“ชื่อบริษัท REV ดั้งเดิม คือ Sport Revolution คำว่า REV ย่อมาจาก Revolution ที่มาของชื่อเป็นเป้าหมายของการตั้งบริษัท คือ เราต้องการปฏิวัติวงการกีฬาประเทศไทยในมุมมองของ Retail จากตลาดการขายกีฬาแบบดั้งเดิม นำคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่ๆ วิธีการนำเสนอประสบการณ์ของแบรนด์ต่างๆ ให้ลูกค้า เราต้องการปรับเปลี่ยนวงการ Sport Retail ในบ้านเรา”
พรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรฟ อีดิชั่น (REV) จำกัด หรือคุณโอ้ก กล่าวถึงเป้าหมายของการรุกเข้าสู่ธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้ากลุ่มสปอร์ต (Sportswear and Footwear) เมื่อ 22 ปีก่อน
“ช่วงปี 2542-2543 พวกเราเป็นกลุ่มคนชอบเล่นกีฬา ชอบไปร้านกีฬาต่างๆ ได้เดินทางไปต่างประเทศ มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศ ได้เห็นรูปแบบร้านกีฬาในต่างประเทศ พอกลับมาเมืองไทยเรารู้สึกอยากเอาร้านกีฬาแบบนั้น บรรยากาศแบบนั้นมาให้นักกีฬาในเมืองไทยมีประสบการณ์บ้าง เพราะช่วงนั้นร้านกีฬาในบ้านเราเป็นแบบดั้งเดิม Traditional รองเท้าเทนนิส รองเท้าวิ่ง ห่อพลาสติกโชว์บนผนังไม้ ถ้าเป็นเสื้อของแท้อยู่ในไม้แขวนเสื้อ มีพลาสติกคลุม แขวนเรียงเป็นแถว”
หรือแม้กระทั่งแผนกกีฬาในห้างสรรพสินค้าหนีไม่พ้นรูปแบบดั้งเดิมเช่นกัน ยิ่งทำให้คุณโอ้กเกิด Passion อยากเอาร้านกีฬาในต่างประเทศ แบรนด์ต้นแบบเข้ามาเปิดในเมืองไทย อย่าง Nike Town ของแบรนด์ไนกี้ (Nike)
เขาเริ่มติดต่อแบรนด์ต่างชาติเพื่อขอเปิดร้านคอนเซ็ปต์ช็อปในเมืองไทย โดยประเดิมแบรนด์แรก “ไนกี้” และถือเป็นดีลเลอร์เจ้าแรกในเมืองไทยที่ทำคอนเซ็ปต์สโตร์ แต่ยอมรับว่าการติดต่อแบรนด์นอกในเวลานั้น “ยากมาก” ต้องฝ่าด่านทดสอบ 2 ด่าน
“ด่านแรก ผมเพิ่งเรียนจบและเป็นธุรกิจตัวแรกที่ลงทุน เราต้องพรีเซนต์ให้บริษัทแม่เห็นความพร้อม ตั้งใจทำ มีความสามารถและมีทีมงานดีเพียงพอ ส่วนด่านที่ 2 เรื่องความเชื่อมั่นของบริษัทแม่ต่อตลาดเมืองไทย มีความพร้อมตอบรับคอนเซ็ปต์ช็อปของแบรนด์กีฬาแล้วหรือยัง แบรนด์ต่างประเทศยังไม่มั่นใจ”
คุณโอ้กเล่าว่า เริ่มคุยตั้งแต่ต้นปี 2543 ใช้เวลาพรีเซนต์ตัวเอง 6 เดือน และใช้เวลาอีก 6 เดือนพูดคุยสร้างความมั่นใจถึงความพร้อมของตลาดเมืองไทย ใช้เวลาเกือบปีกว่าจะได้เปิดร้านแรก วันที่ 15 ธันวาคม 2543 เป็นไนกี้คอนเซ็ปต์สโตร์ ตรงข้ามห้างเอ็มโพเรียม ขนาดตึกแถว 8 ห้อง พื้นที่รวม 500 ตารางเมตร ถือเป็น NIKE Flagship Store แห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเซาท์อีสต์เอเชีย
แม้มั่นใจ แต่ถือว่าเสี่ยงมาก เพราะต้องลุ้นลูกค้าตอบรับคอนเซ็ปต์ช็อปกีฬามากน้อยแค่ไหน และพฤติกรรมของผู้บริโภคไทยชอบเดินห้าง เครื่องปรับอากาศเย็นๆ ไม่โดนแดด ไม่โดนฝน แต่ไนกี้ร้านแรกเป็นสแตนด์อะโลนอยู่ริมถนนสุขุมวิท ซึ่งถือเป็นความท้าทาย แต่ที่สุดผลตอบรับดีมาก ลูกค้าตื่นเต้นมาก เหมือนรอคอยว่าเมื่อไหร่จะมีคอนเซ็ปต์สโตร์กีฬาเข้ามาเปิดในไทย สร้างประสบการณ์ได้อย่างแท้จริง
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ทุกคนที่เล่นกีฬาตามความเชื่อของ Bill Bowerman ผู้ก่อตั้งแบรนด์ไนกี้ที่ว่า If you have a body, you are an athlete ถ้าคุณมีร่างกาย แปลว่าคุณเป็นนักกีฬา
หลังนำร่องแบรนด์แรกเกือบปี REV เริ่มขยายสาขาที่อาคารลิเบอร์ตี้ย่านสีลม เซ็นทรัลพัทยา และติดต่อแบรนด์ทำคอนเซ็ปต์ช็อปเพิ่มขึ้น แต่ ณ เวลานั้นลูกค้าไม่รู้จัก REV รู้จักว่าเป็นร้านไนกี้ ร้านอาดิดาส ร้านพูม่า และร้านคอนเวิร์ส ซึ่งเป็น 4 แบรนด์หลักในช่วง 5 ปีต่อมา รวมถึงการเปิดช็อปในห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม พารากอน
จากนั้น REV เริ่มนำเข้าสินค้าเป็นดิสทริบิวเตอร์หรือตัวแทนจำหน่าย ไม่ใช่แค่การอยู่เบื้องหลังและรุกเข้าสู่สินค้าไลฟ์สไตล์แฟชั่น เป็นผู้นำเข้ารองเท้า CROCS (คร็อคส์) และทำตลาดสินค้ากีฬากอล์ฟจากญี่ปุ่น เครือซูมิโตโม รวมถึงอเมริกา
ช่วงจังหวะที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ในปี 2559 บริษัทคว้าแบรนด์เข้ามาอยู่ในพอร์ตมากขึ้น เช่น ASICS, UNDER ARMOUR โดยเฉพาะ UNDER ARMOUR เป็นการจอยท์เวนเจอร์กับบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อตั้งร้าน UNDER ARMOUR ประเทศไทย ซึ่งช่วงปี 2558-2559 เป็นแบรนด์ที่ฮอตสุดๆ เติบโตเร็วมาก รวมถึงการแตกไลน์ธุรกิจซอฟต์เสิร์ฟ Yogurtland ทั้งหมดทำให้ REV ก้าวข้ามจากการเป็นบริษัทเล็กขึ้นมาเป็นบริษัทกลาง
ที่สำคัญ บริษัทตัดสินใจเจาะตลาดรองเท้าวิ่งอย่างจริงจังและเป็นจุดสตาร์ต Multi-brand store ภายใต้แบรนด์ REV RUNNR (เรฟรันเนอร์) สำหรับผู้รักการวิ่งโดยเฉพาะ เพราะถือเป็นแคทิกอรีที่ใหญ่ที่สุดและขายดีที่สุด
“เราเริ่มนั่งคิดใหม่ ที่ผ่านมาทำคอนเซ็ปต์ช็อปแบรนด์เดียวมาตลอด เราเห็นต่างประเทศมีร้านวิ่ง running speciality เชนใหญ่ๆ มีบริการต่างๆ มันเหมือนย้อนกลับไปปี 2542 วงการกีฬาบ้านเราแทนที่จะเป็นร้านกีฬารวมๆ เราควรมีร้านค้าที่นำเสนอทั้งสินค้าและบริการเกี่ยวกับการวิ่ง เปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า”
ขณะเดียวกันการคว้าแบรนด์รองเท้าวิ่ง ASIC และคุณโอ้กเริ่มคลุกคลีเรื่องการวิ่งมากขึ้น ซึมซับบรรยากาศ ร่วมรายการวิ่งและรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไป เกิดความหลงใหลในเสน่ห์ของการวิ่ง ชนิดที่เรียกว่า เสพติดการวิ่งมากขึ้นและเข้าใจอารมณ์ของนักวิ่งทุกคนที่อยากดูรองเท้าวิ่งหลายๆ แบรนด์
แต่เวลานั้นอยากดูรองเท้ายี่ห้อหนึ่งต้องไปมุมหนึ่งของเมือง อยากดูอีกยี่ห้อต้องข้ามไปอีกมุมหนึ่งของเมืองเป็น “Pain Point” ที่ต้องแก้ปมให้ได้ และสรุปคอนเซ็ปต์ออกมาเป็น “เรฟรันเนอร์” ประกอบกับช่วงนั้นเกิดแบรนด์ใหม่หลายแบรนด์ในวงการวิ่งของโลก เช่น HOKA
ที่สำคัญ นักวิ่งไทยมีพัฒนาการมากขึ้น ให้ความสำคัญกับสเปกและเทคนิคของรองเท้าสูงที่สุดในโลก ยกตัวอย่างในอเมริกา ลูกค้าร้อยคนเข้าร้านขายรองเท้าวิ่ง มีไม่เกิน 50 คนที่ถามเรื่องเทคนิคของรองเท้า สเปก โฟม ความหนา น้ำหนัก แต่นักวิ่งไทยให้ความสำคัญมาก เข้าร้านร้อยคน ถามคำถามเหล่านี้เกิน 70 คน นักวิ่งไทยให้ความสำคัญและให้รายละเอียดมากๆ
“ผมเป็นนักวิ่ง ผมรู้ลึกว่าทุกคนต้องมีรองเท้า 2 แบบ คือรองเท้าใส่ซ้อมกับใส่วันแข่ง ถ้ารองเท้าใส่ซ้อมผมใส่ HOKA เพราะนุ่ม รักษาสภาพร่างกายได้ดีมาก หัวเข่า ข้อเท้า ป้องกันการบาดเจ็บได้ดีมาก ส่วนวันแข่งใช้ Saucony Endorphin Pro ด้วยคุณลักษณะรองเท้าที่ทำความเร็ว เป็นซูเปอร์ชูส์ที่ทุกคนใส่ได้ ขณะที่ซูเปอร์ชูส์บางแบรนด์ทำความเร็วได้สูงมาก แต่ไม่ใช่ทุกคนใส่ได้ บางคนใส่แล้วบาดเจ็บ ซึ่งเรฟรันเนอร์เน้นการเทรนความรู้ให้พนักงานทุกคน เพื่อตอบลูกค้าได้ทุกข้อสงสัย”
ปัจจุบัน เรฟ อีดิชั่น เปิดสาขา เรฟรันเนอร์ 34 แห่ง และปีนี้วางแผนขยายเพิ่ม 5-6 สาขา ถือเป็นร้านรองเท้าวิ่งอันดับ 1 ในเซาท์อีสต์เอเชียในแง่จำนวนสาขาที่มากที่สุด และนำเข้ารองเท้าวิ่ง 11 แบรนด์ โดยล่าสุดเปิดเกมรุกตลาดปี 2565 นำเข้ารองเท้า Saucony Endorphin Pro 3 เข้ามาเสริมแบรนด์ Saucony (ซอคคือนี่) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 แบรนด์หลักที่ทำรายได้สูงสุดร่วมกับแบรนด์โฮก้าและไคลาส
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายให้ซอคคือนี่ติดอันดับแบรนด์รองเท้าวิ่งท็อปทรีของนักวิ่ง เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์วิ่งในประเทศไทยมีแนวโน้มพลิกฟื้นเติบโตหลังยุค Post Covid งานอีเวนต์วิ่ง หรือการแข่งขันวิ่ง กำลังทยอยกลับมาจัดอีกครั้งเท่ากับช่วงก่อนโควิดที่มีมากกว่า 20-30 งานต่อสัปดาห์
ดังนั้น จำนวนนักวิ่งในประเทศไทยจะค่อยๆ กลับมาฟื้นฟูร่างกายและลงสนามวิ่งกันอย่างคึกคักอีกครั้ง.
ชมคลิป “ย้อนจุดสตาร์ต REV RUNNR เส้นทางปฏิวัติสปอร์ตรีเทล”
ได้ที่ >> https://youtu.be/wv0LBRq7mwA