ปี 2566 กลุ่มเซ็นทรัลกำลังเร่งเพิ่มจุดแข็ง B2S (บีทูเอส) และต่อยอดโมเดล Think Space (ธิงค์สเปซ) ซึ่งเน้นส่วนผสมสำคัญเรื่อง “ไลฟ์สไตล์” การสร้างความพิเศษให้ธุรกิจร้านหนังสือสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับสื่อออนไลน์ และเป้าหมายใหญ่ไม่ใช่แค่การสร้างคอมมูนิตี้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ต้องการขยายฐานนักอ่านให้ได้มากที่สุดด้วย
จิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ บีทูเอส และออฟฟิศเมท เปิดเผยว่า บีทูเอสพยายามสร้างร้านหนังสือให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถมีกิจกรรมร่วมกันได้ตามคอนเซ็ปต์ Center of Passion Community, Center of Happiness แหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน โดยล่าสุดผนึกความร่วมมือกับ The Pokémon Company เจ้าของแบรนด์คาแรกเตอร์การ์ตูนโปเกมอน และโปเกมอนเทรดดิ้งการ์ดเกมจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว “Pokémon PLAYLAB” แห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในร้านบีทูเอส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
แม็กเน็ตใหม่ตัวนี้บริษัทตั้งเป้าหมายปีแรกจะดึงดูดยอดลูกค้าเข้าร้านไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และภายในปี 2566 วางแผนขยาย Pokémon PLAYLAB เพิ่มอีก 3 แห่ง ในบีทูเอส เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เซ็นทรัลลาดพร้าว และเมกาบางนา เพราะโปเกมอน หรือโรมาจิ หรือในชื่อเต็มว่า พ็อกเก็ตมอนสเตอร์ (Pocket Monsters) ถือเป็นสื่อแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จและได้กำไรมากเป็นอันดับ 2 รองจากแฟรนไชส์มาริโอ และมีสาวกโปเกมอนอยู่ทั่วโลก
สำหรับ Pokémon PLAYLAB แห่งแรกในบีทูเอส แบ่งพื้นที่หลักประกอบด้วยโซน Photo landmark มุมถ่ายรูปสุดคิวท์กับโปเกมอนขนาดยักษ์ พิคาชู และผองเพื่อน
โซน Pokémon Trading Card Game Tutorial ฝึกเล่นการ์ดโปเกมอนฟรีจากเทรนเนอร์มืออาชีพ มีกำแพงการ์ดโปเกมอนที่รวบรวมคอลเลกชันการ์ดให้ชม
โซน Anime Mini Theater หรือโรงภาพยนตร์ไซส์มินิจัดฉายการ์ตูนโปเกมอนตอนใหม่ล่าสุด รวมถึงโซน Pokémon Video Game : Nintendo switch ทดลองเล่นวิดีโอเกมโปเกมอนภาคใหม่และโซนกาชาปอง นอกจากนี้ จัดกิจกรรมแบตเทิลการ์ดโปเกมอนอย่างต่อเนื่อง ทั้งรุ่นโอเพ่น ไม่จำกัดอายุ และรุ่นจูเนียร์ เพื่อสร้าง Community ของคนรักโปเกมอนและสร้างลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาบีทูเอสค้นหาโมเดลร้านค้าหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้านขนาดเล็กเหมาะกับชุมชน พื้นที่น้อยกว่า 800 ตารางเมตร (ตร.ม.) เน้นการจำหน่ายหนังสือ ร้านขนาดกลาง พื้นที่มากกว่า 800 ตร.ม. เหมาะกับคอมมูนิตี้มอลล์ และร้านขนาดใหญ่ พื้นที่มากกว่า 1,500 ตร.ม. เน้นจับกลุ่มลูกค้าในศูนย์การค้าขนาดใหญ่
ต่อมา ปรับโมเดลร้านที่เรียกว่า บีทูเอส สเปซ ในสาขาเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 โดยขยายพื้นที่จัดกิจกรรมมากถึง 400 ตร.ม. เพื่อสร้างความแปลกใหม่และเสริมไลฟ์สไตล์เข้าไปในร้านหนังสือ แต่กลับเจอปัญหาจากลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะพื้นที่ร้านยังน้อยเกินไป
จนกระทั่งปี 2559 สมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีทูเอส จำกัดในเวลานั้น ออกมาเผยโฉมร้านรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Think Space แห่งแรกในเซ็นทรัลพลาซา อีสต์วิลล์ ชนิดเขย่าวงการ เพราะขยายจินตนาการของร้านหนังสือจากพื้นที่ขนาด 1,500 ตร.ม. เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 3,000 ตร.ม. เปลี่ยนจากร้านหนังสือเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ สถานที่แห่งที่ 3 นอกเหนือจากบ้านและออฟฟิศ โดยใช้เงินลงทุน 400 ล้านบาท สร้างศูนย์กลางของผู้ผลิตหนังสือ นักเขียน และต่อยอดสร้างพันธมิตรธุรกิจ ทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถาบันกวดวิชา หรือแม้กระทั่งโรงเรียนศิลปะสำหรับเด็กๆ ทำให้ร้านหนังสือไม่ได้เป็นแค่ร้านขายหนังสือ แต่เป็นไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่
ขณะเดียวกันวางยุทธศาสตร์เจาะกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มสตาร์ทอัป ครีเอทีฟ ฟรีแลนซ์ นักเรียนนักศึกษา คนทำงาน และผู้บริหาร
ที่สำคัญ สร้างแลนด์มาร์ก “Book Terraces” ภูเขาหนังสือที่มีการดิสเพลย์หนังสือมากกว่าแสนเล่ม พื้นที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นร้านสโตร์คอนเซ็ปต์แห่งแรก โดยแบ่งพื้นที่ 5 แรงบันดาลใจ คือ 1. LIFESTYLE BOOK SPACE พื้นที่ Book Terraces รวบรวม 12 ไลฟ์สไตล์ของผู้คน ได้แก่ Travel, Leisure, Craft, Smart, Wisdom, Fiction, Cookery, Entertainment, Art & Design, Study, Work และ Family
2. ART X IDEA SPACE พื้นที่งานศิลป์ มีผลงานของศิลปินคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก และสินค้าดีไซน์ที่ได้รางวัล เช่น Furniture Design, Design Stationery และ Office Accessories
3. ENTERTAINMENT SPACE พื้นที่หนังและเพลง โดยสร้างห้อง Music Room รวบรวมหนังและเพลงครบทุกประเภท ทั้งไทยและต่างประเทศ มีร้านเครื่องเสียงระดับพรีเมียมเป็นแม็กเน็ตใหม่
4. PLAY X LEARN SPACE แหล่งรวมโรงเรียนสอนทักษะเพื่อการเรียนรู้และเสริมจินตนาการให้เด็ก และ 5. NETWORKING SPACE เป็นพื้นที่กิจกรรม โดยพุ่งเป้ากลุ่มสตาร์ทอัป และบริการ Co-Working Space
ปัจจุบันบีทูเอสมีสาขาทั้งหมดมากกว่า 120 สาขา มีทั้งร้านรูปแบบสแตนดาร์ด ร้านขนาดกลาง และร้านรูปแบบ Think Space ในทำเลและสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่รองรับได้มากกว่า 1,000 ตร.ม. ได้แก่ บีทูเอสสาขาเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เซ็นทรัล นครราชสีมา เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลพลาซา บางนา เซ็นทรัลแกรนด์พลาซา พระราม 9 Porto de Phuket และเซ็นทรัลชิดลม ในคอนเซ็ปต์ที่หลากหลายเพื่อโชว์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีหลากหลายเช่นเดียวกัน
อย่างบีทูเอส ธิงค์สเปซ พระราม9 เน้นคอนเซ็ปต์ Passion Library แบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน ได้แก่ Lifestyle Book Space, Lifestyle Stationery Space, Play & Learn Space, Lifestyle & Gadget Space, Art & Craft Space พื้นที่รวมกว่า 1,000 ตร.ม.
หรือบีทูเอสเซ็นทรัลชิดลมเป็นอีกแฟล็กชิปสโตร์ พื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. เน้นคอนเซ็ปต์การเปิดประสบการณ์สู่การค้นพบใหม่ โดยมีแลนด์มาร์กเป็นอุโมงค์หนังสือ “BOOK CAVE” ที่มีหนังสือมากกว่า 10,000 รายการ ทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ มีโซนเครื่องเขียน Stationery Space รวบรวมเครื่องเขียนทันสมัยจากทุกมุมโลกมาไว้ในที่ในเดียว โซนสี อุปกรณ์ศิลปะและงานประดิษฐ์ Art & Craft Space ที่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์เพื่อเปิดจินตนาการให้ลูกค้า
โซน Lifestyle Space รวม Gadget ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ และโซน Play & Learn space ที่มีหนังสือเด็กและสินค้าเสริมสร้างจินตนาการ
บริษัทยังเตรียมงัดกลยุทธ์ Shop in Shop จับมือกับพาร์ตเนอร์นอกเครือเซ็นทรัลเข้ามาเปิด Shop เพื่อเพิ่มเสน่ห์และจุดขายมากขึ้น ทั้งกลุ่ม Art และธุรกิจสตาร์ทอัป โดยขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาและคัดเลือกพาร์ตเนอร์ ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นโฉมหน้าไม่เกินไตรมาส 3 อย่างแน่นอน.