็น 9 โซน ได้แก่ QD Selected Furniture, Chair Parade, Flower Corner, Poster, Accessories Room รวมถึงมุมสินค้าดีไซน์สำหรับสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ PRYNWAN Pets (พรินวัน เพ็ท) อีกด้วย

ปัจจุบันร้านเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ QD มีอยู่ทั้งสิ้น 3 สาขา ได้แก่ สาขาที่ภูเก็ตที่อยู่มานานกว่า 7 ปี, สาขาสุขุมวิท 26 และสาขาล่าสุดภายในศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดยต่อจากนี้บริษัทมีแผนขยาย QD Selected เพิ่มเป็น 6 สาขาภายในระยะเวลา 2 ปี โดยมีแผนเปิดเพิ่มในกรุงเทพฯ 2 สาขา และในหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดอีก 1 สาขา โดยสาขาในต่างจังหวัดจะเน้นในรูปแบบของสแตนด์อะโลนหรือคอมมูนิตี้มอลล์เป็นหลัก

ซึ่งการขยายสาขานี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาด Affordable Premium และเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับ QD อย่างมีนัยสำคัญ

โดยพรนฎาเปิดเผยว่า “พื้นฐานเราทำธุรกิจยานยนต์ที่ทำตลาดอยู่ใน 65 จังหวัดทั่วประเทศ เลยมีความรู้เรื่องต่างจังหวัดเยอะ และเห็นว่ามีโอกาสในการขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไปยังต่างจังหวัดเหมือนกัน นี่น่าจะเป็น journey แรก ฝากติดตามในช่วง 2-3 ปีต่อจากนี้ ว่าเราจะขยายธุรกิจเข้าไปในพื้นที่ไหนบ้าง”

นอกจากการเปิดตัวแบรนด์และแฟล็กชิปสโตร์แล้ว QD ยังวางกลยุทธ์ใหม่สู่การเป็น One Stop Design Solution ซึ่งนอกจากการขายปลีกแล้ว ยังให้บริการออกแบบแบบครบวงจร ตั้งแต่งานออกแบบภายใน บริการหาเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ตามสั่ง โดยใช้ความเชี่ยวชาญของทีมดีไซเนอร์ที่มีประสบการณ์ สามารถรองรับทั้งลูกค้า B2B, B2C ทั้งในและต่างประเทศ

“การเป็น One Stop Design Solution เป็นความแตกต่างที่เรานำมาเป็นจุดแข็งให้กับ QD ไม่ว่าลูกค้ากลุ่มไหนตั้งแต่โรงแรม หรือลูกค้าที่เพิ่งซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม และอยากตกแต่งบ้าน แค่บอกว่าต้องการอะไรเราจัดให้ได้ ตั้งแต่ออกแบบ หาของ ช่วยจัดวาง เป็นสิ่งที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงภายใน 2 ปีนี้ของ QD”

โดยตลาดที่ QD ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ที่อยู่อาศัยให้เช่าทั้งคอนโดมิเนียมและบ้าน เพราะปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่นิยมซื้อบ้านแต่เลือกที่จะเช่าอยู่ ในขณะเดียวกันกลุ่มคนที่เคยซื้อบ้านพักตากอากาศเป็นบ้านหลังที่สองก็มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยหันมาซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อปล่อยเช่า และต้องการเฟอร์นิเจอร์ในการตกแต่งเพื่อดึงดูดผู้เช่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรง และเป็นโอกาสทางธุรกิจให้กับ QD เช่นกัน

ทั้งนี้ QD ตั้งเป้าการเติบโตทางธุรกิจไว้ที่ 100% ภายใน 2 ปี ด้วยรายได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท จากปัจจุบันที่อยู่ที่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท.