หากพูดถึงแบรนด์วัสดุก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชื่อของ “แบรนด์จระเข้” น่าจะอยู่ในลำดับต้นๆ ที่คนนึกถึง ทั้งด้วยชื่อของแบรนด์และจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่แปลกและไม่เหมือนใคร
“จระเข้” เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านซีเมนต์เพื่องานก่อสร้างและดูแลบ้าน ภายใต้การพัฒนาของบริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เติบโตมาจากบริษัท เซอรา ซี-เคียว จำกัด ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2535 โดยกลุ่มคนไทย 100%
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา “จระเข้” ยึดหลัก “Innovation for Your Family’s Happiness” หรือ “สร้างสรรค์ความสุข เพื่อทุกคนในครอบครัว” ในการผลิตสินค้าและขับเคลื่อนองค์กร ทำให้ปัจจุบันจระเข้ขึ้นแท่นผู้นำด้านระบบกันซึม ปูนยาแนว และเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง กลายเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่นในเรื่องนวัตกรรม
จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน “จระเข้ คอร์ปอเรชั่น” มีการขยับขยายสำนักงานถึง 4 ครั้ง เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และล่าสุดกับสำนักงานใหญ่ในย่านกรุงเทพกรีฑา บ้านหลังใหม่ของครอบครัวจระเข้
อาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ ประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง เรียงตัวเป็นรูปร่างจระเข้ตวัดหาง เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของบริษัทและแบรนด์ผลิตภัณฑ์ โดยอาคาร 3 หลังแรก คือ อาคาร A, B, และ C ถูกล้อมด้วยฟาซาด (Façade) อะลูมิเนียมคอมโพสิตทำให้ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ส่วนหน้าคืออาคาร A ถือเป็นส่วนหัวจระเข้และเป็นห้องทำงานของทีมผู้บริหารระดับสูง โดยส่วนหัวจระเข้เป็นตำแหน่งที่สื่อถึงการมีวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า
อาคาร B เป็นที่ตั้งของบริษัท เค เซอรา จำกัด, ฝ่ายบริหาร และ Happiness Space ที่ตกแต่งในบรรยากาศผ่อนคลาย หลุดออกจากสภาพแวดล้อมแบบห้องทำงานปกติทั่วไป เป็นพื้นที่สบายๆ ให้พนักงานได้เข้ามาใช้
อาคาร C เป็นที่ทำการของฝ่ายขายและการตลาด ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่คอยขับเคลื่อนองค์กร
พิพิธภัณฑ์จระเข้: Journey Thru Happiness
ผู้ก่อตั้งจระเข้มองว่า การเติบโตจะมั่นคงและยั่งยืนได้นั้น ก็ต่อเมื่อมีจุดยืนที่ชัดเจนและไม่ลืมอดีต ดังนั้นภายในห้องโถงอาคาร A จึงได้จัดตั้งเป็น ”พิพิธภัณฑ์จระเข้” (Jorakay Museum) ที่จัดในธีม “Journey Thru Happiness” เพื่อบอกเล่าความเป็นมาของบริษัทนับตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้ง
ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 ยุค ได้แก่ “ยุคตั้งต้น” เล่าประวัติความเป็นมาในการก่อตั้งบริษัทตั้งแต่ปี 2535 จัดแสดงผลิตภัณฑ์ชุดแรกที่เป็นฐานในการเติบโตของบริษัท รวมถึงของพรีเมียมที่แจกให้กับลูกค้าและบันทึกต่างๆ ตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม
“ยุคเติบโต” ในส่วนนี้ฉายภาพการเติบโตขององค์กร ซึ่งมีปัจจัยสำคัญคือ 1. ผลิตภัณฑ์ที่เน้นนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้า 2. ลูกค้า และ 3. พนักงาน โดยมีทำเนียบพนักงานที่อยู่มาตั้งแต่บริษัทก่อตั้งจนถึงปัจจุบันอยู่ในส่วนจัดแสดงอีกด้วย
“ยุคต่อยอด” ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้เห็นภาพพัฒนาการจากบริษัทไทยเล็กๆ อย่าง เซอรา ซี- เคียว สู่บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่ได้รับมาตรฐานระดับสากลมากมาย และพร้อมขยายการเติบโตไปยังประเทศต่างๆ โดยทั้ง 3 ส่วนนี้จัดแสดงอยู่ในพื้นที่ทรงกระบอกซึ่งมีที่มาจาก “ไซโล” (silo) ที่ใช้บรรจุปูนซีเมนต์ ตั้งอยู่กลางโถงอาคาร A
อีกหนึ่งส่วนที่น่าสนใจและถือเป็นการสร้างสีสันให้กับสำนักงานใหญ่แห่งนี้คือ มีการจัดแสดงของสะสมทุกชนิดที่เกี่ยวกับจระเข้ของผู้ก่อตั้ง โดยมีอยู่เป็นจำนวนมากและมีที่มาจากหลากหลายทวีปทั้งเอเชีย แอฟริกา ยุโรป ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ จนถึงจระเข้ตัวใหญ่ที่ทำจากสเตนเลสทั้งตัว น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม โดยฝีมือศิลปินชาวอังกฤษ “Michael Turner” และมีเพียงชิ้นเดียวในโลก
ซึ่ง Guinness World Record ได้บันทึกไว้เมื่อปี 2015 ว่าพิพิธภัณฑ์จระเข้แห่งนี้มีของสะสมเกี่ยวกับจระเข้มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 1,017 ชิ้น (จำนวน ณ ขณะนั้น) และยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
ส่วนอาคารที่อยู่ด้านในสุดของสำนักงานเป็นโซนสันทนาการสำหรับพนักงาน ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร สถานที่ออกกำลังกาย รวมถึงลู่วิ่งที่อยู่รอบตัวโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นให้พนักงานใส่ใจดูแลสุขภาพ
นอกจากนั้น อีกส่วนของตัวอาคารยังเป็นที่ตั้งของ “ศูนย์ฝึกอบรม จระเข้ อะคาเดมี่” (Jorakay Academy Training Center) สถานที่ฝึกอบรมทักษะทางงานช่างต่างๆ ให้กับบุคลากรทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อยกระดับมาตรฐานฝีมือช่างไทย
โดยเปิดอบรมในหลากหลายหลักสูตร เช่น หลักสูตรเทคนิคการปูกระเบื้อง ผนัง และพื้น, หลักสูตรเทคนิคแก้ไขปัญหา ร้าว รั่ว ซึม, หลักสูตรงานสี เป็นต้น รวมถึงมีศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ที่ได้รับอนุญาตจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งผู้เข้าอบรมสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้
ด้านอาคารที่อยู่ติดกันเป็นส่วนของ “SEE JORAKAY Flagship Store” แฟลกชิปสโตร์ของสีจระเข้ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยสีจระเข้เป็นแบรนด์สีทาบ้านรายแรกที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ไร้กลิ่น ปลอดภัยต่อผู้อาศัยและสิ่งแวดล้อม
ภายในแฟลกชิปสโตร์จัดแสดงสินค้าทั้ง 4 กลุ่มของสีจระเข้ ได้แก่ Natural Color, Art Color, Texture Color และ Heritage Color มีโซนทดลองสินค้าและมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา
ดังที่กล่าวข้างต้นว่าความน่าสนใจของอาคารสำนักงานใหญ่ของจระเข้ คอร์ปอเรชั่น แห่งนี้คือการออกแบบและจัดเรียงอาคารหลักทั้ง 4 หลัง ให้เหมือนกับตัวจระเข้ตวัดหางตามชื่อขององค์กร แต่อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือการนำผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จระเข้อย่างสีธรรมชาติ, สีสร้างลาย และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มาใช้จริงภายในโครงการ กลายเป็นการผสานความเป็นจระเข้ที่กลมกลืน และนั่นทำให้บ้านหลังใหม่ของครอบครัวจระเข้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว.