วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > New&Trend > แอสเสท เวิรด์ คอร์ป พัฒนาบ้านโบราณอายุกว่า 150 ปี ริมน้ำปิง จ.เชียงใหม่ สู่โครงการ ‘บ้านโบราณเชียงใหม่’ สะท้อนคุณค่าแห่งบริบทท้องถิ่นล้านนาอย่างงดงาม

แอสเสท เวิรด์ คอร์ป พัฒนาบ้านโบราณอายุกว่า 150 ปี ริมน้ำปิง จ.เชียงใหม่ สู่โครงการ ‘บ้านโบราณเชียงใหม่’ สะท้อนคุณค่าแห่งบริบทท้องถิ่นล้านนาอย่างงดงาม

นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (TCC GROUP) เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้นำบ้านโบราณอายุกว่า 150 ปี ย่านใจกลางเมือง จ.เชียงใหม่ ติดริมแม่น้ำปิงมาพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ ‘บ้านโบราณเชียงใหม่ (Ancient House Chiangmai)’ ด้วยงบลงทุน 170 ล้านบาท

โครงการดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นจากความตั้งใจของกลุ่มบริษัท TCC ที่ต้องการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมของดั้งเดิมไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีต ซึ่งน่าเสียดายหากสิ่งเหล่านี้ต้องเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ดังเช่นที่บริษัทฯ ได้พัฒนาปรับปรุงโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ โดยนำโกดังและโรงเลื่อยเก่าของบริษัทอีสต์ เอเชียติกในสมัยรัชกาลที่ 5 มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสถึงความรุ่งเรืองในอดีตได้อย่างน่าชื่นชม และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องมาเยือนเมื่อมาประเทศไทย

“ด้วยนโยบายในด้านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่งดงามในอดีต บริษัทฯ จึงได้พัฒนาพื้นที่บ้านโบราณให้เป็นโครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ โดยการบูรณะตัวบ้านเพื่ออนุรักษ์บ้านไว้เป็นมรดกสำหรับลูกหลานเชียงใหม่ บอกเล่าเรื่องราวในอดีตอันรุ่งเรืองของการค้าเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วยการซ่อมปรับปรุงตัวบ้านโบราณโดยวิธีแบบโบราณโดยยังคงรักษาจิตวิญญาณของบ้านรวมทั้งรักษาสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้พร้อมกับสร้างร้านค้าในรูปแบบเฮือนแป (รูปแบบร้านค้าแบบดั้งเดิมของเชียงใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากภาคกลางในยุคต้นรัชกาลที่ 5 อ้างอิงจากร้านค้าย่านวัดเกตุ) เพิ่มเติมอีกจำนวน 3 หลัง ประกอบด้วยร้านค้าและร้านอาหารจำนวนรวม 7 ร้านค้า เพื่อนำเสนอในรูปแบบศูนย์การค้าเชิงวัฒนธรรมขนาดเล็ก (CULTURAL ANTIQUE MALL) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยตัวบ้านโบราณในอดีตถูกปรับให้เป็นร้านอาหาร The Chocolate Factory ส่วนร้านค้าเฮือนแปประกอบด้วยร้านค้าของที่ระลึกเชียงใหม่ 6 ร้าน เพื่อสร้างเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งพัฒนาโครงการให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเชียงใหม่ต่อไป” นายณภัทร เจริญกุล กล่าวเสริม

ด้านนางสาวสุรภี ขันอาษา ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มศูนย์การค้าภาคเหนือ บริษัท แอสเสท เวิรด์ แอดไวซ์เซอร์รี่ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายของบ้านโบราณเชียงใหม่นั้นวางไว้เป็นชาวไทย 70% ทั้งคนในเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่และชาวต่างชาติ 30% โดยรวมชาวต่างชาติที่อาศัยในเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวเชียงใหม่ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเราได้กลุ่มผู้เช่าพื้นที่เป็นแบรนด์ผู้ประกอบการคุณภาพและมีชื่อเสียง อย่างร้าน The Chocolate Factory ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแรงอยู่แล้ว และมีคอนเซปต์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งรูปแบบและรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มด้วยวัตถุดิบในการทำอาหารจากโครงการหลวงของทางภาคเหนือ รวมถึงรายการอาหารพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่และยังมีฐานลูกค้าเดิมจากทั้ง 3 สาขาที่เปิดมาแล้ว ภายในโครงการยังรวบรวมร้านค้าของที่ระลึกอื่นๆ ไว้อีกมากมายเช่น ร้านดอยคำ, Elephant Parade, ROC (Royal Orchid Collection), Kinaree The gallery of Asia, Thai Craft หัตถกรรมไทย และ Fourvector ผนวกกับบ้านโบราณเชียงใหม่อายุกว่า 150 ปี ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามทรงคุณค่า และยังมีสถานที่จัดกิจกรรมริมแม่น้ำปิงบรรยากาศชิคและชิวซึ่งถือเป็นจุดขายของโครงการที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงคนท้องถิ่นได้อย่างดี

“เชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่ที่มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ การค้าและโลจิสติกส์ ถือเป็นศูนย์กลางในด้านการท่องเที่ยวของภาคเหนือ แน่นอนว่ามีประชากรย้ายเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นมาอยู่อาศัยหรือมาทำงาน ในมุมไลฟ์สไตล์ของคนเชียงใหม่ความรีบเร่งในการใช้ชีวิตถือว่ายังน้อยกว่าคนกรุงเทพฯ แต่มีมุมที่คล้ายกันในด้านการท่องเที่ยวแบบไลฟ์สไตล์ด้วยการสร้างประสบการณ์ให้กับตัวเองและเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติกับความดั้งเดิมของสถาปัตยกรรมของสถานที่นั้นทำให้ชาวเชียงใหม่นิยมหาสถานที่พักผ่อนและพบปะสังสรรค์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ด้านการประชาสัมพันธ์โครงการนั้นได้รับการสนับสนุนและความร่วมมืออย่างดีจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสาขาเชียงใหม่ ตลอดจนโรงแรมต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 20 ล้านบาทต่อปี ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายของผู้เช่าให้มากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมร่วมกับร้านค้าต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง และนำเอาเอกลักษณ์ของบ้านโบราณเชียงใหม่มาผสมผสานกับจุดเด่นของร้านค้า รวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและวัฒนธรรมตามเทศกาลต่างๆ เช่น งานสินค้า OTOP งานสงกรานต์ งานยี่เป็ง เป็นต้น” นางสาวสุรภี ขันอาษา กล่าวเพิ่มเติม

โดยงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากท่านรองสรรเสริญ ศีติสาร รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายบุญรัตน์ สดใส ทายาทรุ่นที่ 5 ของบ้านโบราณ พันธมิตรโรงแรมในเชียงใหม่ และเจ้าของกิจการต่างๆ ที่ให้เกียรติมาร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อผนึกกำลังสร้างสรรค์ให้โครงการบ้านโบราณเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเมื่อมาเยือนเชียงใหม่

ณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด

ใส่ความเห็น