กลุ่มมิตรผล ผนึกกำลังสร้างความยั่งยืนในงาน Sustainability Expo 2023 มอบคาร์บอนเครดิต 6,000 ตันคาร์บอนฯ ผลักดันมหกรรมด้านความยั่งยืนครั้งยิ่งใหญ่ สู่ Carbon Neutral Event สานต่อเจตนารมณ์ขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero เพื่อโลกที่ยั่งยืน
กลุ่มมิตรผล ผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก ผนึกกำลังสร้างความยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนคาร์บอนเครดิต จำนวน 6,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) ให้กับงาน Sustainability Expo 2023 (SX 2023) “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้การจัดงานครั้งนี้เป็น Carbon Neutral Event สานต่อเจตนารมณ์ของกลุ่มมิตรผลในการขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero เพื่อโลกที่ยั่งยืน
โดยมี คุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัทและประธานคณะกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล พร้อมด้วย คุณวีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย พลังงาน และธุรกิจใหม่ กลุ่มมิตรผล เป็นผู้มอบคาร์บอนเครดิตให้แก่คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานอำนวยการจัดงานดังกล่าวฯ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งานมหกรรม Sustainability Expo 2023 จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ต่อสาธารณชนถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนประสานพลังร่วมระหว่างองค์กรชั้นนำจากทุกภาคส่วนของภูมิภาคอาเซียน และผลักดันให้เกิดเครือข่ายของการมีส่วนร่วมที่นำไปสู่การปฏิบัติที่ได้ผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงเพื่อโลกที่ดียิ่งขึ้น โดยมีการบริหารจัดการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการ รวมไปถึงการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยคาร์บอนเครดิต สอดคล้องตามนโยบายสิ่งแวดล้อมของประเทศ ซึ่งภายในงานครั้งนี้ กลุ่มมิตรผล ในฐานะผู้ได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตรายใหญ่ของประเทศไทย ได้ร่วมสนับสนุนคาร์บอนเครดิต เป็นจำนวนทั้งสิ้น 6,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยปัจจุบันกลุ่มมิตรผลมีปริมาณคาร์บอนเครดิตที่ผ่านการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กว่า 800,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ที่ได้มาจากการดำเนินธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวลจากเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ซึ่งเป็นพลังงานสีเขียวที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ การมอบคาร์บอนเครดิตดังกล่าวฯ เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอกย้ำพันธกิจของกลุ่มมิตรผลในการมุ่งสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี ค.ศ. 2050 และสานต่อเจตนารมณ์ของกลุ่มมิตรผลที่ว่า การสร้างความยั่งยืนมิใช่เพียงภารกิจของใครคนใดคนหนึ่ง แต่คือการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ในการพาสังคมไทยเติบโตและก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำเพื่อโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน