วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
Home > Life > Staycation หย่อนใจ ใกล้บ้าน

Staycation หย่อนใจ ใกล้บ้าน

การท่องเที่ยวถือเป็นกิจกรรมในการพักผ่อนหย่อนใจที่เป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้การเดินทางมีข้อจำกัด อีกทั้งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ยังส่งผลให้เราต้องหันมารัดเข็มขัดและคุมเข้มกับการจับจ่ายใช้จ่ายกันมากขึ้น รูปแบบการท่องเที่ยวจึงต้องปรับเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

เที่ยวใกล้บ้าน เดินทางง่าย สบายกระเป๋า ตามสไตล์ “Staycation” จึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่กำลังมาแรงในหมู่คนชอบเที่ยวอยู่ในขณะนี้

Stay + Vacation = Staycation

“Staycation” มาจากคำว่า “Stay” บวกกับ “Vacation” คำ 2 คำที่มีความหมายที่ดูขัดกัน แต่เมื่อนำมาผสมเข้าด้วยกันกลับกลายเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวและพักผ่อนที่มีเสน่ห์ในตัวเอง

Staycation เป็นการท่องเที่ยวพักผ่อนในละแวกท้องถิ่นที่เราอยู่ เดิมทีหมายถึงการพักร้อนอยู่กับบ้าน โดยอาจจะปรับเปลี่ยนบรรยากาศของบ้าน ทำกิจกรรมใหม่ๆ แต่ในระยะหลังยังหมายรวมถึงการท่องเที่ยวในเมืองและในท้องถิ่นที่ตนเองอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เราได้หันมาทำความรู้จักกับพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ด้วยมุมมองใหม่ เหมือนเราเป็นนักท่องเที่ยวในบ้านของตัวเอง

ไลฟ์สไตล์แบบ Staycation เริ่มเป็นที่แพร่หลายในหมู่อเมริกันชนในช่วงเกิดวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์หรือที่รู้จักกันในชื่อ Hamburger Crisis ซึ่งเกิดในช่วงปี 2007-2010 วิกฤตครั้งนั้นทำให้คนอเมริกันต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เงิน เลยหันมาเที่ยวในเมืองที่อาศัยอยู่แทนเพราะค่าใช้จ่ายไม่สูง

เช่นเดียวกับทางฟากเกาะอังกฤษ ซึ่งความนิยมในการพักผ่อนแบบนี้เกิดขึ้นในราวๆ ปี 2009 เป็นช่วงที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง ทำให้ชาวอังกฤษเลือกที่จะ Staycation แทนการเดินทางไป Vacation ในที่ไกลๆ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็ยังได้ผ่อนคลายจากความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน

สำหรับในเมืองไทย เราเริ่มเห็นเทรนด์ Staycation มากขึ้น เพราะเหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาทำความรู้จักกับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากขึ้น

ข้อดีของ Staycation คือ เที่ยวง่ายใกล้บ้าน เดินทางสะดวก ใช้งบน้อย ไม่ต้องวางแผนการท่องเที่ยวที่ยุ่งยากเกินไป ไม่ต้องลางานหลายวัน ที่สำคัญเป็นการพาตัวเองออกจากความตึงเครียด ช่วยสร้างสมดุลให้ชีวิต อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว

ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพฯ ลองวางแผนไปเดินเล่นตามย่านต่างๆ ของเมืองกรุงแบบไม่เร่งรีบ อาจจะเริ่มจากถนนเจริญกรุง บางรัก ตลาดน้อย แหล่งรวมวัฒนธรรม วิถีชีวิต และศิลปะ สำรวจวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายจีนที่เยาวราช พร้อมลิ้มรสอาหารอร่อยๆ เดินลัดเลาะตามเส้นแม่น้ำเจ้าพระยาต่อไปยังปากคลองตลาด ท่าเตียน ท่าช้าง ที่มีทั้งวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ ตลาด และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนตลอดเส้นทางให้ได้สัมผัส ต่อด้วยข้ามฝั่งไปทำความรู้จักกับอีกฟากของแม่น้ำเจ้าพระยาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

หรือจะสำรวจย่านธุรกิจอย่างสุขุมวิท สีลม สยาม อารีย์ ที่แลดูพลุกพล่าน รถติด เต็มไปด้วยควันรถ แต่ถ้ามีเวลาและลองสำรวจด้วยมุมมองใหม่ เชื่อเถอะว่าไม่ได้มีเฉพาะตึกสูงๆ แค่นั้น เราอาจจะนึกแปลกใจที่ยังเห็นร้านโชวห่วยเล็กๆ ฝังตัวอยู่ท่ามกลางตึกสูงแวดล้อม หรือค้นพบร้านอาหารอร่อยๆ แบบโฮมเมดโดยบังเอิญก็เป็นไปได้

หรืออาจจะแพ็กกระเป๋าใบเล็กๆ เตรียมเสื้อผ้าสักชุดสองชุด ไปนอนเล่นในโรงแรม เกสต์เฮาส์ หรือโฮสเทล ตามย่านต่างๆ พร้อมหนังสือสักเล่มก็จะได้ประสบการณ์อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในหมู่คนที่นิยมไลฟ์สไตล์แบบ Staycation และยิ่งช่วงนี้ที่พักต่างๆ พากันลดราคาและมีโปรโมชั่นดีๆ ออกมาดึงดูดลูกค้าในช่วงโควิดเป็นตัวเลือกที่คุ้มและน่าสนใจให้เราด้วยเช่นกัน

วันหยุดที่จะถึงลองวางแผนไป Staycation ดูสักที เพราะนอกจากจะเป็นการชาร์จแบตฯ ให้กับตัวเองแล้ว ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักกับท้องถิ่นที่เราคุ้นเคยที่สุด แต่เราอาจจะรู้จักมันน้อยที่สุดก็เป็นไปได้

ใส่ความเห็น