บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ เร่งต่อยอดกลยุทธ์ขยายฐานรายได้กลุ่ม Non-oil โดยล่าสุดผุดโปรเจกต์คอมมูนิตี้มอลล์นอกปั๊ม “OR Space” หลังผลักดันสถานีบริการน้ำมัน PTT Station โมเดล Living Community โดนใจทั้งกลุ่มลูกค้าและบรรดาร้านค้าปลีกที่แห่เช็กอินจับจองพื้นที่หนีความเสี่ยงจากมาตรการล็อกดาวน์ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ตามแผนเบื้องต้น โออาร์จะนำพื้นที่สถานีบริการน้ำมันที่มีขนาดเล็กในตัวเมืองและไม่ตอบโจทย์ด้านการตลาดมาพัฒนาสร้างโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ โดยเน้นโลเคชั่นที่มีเส้นทางเข้าออกสะดวก ใส่ร้านอาหารและร้านค้าปลีกที่เป็นจุดดึงดูด 3-4 ราย ซึ่งอาจแตกต่างกันในแต่ละทำเลและกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Station) หรือบริการใหม่ๆ ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป
หากมองเกมใหม่ “โออาร์สเปซ” ซึ่งบริษัทเตรียมประเดิมเผยโฉมสาขาต้นแบบ 1-2 แห่งภายในปลายปีนี้
ด้านหนึ่งเป็นการพลิกเกมพัฒนาพื้นที่สถานีบริการที่ไม่สามารถปรับโฉมใหม่ตามคอนเซ็ปต์ Living Community หรือดีลเลอร์ดำเนินธุรกิจปั๊มต่อไปไม่ไหวแล้ว สร้างศูนย์การค้าขนาดย่อมภายใต้เงินลงทุนไม่สูงมาก
อีกด้านหนึ่ง ขณะนี้มีผู้สนใจทำค้าปลีกเสนอพื้นที่เข้ามาจำนวนมาก เนื่องจากสถานีบริการพีทีทีสเตชั่นกลายเป็นทำเลยอดนิยมของธุรกิจร้านอาหารและร้านค้าปลีก ทั้งแบรนด์ยักษ์ใหญ่และกิจการรายกลางรายย่อย ซึ่งถือเป็นโอกาสต่อยอดนอกเหนือจากการทำสถานีบริการในเมืองใหญ่แถมได้ผลตอบแทนต่อตารางเมตรสูงขึ้น
ขณะเดียวกัน โออาร์สเปซยังสามารถเป็นจุดขยายธุรกิจในกลุ่มนอน-ออยล์ อื่นๆ และอีวีสเตชั่น ซึ่งเป็นเทรนด์ในอนาคตและควรกระจายเข้าถึงผู้ใช้บริการให้ได้มากที่สุดตามแผนการใหญ่ของบริษัทแม่ที่ชัดเจนแล้ว โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศจับมือกับกลุ่มฟ็อกซ์คอนน์ กรุ๊ป จากไต้หวัน ลุยแผนการลงทุนผลิตรถอีวีในประเทศไทย จะเป็นการพัฒนาทั้งแพลตฟอร์ม EV และสร้างโรงงานขึ้นไลน์ผลิตในปี 2565 เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกไปยังประเทศในอาเซียน กำลังการผลิตปีละ 150,000-200,000 คัน
ที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ทยอยลงทุน EV Value Chain ครอบคลุมการพัฒนา EV Charging Platform การพัฒนา EV Station และเตรียมปักหมุดตั้งโรงงานผลิตรถ EV ทั้งรถ 2 ล้อ รถ 4 ล้อ รถบรรทุก โดยทั้งกระบวนการมีบริษัทย่อยในเครือเข้ามาเสริมทัพส่วนต่างๆ
เช่น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ลงทุนตั้งโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell ด้วยเทคโนโลยี SemiSolid กำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปีที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ. ระยอง และมีแผนขยายเป็น 5 GWh ต่อปีใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อป้อนความต้องการใช้รถอีวีในประเทศ เช่น รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า รถไฟฟ้าสี่ล้อขนาดเล็ก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
จัดตั้งบริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด นำเข้ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและตั้งจุดทดลองให้สามารถ Swap หรือแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบการสลับแบตเตอรี่ ด้วยการถอดเอาแบตเตอรี่ออกแล้วใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่เปลี่ยนพร้อมใช้งานทันที โดยไม่ต้องจอดรอชาร์จไฟฟ้า
มีบริษัท อีวีมีพลัส จำกัด ดำเนินการธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าและให้บริการด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม เช่น บริการให้เช่ายานยนต์ไฟฟ้า บริการข้อมูลต่างๆ สถานีอัดประจุไฟฟ้าและสถานีซ่อมบำรุง EV
ขณะที่โออาร์รับผิดชอบด้านสถานีอัดประจุไฟฟ้าในปั๊มพีทีทีสเตชั่นและโออาร์สเปซ ซึ่งล่าสุดจัดตั้งแล้ว 30 แห่ง เช่น ในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาพหลโยธิน กม. 25 สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาวงแหวนกาญจนาภิเษก-ตลิ่งชัน สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาพัฒนาการ ขาออก สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาหนองแขม สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาแยกหาดจอมเทียน พัทยา และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 100 แห่งในสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ ยังมีบริษัท ออน-ไอออน โซลูชั่นส์ จำกัด ช่วยขยายสถานีนอกปั๊มอีกส่วนหนึ่ง จำนวน 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้
จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า บริษัทยังเห็นโอกาสลงทุนธุรกิจนอน-ออยล์ เพราะสามารถสร้างมาร์จินได้ดี แม้อยู่ในสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด โดยปีนี้ขยายสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอน และร้านไก่ทอดเท็กซัสตามเป้าหมาย 420 สาขา และ 20 สาขา ตามลำดับ
ส่วนการขยายสาขาสถานีบริการพีทีทีสเตชั่นต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 110 สาขา เหลือ 95 สาขา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด
ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 โออาร์มีจำนวนสถานีบริการน้ำมันทั้งในและต่างประเทศรวม 2,367 สาขา ร้านคาเฟ่อเมซอน รวม 3,729 สาขา ร้านฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ 54 สาขา ร้านไก่ทอดเท็กซัสชิคเก้น 81 สาขา ร้านชานมไข่มุกเพิร์ลลี่ ที 159 สาขา โดยช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการต่อสัญญาหลักความร่วมมือกับบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินการร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในสถานีบริการน้ำมันพีทีสเตชั่นในประเทศไทยอีก 10 ปี ซึ่งขณะนี้มีสาขารวม 2,000 กว่าแห่ง
เปิดจุดรับส่งพัสดุ (drop off point) ของ Flash Express จำนวน 10 จุดที่ร้านคาเฟ่ อเมซอน และนำร่องจำหน่ายเมนู Grab & Go จาก “โอ้กะจู๋” ที่ร้านคาเฟ่ อเมซอน ในสถานีบริการน้ำมันสาขาวิภาวดี
ด้านแผนลงทุน 5 ปี (2564-2568) บริษัทตั้งงบไว้ 7.46 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในปีนี้ 2.23 หมื่นล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนหรือซื้อกิจการ (M&A) ไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ มีทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจดิจิทัล และการขยายโครงการโออาร์สเปซ
นอกจากนี้ บริษัทแม่ ปตท. ยังสนใจเข้าร่วมประมูลพื้นที่จุดพักรถ (Rest Area) แนวเส้นทางมอเตอร์เวย์ของกรมทางหลวง เส้นทางมอเตอร์เวย์สาย 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี รวมถึงส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม. 3 จุด คือ 1. บริเวณทางแยกไป อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี พื้นที่รวม 100 ไร่ แบ่งเป็นฝั่งขาเข้าและขาออก ฝั่งละ 50 ไร่ 2. ด่านบางละมุงทั้งฝั่งขาเข้า-ขาออก พื้นที่รวม 50 ไร่ แบ่ง 2 จุดขาเข้า-ขาออก พื้นที่จุดละ 25 ไร่ 3. ด่านมาบประชันพื้นที่รวม 10 ไร่ แบ่ง 2 จุดขาเข้า-ขาออก จุดละ 5 ไร่ ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสการขยายธุรกิจนอนออยล์ในทำเลศักยภาพและโออาร์เคยบริหารพื้นที่ Rest Area รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์จนประสบความสำเร็จมาแล้ว
นั่นจึงไม่แปลกที่ผลการดำเนินการครึ่งปีแรกของโออาร์สามารถทำกำไรสุทธิสูงถึง 7,228 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,810 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่ม Non-Oil ทุกตัวเติบโตสวนวิกฤตโควิดและทำให้โปรเจกต์รีเทลตัวใหม่ “โออาร์สเปซ” น่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย
