วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Home > Cover Story > TK Park คิกออฟงานใหญ่แห่งปี กับภารกิจสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้

TK Park คิกออฟงานใหญ่แห่งปี กับภารกิจสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้

“สังคมแห่งการเรียนรู้คือกุญแจดอกสำคัญ ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ตลอดจนสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนในสังคม” คือแนวคิดในการจัดตั้ง “สถาบันอุทยานการเรียนรู้” หรือ TK park ที่ก่อตั้งขึ้นมาในฐานะ “ต้นแบบ” ของแหล่งเรียนรู้สำหรับทุกคนในสังคม ผ่านสื่อการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ทั้งหนังสือ ดนตรี มัลติมีเดีย และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้สู่ปลายทางคือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในสังคม

โดยหลังจากทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้มากว่า 18 ปี วันนี้ TK Park กำลังตอกย้ำภารกิจในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ด้วยการจับมือกับกรุงเทพมหานคร และเครือข่ายการเรียนรู้กว่า 30 องค์กร ประกาศจัดงาน “Learning Fest Bangkok 2023” หรือ เทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ ขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้แนวคิด “Wonderlearn สงสัยให้สุด เป็นมนุษย์ไม่หยุดเอ๊ะ” เพื่อสร้างแพลตฟอร์มในการส่งเสริมระบบนิเวศการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย และเพื่อผลักดันให้ “กรุงเทพมหานคร” เป็นเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ระดับโลกของยูเนสโก (The UNESCO Global Network of Learning Cities – GNLC) ในที่สุด

“ผู้จัดการ 360 องศา” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “กิตติรัตน์ ปิติพานิช” ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) ถึงที่มาและรายละเอียดของงานเทศกาลแห่งการเรียนรู้ครั้งนี้ ซึ่งคุณกิตติรัตน์ได้เท้าความถึงที่มาให้เราฟังว่า

TK Park เป็นหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และมีเครื่องมือในการสร้างการเรียนรู้หลายอย่าง แต่ภาพจำของคนทั่วไปคิดว่า TK Park มีแค่ห้องสมุดที่อยู่ชั้น 8 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว TK Park มีเครือข่ายอยู่ตามต่างจังหวัดทั่วประเทศทั้งสเกลเล็กและสเกลใหญ่ สำหรับจังหวัดใหญ่ๆ ระดับเทศบาล หรือ อบจ. มีอยู่ 32 แห่ง ใน 25 จังหวัด และสเกลเล็กมีมากถึง 200-300 แห่งทั่วประเทศ โดยมีพันธมิตรที่หลากหลายทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กรมโยธาธิการ ไปจนถึงกรมราชทัณฑ์

สำหรับห้องสมุดที่เป็นภาพจำของคนทั่วไป เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือที่ TK Park นำมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือต่างๆ อยู่อีกมากมายที่สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้จริง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็น “Learning City” เมืองแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรแกรมของยูเนสโก เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่เท่าเทียมและให้ผู้คนเข้าถึงการเรียนรู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

และในการที่จะบรรลุเป้าประสงค์ครั้งนี้ TK Park จึงได้จัดงาน “Learning Fest Bangkok 2023” เทศกาลแห่งการเรียนรู้กรุงเทพฯ ขึ้น เพื่อเป็นการจุดประกายความคิดของผู้คนให้เกิดการเรียนรู้ และเพื่อก้าวสู่การเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก

ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2573 จำนวนประชากรโลกที่อาศัยในเขตเมืองจะสูงถึงร้อยละ 60 ยูเนสโกจึงได้สร้างแนวทางในการสนับสนุนให้เมืองเกิดกระบวนการในการพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อเสริมศักยภาพของผู้คนให้ก้าวไปอย่างเท่าทัน ผ่านการสร้างเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ระดับโลก

โดยยูเนสโกจะมีการประกาศรายชื่อเครือข่ายใหม่ในวันที่ 8 กันยายนของทุกปี เนื่องในโอกาสวันสากลแห่งการรู้หนังสือ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ทั้งสิ้น 7 เมือง ได้แก่ เชียงราย ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา หาดใหญ่ สุโขทัย พะเยา และเชียงใหม่ สำหรับปีนี้จะมีการเสนอเพิ่มอีก 3 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น และยะลา

ซึ่ง TK Park เชื่อว่า “Learning Fest Bangkok 2023” จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคิดริเริ่มด้านนโยบายและแนวปฏิบัติที่ดีในการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อบรรลุเป้าในการสร้าง Learning City

“Learning Fest Bangkok 2023 เป็นงานแรกที่เราคิกออฟตัวเทศกาลแห่งการเรียนรู้ เพราะอยากให้คนไทยได้ประจักษ์และมีพื้นที่ให้ผู้คนออกมาเรียนรู้ งานนี้มีคำว่า Bangkok ต่อท้าย นั่นหมายความว่า ในอนาคตงานนี้จะถูกจัดขึ้นในเมืองอื่นๆ ตามมาอีกอย่างแน่นอน”

สำหรับงาน Learning Fest Bangkok 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 กันยายน 2566 ภายใต้แนวคิด “Wonderlearn สงสัยให้สุด เป็นมนุษย์ไม่หยุดเอ๊ะ” เพราะ TK Park เชื่อว่า ทักษะการตั้งคำถามเป็นสิ่งสำคัญมากในการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน

“เราเชื่อว่าการตั้งคำถามที่ดี มันจะนำพาไปสู่การหาคำตอบที่สร้างสรรค์ได้ สมัยก่อนเราไม่ค่อยกล้าถาม สมัยนี้ถามกันมากขึ้น เอ๊ะ มันใช่หรือ?, เอ๊ะ มันถูกต้องไหม? ทักษะการตั้งคำถาม น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเรียนรู้ของผู้คน ปีนี้เลยอยากตั้งต้นภายใต้ชื่อธีม wonder learn คือการเรียนรู้จากการตั้งคำถาม และส่งเสริมให้คนตั้งคำถามกับสิ่งที่อยู่รอบตัว ซึ่งนำไปสู่การวางเป้าหมายในการพัฒนาที่ดีขึ้น หาโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้คนและชุมชนเพิ่มมากขึ้น”

โดยเทศกาลครั้งนี้ประกอบด้วยหลากหลายกิจกรรม ได้แก่ เวที “เอ๊ะทอล์ค” ให้ทุกคนมา ‘เอ๊ะ’ กับผู้คนจากหลายวงการที่จะมาปลุกความสงสัย ชวนให้หยุดคิด เพื่อต่อยอดความคิดและนำไปใช้ในชีวิตจริง นอกจากนั้นยังมี “เอ๊ะ? Awards by TK Park” รางวัลเชิดชูความสงสัยสำหรับมนุษย์เอ๊ะที่สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับสังคม

“เอ๊ะ hibition” นำเสนอวิธีเปลี่ยนตัวเองให้เป็น ‘นักอยากรู้’ ผ่านกิจกรรมอย่าง Wonder Walk กิจกรรมที่พาทุกคนออกนอกพื้นที่ที่คุ้นเคยอย่างย่านประตูน้ำและบ้านครัว, Wonder Arts กิจกรรมที่พามาเอ๊ะเปิดโลกกับภาพยนตร์ ดนตรี ละคร ศิลปะ รวมถึง Young Wonders กิจกรรมสำหรับเด็กและครอบครัว

อีกทั้งยังจับมือกับพาร์ตเนอร์อย่าง TikTok จัดแคมเปญออนไลน์ #TikTokUni ชวนบรรดาครีเอเตอร์มาร่วมปลุกความสงสัย และสร้างแรงบันดาลใจให้คนไม่หยุดเรียนรู้ และอีกหนึ่งไฮไลต์ของงานคือ กิจกรรม Wonder Lab ที่รวบรวมมนุษย์เอ๊ะมืออาชีพไว้ด้วยกัน ประกอบไปด้วยเวิร์กช็อปเชิงกระบวนการเรียนรู้สำหรับสายลึก เน้นการร่วมตั้งคำถามและหาคำตอบเพื่อส่งเสริมการคิดแบบไม่จำกัด

“เทศกาลนี้จัดเป็นครั้งแรกโดยปักหมุดที่กรุงเทพฯ ก่อน เพราะใกล้ตัว เพื่อให้สังคมได้เห็นภาพ เห็นวิธีการทำงานของ TK Park และอยากกระตุ้นเครือข่ายในกรุงเทพฯ จากนั้นจะขยายไปยังจุดต่างๆ สเกลอาจจะแตกต่างกันไป เราทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมให้คนที่มีอะไรที่อยากจะแบ่งปันและคนที่ต้องการเรียนรู้มาเจอกัน และที่สำคัญอยากให้มันเป็นแพลตฟอร์มไม่ใช่เป็นแค่อีเวนต์”

นอกจากงานเทศกาลการเรียนรู้กรุงเทพฯ งานใหญ่แห่งปีของ TK Park ที่จะเกิดขึ้นแล้ว ผู้อำนวยการแห่ง TK Park ยังแง้มออกมาอีกว่า ในอนาคตอันใกล้จะมีการเปิดตัวเครื่องมือส่งเสริมการเรียนรู้ตัวใหม่อย่าง “ตู้ยืมคืนหนังสืออัตโนมัติ” เพื่ออำนวยความสะดวกและนำความรู้ไปให้ผู้คน และถือเป็นความแปลกใหม่ของโลกการเรียนรู้

“มันคือเต่าบินของโลกหนังสือ เราพยายามเอาความรู้ไปให้ผู้คน คุณไม่มาหาเรา เราก็ไปหาคุณ คุณไม่สะดวกมา เราจะไปอยู่ใกล้ๆ คุณเอง TK Park ทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนได้เข้าถึงการเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียม” กิตติรัตน์กล่าวทิ้งท้าย.