สยามพิวรรธน์ จับมือ พาวิลเลียนกรุ๊ป ผู้พัฒนาศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย เดินหน้านำไทยสู่เวทีโลก พา SMEs ภายใต้ 3 แบรนด์ไทย นำเสนอประสบการณ์สร้างสรรค์อัตลักษณ์ความเป็นไทยแห่งแรก ที่ พาวิลเลียน บูกิต จาลิล
บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ ไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยมเอาท์เล็ต เดินหน้านำไทยสู่เวทีโลก พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้คู่ค้าและทุกภาคส่วนให้เดินหน้าต่อได้อย่างเข้มแข็ง ล่าสุดประกาศจับมือกับพาวิลเลียนกรุ๊ป (Pavilion Group) เจ้าของและผู้บริหารห้างระดับไฮเอนท์ในประเทศมาเลเซีย เซ็นสัญญาความร่วมมือ เพื่อเปิดพื้นที่นำเสนอประสบการณ์สร้างสรรค์อัตลักษณ์แห่งความเป็นไทยแห่งแรกที่พาวิลเลียน บูกิต จาลิล (Pavilion Bukit Jalil) ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเตรียมขยายสู่แพลตฟอร์มทั่วโลก
นางอุสรา ยงปิยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “หนึ่งในนโยบายหลักของสยามพิวรรธน์คือการผลักดันแบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ ผลักดันให้ Local Hero เติบโตไปสู่การเป็น Global Hero ต่อยอดสู่การค้าขายในเวทีโลก ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของชาวต่างชาติเป็นไปได้ยาก ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความสำคัญที่ไม่เพียงแต่เป็นการให้ความช่วยเหลือ SMEs ให้ได้เพิ่มช่องทางการขาย ให้ไปได้ไกลกว่าแค่การขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซ แต่ยังเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดยในครั้งนี้เราร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ผู้พัฒนาและบริหารห้างใหญ่มายาวนานอย่าง พาวิลเลียน กรุ๊ป และได้เลือก พาวิลเลียน บูกิต จาลิล ซึ่งเป็นศูนย์การค้าใหม่ล่าสุดของมาเลเซีย ที่มีพื้นที่กว่า 1.8 ล้านตารางฟุต ให้เป็นสถานที่เปิดตัวแบรนด์ไทยทั้ง 3 แบรนด์ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วอย่างดี และเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวนานาชาติ โดยลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์เช่นเดียวกับที่ลูกค้าได้สัมผัสจริงที่ร้านในประเทศไทย สำหรับพาวิลเลียน กรุ๊ป นั้น เป็นหนึ่งพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้ร่วมเป็น Global Privilege Partners ของสยามพิวรรธน์ซึ่งมีอยู่ทั่วโลก ที่ผ่านมาได้มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของศูนย์การค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในความร่วมมือมาโดยตลอด การร่วมกันนำสินค้าของประเทศไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศเป็นอีกก้าวสำคัญของการมีเครือข่ายพันธมิตรในระดับผู้นำธุรกิจที่แข็งแกร่งของสยามพิวรรธน์”
ตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปี สยามพิวรรธน์ได้ทำงานร่วมกับภาครัฐหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงพาณิชย์ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ในการบ่มเพาะผู้ประกอบการและขยายผลผลิตด้วยการจัดหาพันธมิตร โดยสยามพิวรรธน์มีทีมที่เข้าไปช่วยผู้ประกอบการ และนักออกแบบในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ มีการสอนการทำธุรกิจโดยใช้ระบบ data management การทำ E platform ช่วยหาสปอนเซอร์เพื่อมาสนับสนุนธุรกิจ การบริหารจัดการเงิน หาช่องทางจัดจำหน่ายอื่นๆ และการประชาสัมพันธ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อสร้างรายได้ ต่อยอดความสามารถ ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความภาคภูมิใจที่ได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้าที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยี่ยมชม และเป็นการเพิ่มโอกาสในการส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศอีกด้วย
สำหรับแบรนด์ไทย 3 แบรนด์ที่จะเปิดสาขาในต่างประเทศเป็นครั้งแรก ได้แก่ Ecotopia ICONCRAFT และ Absolute Siam ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสินค้าที่มีอัตลักษณ์และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งเป็นแบรนด์ที่สยามพิวรรธน์ได้รังสรรค์ขึ้นเพื่อนำเสนอสินค้าและฝีมือของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานนวัตศิลป์และงานคราฟต์ร่วมสมัยจากช่างฝีมือไทย และผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ ดีไซเนอร์มากฝีมือ นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยทั้ง 3 แบรนด์นั้นมีความน่าสนใจต่างกันไปในรายละเอียด
Ecotopia: เมืองแห่งคนรักษ์โลกที่ทุกคนมีความเชื่อเหมือนกันว่า “เราสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ด้วยกัน” (Together, We Co-Create a Better World) โดยสยามพิวรรธน์ร่วมกับ 12 Eco Co-Creators และคนรุ่นใหม่ เพื่อนำเสนอพื้นที่สร้างสรรค์จากกลุ่มคนรักษ์โลกตัวจริง และสร้างประสบการณ์ใหม่ของคำว่าอีโค่ที่เข้าถึงง่ายและเป็นเรื่องใกล้ตัว “Ecotopia” สะท้อนให้เห็นโมเดลการขับเคลื่อนธุรกิจของสยามพิวรรธน์ให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการรวมกันรังสรรค์และการสร้างคุณค่าที่มีประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย ซึ่งเป็นหลักการในการพัฒนาทุกโครงการที่ผ่านมาของสยามพิวรรธน์
ICONCRAFT: สยามพิวรรธน์ เปิดแบรนด์นี้ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจที่รวมผลงานจากช่างฝีมือไทยทั่วประเทศที่ใหญ่ที่สุด พร้อมเชิดชูภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยในมุมมองใหม่ลงบนงานหัตถศิลป์ ไอคอนคราฟต์จึงเป็นเสมือนประตูแห่งโอกาสให้กับช่างฝีมือและผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่า 800 รายจากทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจแบบโมเดิร์นเทรด โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ การตลาด ตลอดจนการจัดการด้านการเงินต่าง ๆ ถือเป็นการสร้างระบบนิเวศของธุรกิจค้าปลีก (Retail Ecosystem) ที่สร้างความสำเร็จร่วมกัน โดยแบรนด์ ICONCRAFT นั้นประกอบไปด้วยสินค้าประเภทต่าง ๆ มากมาย ได้แก่ อัญมณี ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน งานดีไซน์ งานศิลปะไทย สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าในชีวิตประจำวัน เครื่องหอม อาหาร และขนม
Absolute Siam: เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ เป็นศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ ภายใต้ไอเดียไทยดีไซน์เนอร์ มีจุดเด่นคือ คอลเลคชั่นเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่นและของที่ระลึกต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ด้วยดีไซน์แปลกใหม่จากการร่วม Collaborate ระหว่างแบรนด์ดีไซน์เนอร์ไทยชื่อดัง หรือสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบบไม่เคยมีมาก่อน เป็นศูนย์รวมแฟชั่น ศิลปะ เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นกว่า 60 แบรนด์ชั้นนำ ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน รวมถึงเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ (Trend-setter) ในการนำเสนอไอเดีย และดีไซน์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ผ่านสินค้าและบริการในแบบ Absolute Siam
“วัฒนธรรมไทยถือเป็นวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งเอกลักษณ์และความโดดเด่นเหล่านั้นได้ถูกถ่ายทอดผ่านความคิดสร้างสรรค์อันเป็นเลิศ ออกมาเป็นงานศิลป์และงานดีไซน์หลากหลายประเภท ที่งดงามและเป็นที่ชื่นชอบของนานาชาติ เรามองเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมไทยที่เต็มไปด้วยความละเมียดละไม สวยงาม และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ของช่างศิลป์ ดีไซเนอร์ และนักสร้างสรรค์คนไทย เราภูมิใจที่ได้มีโอกาสต้อนรับแบรนด์ทั้ง 3 แบรนด์ของสยามพิวรรธน์ ซึ่งกำลังมุ่งขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ที่ได้มาเปิดตัวครั้งแรกที่พาวิลเลียน บูกิต จาลิล ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเปิดโอกาสให้ชาวมาเลเซียได้ชื่นชมผลงานสร้างสรรค์ ตลอดจนงานศิลป์จากวัฒนธรรมไทยเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวนานาชาติก็จะได้รับประสบการณ์ความพิเศษนี้ด้วย โดยที่ไม่ต้องเดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เลย” ดาโต๊ะ จอยซ์ แยบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มรีเทล พาวิลเลียน กัวลาลัมเปอร์ ผู้วางแผนงานรีเทลของพาวิลเลียนบูกิตจาลิล
“ประเทศมาเลเซียเองถือได้ว่าเป็นประเทศที่เป็นบ้านพี่เมืองน้องของประเทศไทย ด้วยมีพรมแดนที่ติดกันและมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันมากมาย เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นให้เกิดสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจของภูมิภาคให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป พร้อม ๆ กับการนำเสนอเอกลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศในอาเซียนให้เติบโตสวยงาม” นางอุสรากล่าวเสริม
ทั้งนี้ สยามพิวรรธน์ยังได้เดินหน้านำไทยสู่เวทีโลก พร้อมสานต่อนโยบายการช่วยเหลือ SMEs โดยจับมือกับพันธมิตรธุรกิจค้าปลีกในต่างประเทศ เพื่อนำสินค้า SMEs ของไทยที่ชาวต่างชาติชื่นชมไปขายในแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพในต่างประเทศ โดยจะเลือกสินค้าหลากหลายประเภทที่มีความโดดเด่นจากร้านในเครือ เพื่อนำไปวางจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย ที่ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมีกำลังซื้อสูง อาทิ ประเทศจีน มาเลเซีย เวียดนาม และอีกมากมาย