วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > Cover Story > 30 ปี พฤกษา จุดเริ่มต้นจากชายชื่อ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์”

30 ปี พฤกษา จุดเริ่มต้นจากชายชื่อ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์”

“พฤกษา” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีวิวัฒนาการและเติบโตอย่างก้าวกระโดด นับตั้งแต่ขวบปีแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นบริษัทจนกระทั่งปัจจุบัน พฤกษาภายใต้ร่มเงาการบริหารงานโดย ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ บุรุษผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจก่อสร้าง จนตัดสินใจผันตัวมาทำธุรกิจอสังหาฯ อย่างเต็มตัว

แม้เวลานี้จะอำลาตำแหน่งไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เรื่องราวของพฤกษาและทองมายังคงน่าสนใจ ทั้งในแง่การบริหาร มุมมอง และแนวนโยบายที่ส่งผ่านอุดมคติที่หลายคนตอบรับด้วยความเต็มใจ

หากจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของพฤกษา ถือว่าเป็นบริษัทที่มีจุดเริ่มต้นจากความคิดที่เรียบง่ายของทองมา ที่ต้องการทำบ้านในราคาที่ไม่แพงมาก ผู้บริโภคจับต้องได้ บริษัทยังมีกำไร

พฤกษาฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จากแรงบันดาลใจของทองมา ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างศูนย์การค้าดิโอลด์สยามพลาซ่า ติดตามเพื่อนที่กำลังเลือกซื้อบ้าน ไปดูโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแล้วเกิดความรู้สึกว่าราคาขายค่อนข้างสูง น่าจะทำได้ในราคาที่ต่ำกว่า จึงเป็นที่มาของโครงการแรกคือ พฤกษา 1 จำนวน 1,000 ยูนิต ในทำเลรังสิต คลอง 8 ที่จับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะสามารถขายได้หมดโครงการภายในเดือนเศษ

จากจุดเริ่มต้นที่เป็นทาวน์เฮาส์ กระทั่งปี 2544 ตลาดบ้านเดี่ยวเริ่มมีมูลค่าสูง ทองมามองเห็นโอกาส บริษัทพฤกษาจึงเริ่มพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ ภัสกร จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง และในปีเดียวกัน พฤกษาเพิ่มสินค้าใหม่ในแบรนด์ พฤกษาวิลล์ ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1.2-1.7 ล้านบาท และพฤกษาวิลเลจบ้านเดี่ยว ราคา 1.7-2.2 ล้านบาท ทำให้พฤกษามีโครงการรองรับกลุ่มตลาดได้กว้างมากขึ้น ตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ราคา 6 แสนบาท ไปจนถึงบ้านเดี่ยวราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป

ความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนของพฤกษาฯ เป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีก่อสร้างบ้านด้วยระบบสำเร็จรูปมาใช้ตั้งแต่โครงการต้นๆ เริ่มจากระบบโครงสร้างผนังรับน้ำหนักแบบหล่อในที่ (Cast In Situ Load Bearing Wall Structure) จากฝรั่งเศส และพัฒนาต่อเนื่อง

จนกระทั่งปี 2548 ที่พฤกษาก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป โรงงานแรก โดยใช้ระบบการผลิตแบบ Semi-Automated Pallet Circulation System ซึ่งเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น ด้วยเงินลงทุนกว่า 650 ล้านบาท

ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปมีข้อดีที่ช่วยลดเวลาในการก่อสร้าง จากเดิมแต่ละหลังต้องใช้เวลา 6 เดือน ลดเหลือเพียง 2 เดือนเท่านั้น ประหยัดทั้งเวลา ค่าแรง และดอกเบี้ย ส่งผลต่อเนื่องถึงการกำหนดราคาขายได้ต่ำกว่าคู่แข่ง

และในเดือนเมษายนปี 2548 บริษัท พฤกษา แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งแรกในวันที่ 6 ธันวาคม ปีเดียวกัน

พฤกษา ผุดโครงการทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวตามพื้นที่ชุมชน และพื้นที่ที่มีทิศทางการขยายตัวของเมือง นอกจากนี้ ยังบุกตลาดต่างจังหวัดที่เป็นเมืองใหญ่ๆ และเมืองท่องเที่ยว เช่น อยุธยา ชลบุรี กระทั่งปี 2553 ที่พฤกษาขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยประเทศแรกคือสาธารณรัฐมัลดีฟส์ และเมืองเจนไน เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย

นอกจากการเติบโตของพฤกษาที่มีโครงการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อีกหนึ่งสิ่งที่พฤกษามักจะถูกพูดถึงคือ การเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่มาจากแนวคิดของผู้บริหารระดับสูง ส่งผลให้ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ได้รับรางวัลผู้บริหารที่มีความเป็นผู้นำยอดเยี่ยม “Best CEO Award 2013” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ความสำเร็จของพฤกษาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากรางวัลที่ได้รับจากหลายสาขา หลายสถาบัน แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ การยอมรับจากประชาชนที่เป็นผู้บริโภค

ปัจจุบันแม้ว่า ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ จะสละเก้าอี้ CEO และส่งไม้ต่อให้นักบริหารที่ทองมาให้ความไว้วางใจอย่าง อุเทน โลหชิตพิทักษ์ นั่งเก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) แต่ทองมายังคงดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ-กรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน กรรมการกำกับการบริหารความเสี่ยง กรรมการบริหาร และกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม

ปัจจุบันบริษัท พฤกษา ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการที่พัฒนาที่อยู่อาศัยเท่านั้น เพราะการสร้างสุขภาวะที่อยู่อาศัยที่ดีในมุมของพฤกษา คือการลงทุนในธุรกิจ Wellness ที่นำมาบริการลูกบ้านของพฤกษาด้วยการสร้างศูนย์ Wellness Health care ภายใต้ชื่อ Vimut Wellness ในหมู่บ้านของพฤกษา.