Column: Well – Being
คนส่วนใหญ่คงเคยได้ยินเกี่ยวกับริดสีดวงทวารกันมาบ้างแล้ว สถาบันแห่งชาติว่าด้วยโรคเบาหวาน โรคทางเดินอาหาร และโรคไต (NIDDK) แห่งสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า ชาวอเมริกันทุก 1 ใน 20 คนได้รับผลกระทบจากริดสีดวงทวาร และประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป
แต่ถ้าคุณไม่เคยเป็นริดสีดวงทวาร คงเป็นเรื่องยากที่จะบรรยายให้รู้ซึ้งว่ามันทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง นิตยสาร Prevention แนะนำให้ลองมาทำความรู้จักริดสีดวงทวารกันดีกว่า
หอสมุดแห่งชาติสหรัฐอเมริกาให้คำจำกัดความโรคริดสีดวงทวารว่า เป็นอาการหลอดเลือดรอบทวารหนักหรือลำไส้ตรงส่วนล่างบวมและอักเสบ
“ริดสีดวงทวารเป็นกายวิภาคปกติ เหมือนการที่เรามีมือทั้งสองข้าง” ดร. เจฟเฟอรี เนลสัน ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมแห่งศูนย์โรคลำไส้ใหญ่และโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังประจำศูนย์การแพทย์เมอร์ซีแห่งบัลติมอร์ กล่าว “ในร่างกายของทุกคนต่างก็มีเนื้อเยื่อริดสีดวงทวาร”
NIDDK เปิดเผยว่า ริดสีดวงทวารมี 2 ประเภท ได้แก่ ริดสีดวงทวารภายใน ที่เกิดขึ้นเหนือเส้นสมมุติ (dentate line) ของทวารหนักและลำไส้ตรงส่วนล่าง และริดสีดวงทวารภายนอก ที่เกิดขึ้นใต้เส้นสมมุติ (dentate line) ลงมาและอยู่ลึกเข้าไปใต้ผิวหนังรอบทวารหนัก
สาเหตุ
ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทำไมบางคนจึงต้องทุกข์ทรมานกับภาวะริดสีดวงทวาร ขณะที่คนอื่นกลับไม่เป็น ดร. เนลสัน กล่าวว่า “ปัจจัยด้านพันธุกรรมก็มีส่วนเช่นกัน” ซึ่งหมายความว่า โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมแก่คนในครอบครัวด้วย
NIDDK พูดถึงพฤติกรรมบางอย่างที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดริดสีดวงทวาร ได้แก่
– การเบ่งอุจจาระ
– การนั่งถ่ายเป็นเวลานาน
– ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง
– กินอาหารเส้นใยต่ำ
– เนื้อเยื่อที่รองรับในทวารหนักและลำไส้ตรงเสื่อมลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น
– ตั้งครรภ์
– ยกของหนักเป็นประจำ
อาการเป็นอย่างไร ปวดไหม
ดร. เนลสันตอบว่า ขึ้นกับประเภทของริดสีดวงทวารที่คุณเป็น ถ้าเป็นริดสีดวงทวารภายนอก คุณอาจมีอาการต่อไปนี้
– คันทวารหนัก
– มีก้อนเนื้อแข็งหนึ่งก้อนหรือมากกว่าบริเวณใกล้ทวารหนัก
– เจ็บหรือปวดทวารหนัก คุณรู้สึกว่าอาการยิ่งแย่ลงเมื่อนั่งลง
ถ้าเป็นริดสีดวงทวารภายใน ดร. รูดอร์ฟ เบดฟอร์ด แพทย์โรคทางเดินอาหารแห่งศูนย์สุขภาพโพรวิเดนซ์ เซนต์ จอห์น เมืองซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย อธิบายว่า คุณอาจมีอาการต่อไปนี้
– มีเลือดออกจากลำไส้ตรง (ซึ่งมีลักษณะเป็นเลือดสดปนมากับอุจจาระ หรือติดบนกระดาษชำระ หรือค้างอยู่ในโถชักโครกหลังจากอุจจาระเสร็จแล้ว)
ดร. เนลสันกล่าวเพิ่มเติมว่า “ส่วนใหญ่แล้วริดสีดวงทวารไม่ทำให้เจ็บปวดเมื่อมีการเคลื่อนไหวในช่องท้อง ถ้าคุณมีก้อนริดสีดวงทวารที่ปลิ้นออกมา คุณจะรับรู้ถึงอาการบวมและปวด ถ้าก้อนเนื้อนั้นไม่ยอมดันกลับเข้าไปในร่างกายของคุณ”
วิธีกำจัดริดสีดวงทวาร
ดร. เบดฟอร์ดกล่าวว่า การรักษาริดสีดวงทวารด้วยตนเองมีเพียงไม่กี่วิธี
– วิธีแรก ต้องเริ่มจากการกินอาหารเส้นใยสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และดื่มของเหลวมากๆ ซึ่งจะช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น และขับถ่ายออกได้โดยง่าย จึงไม่เกิดอาการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อริดสีดวงของคุณ และหลีกเลี่ยงการนั่งเป็นเวลานานติดต่อกัน เพื่อลดอาการไม่สบายตัวลงให้น้อยที่สุด
– นั่งอาบน้ำครั้งละ 20 นาที เป็นเวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ซึ่งช่วยให้ทวารหนักสะอาด ลดการอักเสบ และทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้น วิธีง่ายๆ เพียงนั่งในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอุ่นราว 3 ใน 4 หรือไม่ก็ซื้อกะละมังพลาสติกที่วางบนชักโครกได้ แล้วนั่งแช่น้ำอุ่นครั้งละ 20 นาที
– ถ้าคุณยังทุกข์ทรมานอยู่ ให้ซื้อยาที่เป็นครีมหรือออยต์เมนต์มาทา ก็จะช่วยได้ “ยาเหล่านี้จะช่วยลดอาการอักเสบ และช่วยทำให้ริดสีดวงยุบตัวลง” ดร. เบดฟอร์ดแนะนำ แต่ถ้ายังไม่ได้ผล หมออาจสั่งจ่ายยาให้คุณได้ หรือไม่ก็ให้ใช้ยาเหน็บ
ควรหาหมอเมื่อไรดร. เนลสันกล่าวว่า ถ้ากังวลเกี่ยวกับริดสีดวงทวาร หรือไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของคุณ แนะนำให้ไปพบหมอ โดยเฉพาะถ้าคุณมีอาการตามที่กล่าวข้างต้นนานเกินหนึ่งสัปดาห์ (ไม่ต้องอายหรอก หมอต้องดูแลโรคนี้ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว!)
เริ่มแรกหมออาจแนะนำให้รักษาด้วยยาก่อน ถ้าไม่ได้ผลยังมีทางเลือกอื่นๆ เช่น
– การใช้ยางรัด (rubber band ligation) เป็นวิธีตัดช่องทางไม่ให้เลือดไปเลี้ยงก้อนริดสีดวงด้วยการใช้ยางรัด
– การฉีดยา (sclerotherapy) หมอจะฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้เลือดไปเลี้ยง
– การจี้ด้วยอินฟราเรด (infrared photocoagulation) ใช้รังสีอินฟราเรดตัดเส้นทางไม่ให้เลือดไปเลี้ยงหัวริดสีดวง
– การตกตะกอนด้วยไฟฟ้า (electrocoagulation) เป็นวิธีใช้กระแสไฟฟ้าตัดไม่ให้เลือดไปเลี้ยงริดสีดวง
ในกรณีรุนแรงกว่านี้หมออาจใช้วิธีผ่าตัด