วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > New&Trend > ลอรีอัล กรุ๊ป เปิดตัวเมลาซิล นวัตกรรมส่วนผสมสุดล้ำสำหรับปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด

ลอรีอัล กรุ๊ป เปิดตัวเมลาซิล นวัตกรรมส่วนผสมสุดล้ำสำหรับปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด

ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal Groupe) เปิดตัวเมลาซิล (MelasylTM) โมเลกุลที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสำหรับปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดจุดด่างดำและรอยสิว จากผลการศึกษาในด้านระบาดวิทยาของผิวหนังทั่วโลก พบว่าผู้ที่มีส่วนร่วมในการศึกษาครึ่งหนึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีผิวอย่างน้อย 1 ประเภท ลอรีอัลจึงนำส่วนผสมอันเป็นกรรมสิทธิ์มาพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ซึ่งครอบคลุมทุกโทนสีผิว เพื่อจัดการกับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอและช่วยให้ผิวพรรณแลดูดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เมลาซิลยังผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด และถูกนำไปศึกษาทางวิทยาศาสตร์มาแล้วถึง 121 ครั้ง

สำหรับ “เมลาซิล” เป็นส่วนประกอบสุดล้ำเพื่อแก้ปัญหาเม็ดสีผิวไม่สม่ำเสมอเฉพาะจุด ทำงานโดยดักจับสารตั้งต้นที่มากผิดที่จะเปลี่ยนไปเป็นเม็ดสีส่วนเกิน (melanin precursor) ที่จะนำไปสู่ปัญหาจุดด่างดำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ

เมลาซิลเป็นผลงานจากการวิจัยอย่างยาวนานถึง 18 ปี และเป็นนวัตกรรมที่ได้รับสิทธิบัตร ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของเมลาซิล สามารถช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น จัดการได้แม้กับรอยดำฝังลึก ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยที่มีส่วนผสมของเมลาซิล ได้แก่ เมลา บี3 (Mela B3) ของลา โรช-โพเซย์ (La Roche Posay) ทั้งเซรั่มเมลาบี3 (MelaB3) และเมลาบี3 เอสพีเอฟ30 (MelaB3 SPF30) ในอนาคตอันใกล้นี้ ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) และวิชี่ (Vichy) เตรียมนำเมลาซิลมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ผู้เชี่ยวชาญคิดค้นขึ้นมาโดยใช้ส่วนผสมใหม่นี้ได้มากยิ่งขึ้น

ดร.ดิมอย รอย รองหัวหน้าฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ตลาดเกิดใหม่ ลอรีอัล กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ปัญหาที่เกี่ยวกับเม็ดสีผิวนั้นไม่ใช่เรื่องผิวเผิน และมีข้อมูลระบุถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตที่ลดลง ลอรีอัลทุ่มเทวิจัยเรื่องเม็ดสีผิวมาเป็นเวลากว่า 30 ปี จนสามารถเข้าใจปัญหาและกลไกการเกิดเม็ดสีส่วนเกินอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ ในทุกความหลากหลายของลักษณะและสีผิว นวัตกรรมที่ไม่เหมือนใครของเรา ที่มีกลไกการจัดการกับปัญหาความไม่สม่ำเสมอของสีผิว โดยไม่ยับยั้งกระบวนทำงานในการสร้างเม็ดสีผิวตามธรรมชาติ มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับประเทศไทย และภูมิภาค SAPMENA อันประกอบด้วย เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของสีผิว”

มุมมองด้านปัญหาผิวหนังจากนายแพทย์ภูมิ วิสุทธิ์จินดากรณ์

นอกจากนั้น เรายังได้รับทราบข้อมูลด้านปัญหาผิวหนังจากนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชื่อดังอย่างนายแพทย์ภูมิ วิสุทธิ์จินดากรณ์ ที่มาเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่า

“ปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสีผิวเฉพาะจุด และปัญหาฝ้า กระ เป็นปัญหาด้านปัญหาผิวพรรณที่มีการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตสูงมากปัญหาหนึ่งในประเทศไทย และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยไปพบแพทย์ผิวหนัง”

“ความผิดปกติของเม็ดสีผิวมักจะรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสกับปริมาณรังสียูวีและระดับมลภาวะระดับสูง ปัจจุบันคนไทยมีความต้องการมีผิวที่สุขภาพดี มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น และมีความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคของส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และพัฒนาวิธีการดูแลผิวในหลากหลายขั้นตอนมากขึ้น”

ทั้งนี้เมลานินมีหน้าที่สำคัญในการแสดงโทนสีผิวจึงทำให้สีผิวของมนุษย์มีความหลากหลายแตกต่างกันไป ซึ่งเมื่อผิวถูกแสงแดด ร่างกายจะผลิตเมลานินเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องเซลล์ผิว การผลิตเมลานินที่มากหรือน้อยกว่าปกติเกิดได้จากหลายปัจจัย และอาจก่อให้เกิดปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุด เช่น จุดด่างดำแห่งวัยและรอยดำจากสิว ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ของลอรีอัล กรุ๊ป ที่มีเมลาซิลเป็นส่วนประกอบจะเข้ามาช่วยลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดขึ้น รวมถึงรอยดำฝังลึก* เป็นปัญหากวนใจ ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ได้รับการทดสอบแล้วในทางคลินิกครอบคลุมทุกโทนสีผิว

ลอรีอัล กรุ๊ป เป็นผู้นำในแวดวงวิทยาการก้าวหน้าทางความงามมาเป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ และได้ทุ่มเทศึกษาค้นคว้าเรื่องเม็ดสีผิวมาเป็นเวลาถึง 35 ปี เมลาซิลได้รับการนำเสนอครั้งแรกที่การประชุมแพทย์ผิวหนังโลก (World Congress of Dermatology) ประจำปี 2566 ที่สิงคโปร์ พร้อมกับผลการศึกษาทั่วโลกครั้งแรกเกี่ยวกับความผิดปกติของสีผิวในทางระบาดวิทยา และเมื่อไม่นานมานี้ เมลาซิลยังถูกพูดถึงในการประชุมใหญ่ประจำปีของสมาคมแพทย์ผิวหนังอเมริกา (American Academy of Dermatology) ในเมืองซานดิเอโก ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย

นอกจาก MelasylTM ลอรีอัล กรุ๊ป ยังพัฒนานวัตกรรมด้านความงามที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

นวัตกรรมระดับโลกอื่นๆ จากลอรีอัล กรุ๊ป
Mexoryl 400:

ภายหลังจากที่ได้พัฒนาและค้นคว้าวิจัยสารกันแดด“เม็กโซริล 400” (Mexoryl 400) มาเป็นเวลา 10 ปี พร้อมด้วยสิทธิบัตร 25 ฉบับ ลอรีอัลได้ปฏิวัตินวัตกรรมครีมกันแดดครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 30 ปี ในปี 2565 ด้วยการเปิดตัว “ยูวีมูน 400” (UVMUNE 400) ที่มีส่วนผสมของเม็กโซริล 400 เทคโนโลยีกันแดดตัวแรกจากแผนกวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัล (L’Oréal R&I) ที่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีช่วงยาวในช่วงคลื่น 380-400 นาโนเมตร หรือ Ultra-Long UVA ซึ่งคิดเป็น 30% ของรังสียูวีทั้งหมด รังสียูวีเอช่วงยาวเป็นสาเหตุของภาวะความเครียดจากออกซิเดชั่น จุดด่างดำ การเปลี่ยนแปลงของยีนที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งผิวหนัง อีกทั้งยังขัดขวางการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ทำให้ผิวถูกทำลายจากมลภาวะทางแสง และยังทำให้เกิดสัญญาณแห่งวัย เช่น ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และจุดด่างดำ โดย “ลา โรช-โพเซย์” (La Roche-Posay) เป็นแบรนด์แรกของลอรีอัลที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยูวีมูน 400 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดด “แอนเทลิโอส” (ANTHELIOS)

EpiSkin ผิวหนังจำลอง:

ลอรีอัลมุ่งมั่นสร้างสรรค์ความงามโดยปราศจากการทดลองในสัตว์ เราจึงไม่ทดลองผลิตภัณฑ์หรือส่วนผสมกับสัตว์ ลอรีอัลยังเป็นบริษัทรายแรก ๆ ที่ใช้วิธีการทดลองแบบทางเลือกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี โดยในช่วงระยะเวลากว่า 40 ปีนี้ บริษัทได้บุกเบิกการพัฒนาแบบจำลองผิวมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ หรือที่เรียกว่า เอพิสกิน (EpiSkin) เพื่อใช้ประเมินผลิตภัณฑ์และส่วนผสมเครื่องสำอางว่าจะส่งผลอย่างไรต่อผิวของมนุษย์ โดยเราได้พัฒนาแบบจำลองผิวมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาใหม่ในห้องปฏิบัติการเอพิสกินหลายแห่ง ทั้งในประเทศฝรั่งเศส จีน และบราซิล

นวัตกรรมระดับโลกอื่นๆ จากลอรีอัล กรุ๊ป ภูมิภาค SAPMENA (เอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ)

Bright Complete Vitamin C Booster Serum:

SAPMENA เป็นภูมิภาคที่กว้างใหญ่และมีความหลากหลายอย่างมากในแง่ของประเภทเส้นผมและสีผิว จากระบบการจำแนกสีผิวทั่วโลกโดยพิจารณาจากสีผิวและการตอบสนองต่อแสงแดดนั้น มีการแบ่งระดับของสีผิวออกเป็น 6 ระดับ และทั้ง 6 ระดับนี้สามารถพบได้ในภูมิภาค SAPMENA ซึ่งหมายความว่า ลอรีอัลสามารถถอดรหัสความหลากหลายและคิดค้นโซลูชันที่ครอบคลุมมากที่สุด เหมาะสำหรับทุกสีผิวและทุกสภาพผิว เราได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ก้าวล้ำเพื่อตอบสนองความงามที่ครอบคลุมทุกความแตกต่างมากที่สุด และในปัจจุบัน นวัตกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นในภูมิภาค SAPMENA กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก หนึ่งในตัวอย่างของความสำเร็จ คือ ไบรท์ คอมพลีท วิตามินซี บูสเตอร์ เซรั่ม (Bright Complete Vitamin C Booster Serum) จากการ์นิเย่ (Garnier) ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนาในภูมิภาค SAPMENA เพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผิวพรรณที่กระจ่างใสไร้จุดด่างดำ เซรั่มสูตรนี้ประกอบด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติอันทรงประสิทธิภาพอย่างวิตามินซี ซึ่งมีประสิทธิภาพยาวนาน 3 วัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวและทุกสีผิว โดยเปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2562 ก่อนที่จะขยายไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป