วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Home > Cover Story > เปิดเป้าหมาย รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ สู่ศูนย์ MRI ชั้นนำอาเซียน

เปิดเป้าหมาย รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ สู่ศูนย์ MRI ชั้นนำอาเซียน

เทรนด์ดูแลสุขภาพ ที่ขยายตัวด้วยอัตราเร่งแบบก้าวกระโดดส่งผลให้อุตสาหกรรมความงามและการดูแลสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง Global Wellness Institute (GWI) หรือสถาบันโกลบอลเวลเนส คาดการณ์ว่าในปี 2568 เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก (Global Wellness Economy) จะมีมูลค่าประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 230 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเทรนด์ที่เริ่มได้รับความนิยม คือ การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ที่ค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะสามารถเห็นรอยโรคและความผิดปกติได้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งจะสามารถป้องกันและอาจหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนรวมถึงปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

GWI เปิดเผยรายงานว่าในปี 2563 ภาคสาธารณสุข เวชศาสตร์ป้องกัน และการแพทย์เฉพาะบุคคล สร้างรายได้ 375,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีภาคสาธารณสุขและเวชศาสตร์ป้องกันถือครองตลาดสูงถึง 92% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 344,100 ล้านดอลลาร์

ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มุมมองด้านสุขภาพของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไป หลายคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในเชิงการป้องกัน ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพในขณะที่ร่างกายยังคงแข็งแรงดี การทำ MRI หรือ Magnetic Resonance Imaging คือ เครื่องมือในการตรวจหาความผิดปกติของร่างกาย โดยใช้เครื่องสนามแม่เหล็กและคลื่นความถี่วิทยุสร้างภาพที่มีความละเอียดสูง

โดยปกติการทำ MRI จะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการช่วยวินิจฉัยโรคของแพทย์เพื่อทำการรักษา แต่สิ่งที่กำลังเปลี่ยนไปคือการทำ MRI จะเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพประจำปี นี่คือสิ่งที่ รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ ต้องการเปลี่ยน mindset ให้เกิดขึ้นแก่ผู้คน

พล.ต.ท. นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูล ประธานบริษัท รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “เอ็ม อาร์ ไอ ถือเป็นเครื่องมือการแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยอวัยวะภายในได้อย่างละเอียด ปัจจุบันบริการ เอ็ม อาร์ ไอ ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในโรงเรียนแพทย์หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่เท่านั้น อีกทั้งยังอาศัยบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการแปลผล และอาจมีระยะเวลารอคิวพบแพทย์ยาวนานหลายเดือน ขณะที่ผู้ป่วยซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างเร่งด่วนกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศไทย ที่ล่าสุดปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นราว 140,000 คน

รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ ในฐานะศูนย์ตรวจวินิจฉัยร่างกายด้วยเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ ที่ได้การรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2008 และ JCI ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุขไทย จึงมีบทบาทในการแบ่งเบาการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยจากสถานพยาบาลอื่นๆ ด้วยบริการตรวจยืนยันโรคโดยเทคโนโลยีเอ็ม อาร์ ไอ ที่ทันสมัยเพื่อการวินิจฉัยที่รวดเร็วและแม่นยำจากบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจที่ทันการพร้อมลดระยะเวลาการรอคิวพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจากหลายเดือนเป็นได้รับการตรวจทันที”

ความเข้าใจเดิม คือ การทำ MRI จะทำในเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น ทว่าในปัจจุบันเทรนด์การดูแลสุขภาพที่ขยายตัว การทำ MRI จึงไม่ถูกจำกัดวงแค่เฉพาะผู้ป่วยอีกต่อไป เมื่อเวชศาสตร์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน MRI คือส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ที่ยังไม่ป่วยเห็นรอยโรค หรือความผิดปกติในร่างกายตั้งแต่เนิ่นๆ

พล.ต.ท. นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร ที่นั่งแท่นตำแหน่งประธานศูนย์ ยังมีบุตรชายอย่าง นพ. ดั่งดำริ หรือ หมอคิด ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ ที่เริ่มเห็นแนวทางของเทรนด์สุขภาพที่เปลี่ยนไป และพยายามปรับทิศทางนโยบายการทำงานของศูนย์ MRI ให้เข้ากับกระแสมากขึ้น

นพ. ดั่งดำริ นิติวรางกูร ผู้อำนวยการศูนย์ รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการตรวจวินิจฉัยโรคให้แก่ผู้ป่วยแล้ว เทคโนโลยีเอ็ม อาร์ ไอ ของรัชวิภา ยังตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและตรวจคัดกรองโรคตั้งแต่ระยะแรกเริ่มด้วยบริการ MRI Check-up ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพของตนเอง จากการเติบโตของเทรนด์การดูแลสุขภาพเชิงป้องกันก่อนเกิดโรค

โดยเทคโนโลยีเอ็ม อาร์ ไอ ที่ศูนย์ฯ สามารถวินิจฉัยระบบอวัยวะภายในได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย ทำให้สามารถตรวจพบโรคร้ายแรงต่างๆ ที่พบได้บ่อย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งตับ ข้อเสื่อม ไปจนถึงโรคหมอนรองกระดูกเสื่อม ได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ซึ่งโรคเหล่านี้มักไม่แสดงสัญญาณความผิดปกติในระยะแรก เพื่อให้สามารถรักษาอย่างตรงจุดได้ทันการก่อนพัฒนาไปยังระยะลุกลาม

นอกจากนี้ จากการที่กระบวนการตรวจด้วยเอ็ม อาร์ ไอ เป็นการวินิจฉัยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ผู้สนใจจึงมาตรวจด้วยเครื่องเอ็ม อาร์ ไอ รุ่น MAGNETOM Altea ได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องกังวลถึงปริมาณรังสีสะสม

“ทั้งนี้ ผู้ใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรค ประกันสังคม ประกันชีวิต หรือสิทธิ์ข้าราชการ สามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวเพื่อรับการตรวจที่รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ได้ ในกรณีที่แพทย์จากโรงพยาบาลที่ใช้สิทธิ์ออกใบส่งตรวจมายังศูนย์ฯ ซึ่งจะทำให้สามารถใช้บริการวินิจฉัยด้วยเอ็ม อาร์ ไอ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม” นพ. ดั่งดำริ กล่าว

รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ เปิดมาตั้งแต่ปี 2550 และการเปลี่ยน mindset ของผู้คนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเรื่องการทำ MRI ส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการตรวจสุขภาพประจำปีทั่วไปที่ครอบคลุม แต่จ่ายในราคาที่รับได้ ในขณะที่การทำ MRI นั้นมีค่าใช้จ่ายประมาณ 8 พันบาทต่อการตรวจหนึ่งส่วน

“อนาคตมีแผนที่จะทำ Communication for Change อยากเปลี่ยน mindset ว่าการทำ MRI สามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มต้น และการทำ MRI ไม่ใช่เครื่องมือที่เป็นอันตราย” นพ. วิฑูรย์ เปิดเผย

“นี่เป็นจุดเปลี่ยน เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ ก้าวสำคัญของเรา การส่งมอบสิ่งดีๆ ให้ไปถึงมือคนที่ต้องการจริงๆ ทั้งคนป่วย คนไม่ป่วย เราเข้าใจผู้ป่วยว่าทุกข์ใจอย่างไร การรักษามะเร็งมีอันตราย เช่น การรับรังสี การตรวจที่ละเอียด ต้องได้รับการทำ CT Scan MRI การรอตรวจ MRI ในปัจจุบันมีลักษณะเป็นคอขวดของการรักษา เป็นภาระของผู้ป่วย และเวลามีค่าต่อชีวิตผู้ป่วย

รัชวิภาต้องการให้ผู้ป่วยเข้าถึงการตรวจรักษา เราให้บริการทันทีทันเวลาเพื่อการรักษา และเราภูมิใจกับรัชวิภามาก เราอัปเดตเทคโนโลยี บุคลากร ความรู้ วิชาการ เทคนิค Software และท้ายสุด การติดตั้งอุโมงค์แม่เหล็กเป็นการลงทุนที่ใหญ่มาก เป็นองค์ความรู้ เป็นต้นทุนในการเปลี่ยนแปลงการทำงาน

การทำ MRI ไม่ได้จำกัดแค่ตรวจผู้ป่วยเท่านั้น แต่สามารถตรวจผู้ที่ไม่ป่วยเพื่อให้เห็นรอยโรค หรือตรวจพบความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆ คนคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องรอให้เป็นโรคก่อน คิดเสียว่าการทำ MRI เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพประจำปี

อยากให้สังคมในวงกว้างมีศูนย์แบบเราเพื่อทำ MRI ถ้าชีวิตใครสักคนแขวนอยู่บนเส้นด้ายระหว่างรอการตรวจ ก่อนที่โรคจะลุกลาม ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาชีวิตของผู้ป่วยได้” นพ. ดั่งดำริ ขยายความ

เดิมศูนย์รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์มีเครื่อง CT Scan 1 เครื่อง และ MRI 2 เครื่อง แต่แนวทางการบริหารงานที่มีเป้าหมายสู่การเป็นศูนย์ MRI ชั้นนำของอาเซียน ทำให้ผู้บริหารตัดสินใจเพิ่มเครื่อง MRI อีก 1 เครื่อง เพื่อรองรับผู้ใช้บริการมากขึ้น ทั้งผู้ป่วยและผู้ที่ต้องการตรวจสุขภาพ

ซึ่งจุดเด่นของเครื่อง MRI รุ่น Magnetom Altea ยี่ห้อ ซีเมนต์ อยู่ที่ความแม่นยำของเทคโนโลยี AI ที่ใช้เทคโนโลยี BioMatrix และเทคโนโลยีอินเตอร์เฟซ Select & GO ปรับการสแกนตามกายวิภาคของผู้รับการสแกนอย่างอัตโนมัติ และช่วยลดเวลาสแกนได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นทั่วไป

นอกจากนี้ การออกแบบเครื่องรุ่นนี้ยังคำนึงถึงผู้ป่วยเป็นหลัก อย่างการลดความวิตกกังวลและความอึดอัดขณะทำการสแกนด้วยดีไซน์อุโมงค์เครื่องตรวจขนาดกว้าง 70 เซนติเมตร และสั้นเพียง 157 เซนติเมตร พร้อมลดเสียงรบกวน ทำให้ผู้รับการสแกนไม่ต้องกลั้นหายใจเป็นระยะเวลานาน

เป้าหมายการเป็นศูนย์ MRI ชั้นนำของอาเซียนด้วยการลงทุนกว่า 50 ล้านบาท อาจทำให้รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ ก้าวเข้าใกล้จุดหมายที่ต้องการได้ไม่ยากนัก ทว่า การเปลี่ยน mindset ของผู้คน ด้วยการสร้าง Communication for change ให้การทำ MRI เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่นๆ อาจไม่ง่ายนัก

แต่หากเทรนด์สุขภาพเชิงป้องกันมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงไปของสถานการณ์และกระแสโดยรวม อาจเป็นไปได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย.