ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ปลื้มกระแสตอบรับบ้านระดับพรีเมียม “บ้านลลิล The Prestige” ตอบโจทย์ด้วยงานออกแบบ French Colonial Style หรูหราอย่างมีระดับ เสริมความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรม ECO Tech
หลังจากส่ง 2 โครงการบ้านระดับพรีเมียมภายใต้แบรนด์ “บ้านลลิล The Prestige” สู่ตลาด ซึ่งได้การตอบรับเป็นอย่างดี ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ พร้อมขยายการพัฒนาแบรนด์บ้านระดับพรีเมียมต่อเนื่องในปีนี้ ย้ำตลาดบ้านกลุ่มเรียลดีมานต์ 2-10 ล้านยังไปต่อได้ทั้งยังครองส่วนแบ่งกว่า 60% ในปัจจุบัน
นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) เปิดเผยว่า “บ้านลลิล The Prestige” เป็นแบรนด์บ้านพรีเมียมระดับราคา 5-8 ล้านบาทที่บริษัทฯ ได้ พลิกโฉมการพัฒนาใหม่ในทุกส่วน เพื่อเจาะตลาดกำลังซื้อระดับบนโดยเฉพาะ ทั้งนี้ได้อัพเกรดวัสดุตกแต่งก่อสร้างให้พรีเมียมยิ่งขึ้น และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคส่วนกลาง ให้รองรับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในปัจจุบันที่มุ่งเน้นด้านการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยได้พัฒนา 2 โครงการแรกในย่านประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ และย่านวงแหวนฯ – ลำลูกกา คลอง 6 รวม 446 ยูนิต มูลค่า 2,100 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการล้วนได้รับการตอบรับที่ดีเพราะปัจจัยด้านการออกแบบที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประโยชน์ใช้สอย และสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยบนทำเลศักยภาพ”
“บ้านลลิล The Prestige ได้นำแนวคิดด้าน E: Environmental (สิ่งแวดล้อม) หนึ่งในแนวคิด ESG ซึ่งประกอบด้วย Environmental (สิ่งแวดล้อม) ,Social (สังคม) และ Governance (บรรษัทภิบาล) ที่บริษัทฯ ได้ใช้เป็นแนวทางเพื่อพัฒนาโครงการในปีนี้ โดยได้นำระบบพลังงานโซล่าร์และเรื่องการรีไซเคิล พร้อมระบบรียูสน้ำมาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้สามารถใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างร่มรื่น ภายในตัวบ้านมีการปรับมาใช้หลอดไฟ LED ติดตั้งระบบระบายอากาศเพื่อลดความร้อนในตัวบ้าน มีการเลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ จุดกระจายสัญญาณ WiFi เพื่อรองรับวิถีชีวิตแบบ Digital และล่าสุดเพื่อตอบรับกระแสนิยมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จึงได้ติดตั้งพร้อมวางระบบจุดเชื่อมต่ออีวี ชาร์จเจอร์ไว้ให้ เพื่อรองรับรถยนต์ EV โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในทุกช่วงเวลา ซึ่งทีมวิจัยและพัฒนาธุรกิจได้ประสานงานร่วมกับทีมพัฒนาโครงการ เพื่อทำงานควบคู่กับทีมการตลาด คอยปรับรูปแบบสินค้าให้ทันต่อเทรนด์อยู่เสมอ และให้ตอบรับกับพลวัตรของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อส่งมอบบ้านที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง” นายชูรัชฏ์ กล่าวเสริม
โดยล่าสุด ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ “บ้านลลิล The Prestige” ขึ้น บนทำเลที่มีศักยภาพอย่างกรุงเทพฯ โซนเหนือ ที่มีจุดเด่นในด้านระบบคมนาคมอย่างทำเล วงแหวนฯ ลำลูกกา-คลอง 6 ที่ถือเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม
สำหรับ “บ้านลลิล The Prestige” เป็นการออกแบบสไตล์ “French Colonial Style” ที่หรูหราในสไตล์ฝรั่งเศส ภายใต้แนวคิด “Beyond Luxury Of Living” โดยตัวโครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ 46 ไร่ รวม 265 ยูนิต ราคาขายอยู่ที่ 4-7 ล้านบาท
จุดเด่นของโครงการนอกจากการดีไซน์ของตัวบ้านแล้ว ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ยังชูความเอ็กซ์คลูซีฟของตัวคลับเฮ้าส์ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใข้ในโครงกาน ทั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โซลาร์รูฟ เพื่อเป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า
ด้านทำเลที่ตั้งยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทางลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เชื่อมั่นว่าจะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในแถบกรุงเทพฯ ตอนบน ทั้งด้านคมนาคม ที่มีการพัฒนาถนนสายหลักและทางด่วนจำนวนหลายเส้นทาง อาทิ ถนนกาญจนาภิเษก, ถนนพหลโยธิน, ถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนรังสิต-นครนายก, ถนนบางขันธ์-คลองหลวง, ถนนสายไหม และถนนรามอินทรา รวมไปถึงทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ และถนนกาญจนาภิเษก-วงแหวนตะวันออก ที่สามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ได้
อีกทั้งตัวโครงการยังตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งช็อปปิ้ง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขา ลำลูกกา, โฮมโปร ลำลูกกา, แฟชั่นไอส์แลนด์ ที่จะช่วยเสริมด้าน Lifestyle และการใช้ชีวิตประจำวันได้
สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนบนนั้น คุณชูรัชฏ์มองว่า ทำเลดังกล่าวเป็นทำเลศักยภาพ เพราะสะดวกในการเดินทาง สามารถเชื่อมต่อไปยังส่วนต่างๆ ได้สะดวก เพราะมีการพัฒนาถนนหลายสาย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งงานทั้งอุตสาหกรรมการบิน เพราะใกล้กับสนามบินดอนเมือง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว เป็นศูนย์กลางของส่วนราชการ นั่นหมายความว่าจำนวนผู้อยู่อาศัย และผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
“ผมมองว่ามันเป็นทำเลแห่งปัจจุบันและอนาคต” ชูรัชฏ์กล่าวทิ้งท้าย