วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Home > Life > ไข้หวัดใหญ่ฤดูกาล 2020 ที่คุณต้องรู้

ไข้หวัดใหญ่ฤดูกาล 2020 ที่คุณต้องรู้

Column: Well – Being

ไข้หวัดใหญ่เป็นภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเดินทางผ่านอากาศเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูกหรือปาก โดยเฉลี่ยแล้วชาวอเมริกันป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ร้อยละ 8 ต่อปี และทุกคนมีความเสี่ยงต่อไวรัสนี้

นิตยสาร Prevention รายงานการเปิดเผยของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐฯ (ซีดีซี) ว่า นับจากเดือนตุลาคม 2019 ถึงต้นเดือนเมษายน 2020 มีผู้เสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนเพราะไข้หวัดใหญ่ราว 62,000 ราย และต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 740,000 ราย เทียบกับฤดูกาล 2018-2019 มีผู้เข้าโรงพยาบาลราว 490,000 ราย และผู้เสียชีวิตเพราะโรคแทรกซ้อนจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 34,200 ราย

อาการของไข้หวัดใหญ่มีตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง ที่อาจรวมถึงไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ไอ และปวดศีรษะ บ่อยครั้งที่ไข้หวัดใหญ่มักสับสนกับไข้หวัดธรรมดา แต่ไข้หวัดใหญ่จะพัฒนาอาการอย่างเฉียบพลันและรุนแรงกว่ามาก ที่สำคัญอาการยังสามารถซ้ำซ้อนกับโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

สาเหตุของไข้หวัดใหญ่
เมื่อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ไอหรือจาม ทำให้ละอองฝอยจากสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสล่องลอยในอากาศ คุณสามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้ถ้าสูดกายใจเอาละอองฝอยเหล่านี้เข้าทางจมูกหรือปาก หรือถ้าคุณสัมผัสกับพื้นผิววัตถุต่างๆ เช่น ลูกบิดประตู หรือแป้นคีย์บอร์ดปนเปื้อนเชื้อไวรัส จากนั้นก็ใช้มือนั้นสัมผัสจมูก ตา หรือปาก ถ้าคุณมีเชื้อไข้หวัดใหญ่ก็จะสามารถแพร่เชื้อไวรัสได้ในหนึ่งวันก่อนอาการจะพัฒนาและภายในเจ็ดวันหลังจากคุณล้มป่วย ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่เชื้อได้มากที่สุดระหว่าง 3-4 วันแรกของอาการป่วย

ปัจจัยเสี่ยงไข้หวัดใหญ่
ไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการกลายพันธุ์เปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา ถ้าคุณเคยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่มาแล้วในอดีต คุณอาจเป็นได้อีกครั้ง โดยอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงขึ้นที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่และพัฒนาโรคแทรกซ้อนขึ้นได้ ถ้าคุณ:

… อายุต่ำกว่า 4 ปี

… อายุเกิน 65 ปี

… อาศัยอยู่ในสถานพยาบาล หรือสถานรับดูแลผู้ป่วยระยะยาว

… ตั้งครรภ์ หรือมีภาวะตกเลือดหลังคลอดนานสองสัปดาห์

… มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

… ป่วยเรื้อรัง

… มีค่าดัชนีมวลกาย 40 หรือสูงกว่า

อาการของไข้หวัดใหญ่
อาการของไข้หวัดใหญ่มักคล้ายกับไข้หวัดธรรมดาและโรคโควิด-19 ซึ่งรวมทั้งบางอาการหรืออาการทั้งหมดต่อไปนี้

… มีไข้หรือรู้สึกมีไข้

… ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะบริเวณหลัง แขน และขา

… น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก

… เจ็บคอ

… ไอ

… หนาวสั่นสลับกับมีเหงื่อออก

… อ่อนเพลียและอ่อนล้า

… ปวดศีรษะ

…อาเจียนหรือท้องเสีย

ดร. โจเซฟ ลาดาโป ศาสตราจารย์ด้านอายุรกรรมแห่งมหาวิทยาลัยยูซีแอลเอ กล่าวว่า ถ้าอยู่ในฤดูกาลไข้หวัดใหญ่และคุณเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรงเป็นทุนเดิม แต่บังเอิญมีอาการข้างต้น คุณไม่จำเป็นต้องรีบไปหาหมอทันที เพียงดูแลตัวเองตามอาการด้วยการพักผ่อนและกินยาสามัญประจำบ้าน เช่น ไอบูโพรเฟน และอะเซ็ตตามิโนเฟน อย่างไรก็ตาม ผู้อยู่ในข่ายความเสี่ยงสูง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ป่วยเรื้อรังจากโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมอง ควรรีบพบแพทย์

ไข้หวัดธรรมดา vs ไข้หวัดใหญ่
ทั้งที่ทั้งสองโรคมีอาการคล้ายกัน แต่ไข้หวัดธรรมดามีอาการเบากว่าไข้หวัดใหญ่มาก และการพัฒนาของโรคก็มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ

ดร.ลาดาโปกล่าวว่า “ถ้าคุณไม่รู้สึกว่าป่วยรุนแรงมาก คุณอาจไม่เป็นไข้หวัดใหญ่ก็ได้” โดยอาการส่วนใหญ่ของไข้หวัดธรรมดาจะแสดงออกตั้งแต่บริเวณเหนือลำคอขึ้นไป (เช่น ต่อมบวม และน้ำมูกไหล) ขณะที่อาการของไข้หวัดใหญ่สามารถโจมตีร่างกายของคุณทั้งบริเวณเหนือลำคอขึ้นไปและใต้ลำคอลงมา

วิธีรักษาไข้หวัดใหญ่
ถ้าคุณไปหาหมอ หมออาจให้คุณกินยาต้านไวรัส เช่น โอเซลทามิเวียร์ (ทามิฟลู) หรือซานามิเวียร์ (เรเลนซา) ถ้าคุณกินยาภายในสองวันที่มีอาการป่วย จะช่วยลดอาการ และลดระยะเวลาการล้มป่วยของคุณได้ประมาณหนึ่งวัน

ไม่ว่าคุณจะกินยาต้านไวรัสหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาไข้หวัดใหญ่คือพักผ่อน ดื่มน้ำให้มาก และใช้การบำบัดใดก็ได้ที่จะช่วยบรรเทาอาการได้ดีที่สุด เช่น ยาแก้ปวดสำหรับอาการปวดศีรษะและปวดกล้ามเนื้อ

โรคแทรกซ้อนที่ควรรู้
ผู้มีร่างกายแข็งแรง โดยทั่วไปจะฟื้นตัวหายจากไข้หวัดใหญ่ได้ในทันทีที่ไวรัสผ่านพ้นไป อย่างไรก็ตาม กลุ่มความเสี่ยงสูงอาจพัฒนาโรคแทรกซ้อนขึ้น ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ ได้แก่

… ไซนัสและติดเชื้อในช่องหู

… ปอดบวม

… หลอดลมอักเสบ

… หอบหืด

… อาการอักเสบของเนื้อเยื่อหัวใจ สมอง หรือกล้ามเนื้อ

… อวัยวะหลายส่วนทำงานล้มเหลว

… ติดเชื้อในกระแสเลือด

… ภาวะโรคที่เป็นอยู่เลวลง เช่น โรคหัวใจ

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่
คุณสามารถลดความเสี่ยงจากการติดโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยหลักสามัญสำนึกของการปฏิบัติตนด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญต่างเห็นพ้องว่า วิธีเดียวที่ป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีอายุราว 6 เดือนหรือกว่านั้น และที่สำคัญคือต้องฉีดวัคซีนปีละครั้งทุกปี

ผู้เชี่ยวชาญยังย้ำว่า การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดอยู่นี้ เพราะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ “แข่งขันกันใช้บริการทางการแพทย์ชุดเดียวกันกับผู้ป่วยโควิด-19” เช่น ห้องไอซียู และบุคลากรทางการแพทย์ “ยิ่งเรามีห้องสำหรับดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งดีขึ้นเพียงนั้น”

นอกเหนือจากวัคซีน หลักปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ดีสามารถป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แพร่ระบาดได้ ได้แก่

… ล้างมือบ่อยๆ อย่างน้อย 20 วินาทีด้วยน้ำและสบู่ หากไม่สะดวกให้ใช้เจลแอลกอฮอล์แทน

… ไอหรือจามใส่กระดาษทิชชูแล้วโยนทิ้ง ถ้าไม่มีทิชชูให้จามหรือไอใส่ท่อนแขนบริเวณข้อศอก

… หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนแออัด เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ โรงเรียน และสำนักงาน ถ้าคุณป่วยให้พักอยู่ที่บ้านอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังหายจากอาการไข้

…หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก และปาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย

… ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อผิวสัมผัสรวมทั้งวัตถุต่างๆ เช่น แป้นคีย์บอร์ด ลูกบิดประตู และโทรศัพท์ ที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรค

… ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เช่น สวมหน้ากาก และรักษาระยะห่างทางสังคม

ใส่ความเห็น