วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
Home > Cover Story > กลุ่มสามารถดัน SAV ลุยวิทยุการบินกัมพูชา ไร้คู่แข่ง เหมาสัมปทานยาว 49 ปี

กลุ่มสามารถดัน SAV ลุยวิทยุการบินกัมพูชา ไร้คู่แข่ง เหมาสัมปทานยาว 49 ปี

กัมพูชา อีกหนึ่งประเทศกำลังพัฒนาบนภูมิภาคอาเซียน ที่มีนักลงทุนจากจีนทั้งภาครัฐและเอกชนใส่เม็ดเงินลงไปเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม ท่าเรือ แต่โควิดที่ผ่านมาการปิดเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของจีนส่งผลโดยตรงต่อกัมพูชา ที่กำลังอยู่ในจังหวะเร่งของการเติบโตด้านเศรษฐกิจ

ปัจจุบันในภาวการณ์ที่ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายแล้ว ทว่า การกลับมาดำเนินกิจการภายใต้การบริหารงานของทุนจีนยังไม่สามารถกลับมาได้เท่าที่ควรบนแผ่นดินกัมพูชา

ธนาคารโลก หรือ World Bank คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2566 ประมาณร้อยละ 5.2 เนื่องจากจีนกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ในขณะที่ประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยเฉพาะอาเซียนแข็งแกร่งกว่าปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ทั่วโลกยังคงลดลง เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสภาวะทางการเงินที่ตึงตัวขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาในปี 2566 ว่าจะเติบโตร้อยละ 5.6 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 6.6 เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและวิกฤตโควิด

ด้านรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง มร. Vongsey Vissoth เปิดเผยว่า แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะคลี่คลายลง แต่วิกฤตจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่จบลง รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และจีน ซึ่งเป็นผู้สั่งซื้อรายใหญ่ของกัมพูชา ดังนั้น กัมพูชาอาจจะเผชิญกับความเสี่ยงเช่นกัน

กัมพูชานอกจากจะเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญแล้ว การท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่รัฐบาลกัมพูชาเร่งส่งเสริมและมีนโยบายเพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมตัวนี้ทำงานได้อย่างเต็มที่

ล่าสุด กัมพูชามีการลงทุนสร้างสนามบินนานาชาติใหม่ 3 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว นักเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ได้แก่ สนามบินพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ และสนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง) ทั้งนี้ หากสนามบินทั้ง 3 แห่งเปิดให้บริการแล้วจะสามารถรองรับนักเดินทางได้มากกว่า 30 ล้านคน

บริษัทวิจัยนานาชาติคาดการณ์ว่า ในปี 2567 จำนวนนักเดินทางเข้าออกกัมพูชาจะเพิ่มมากกว่าก่อนโควิด และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาจะเพิ่มขึ้นเป็น 134,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจาก 100,000 เที่ยวบินที่คาดการณ์ในปี 2566 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งน่าจะกลับมาอย่างชัดเจนในต้นปีหน้า

หากเอ่ยถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแล้ว อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่จะเติบโตแบบคู่ขนานคือ อุตสาหกรรมการบิน และเมื่ออุตสาหกรรมการบินในกัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทที่จะกวาดรายได้จากการขยายตัวนี้คือ ธุรกิจวิทยุการบิน

และในกัมพูชา บริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับวิทยุการบินคือ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ว่า SAV เป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งมีธุรกิจแกนคือ ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร ผ่านบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด (CATS) ซึ่ง SAV ถือหุ้นใน CATS ในสัดส่วน 100% โดย CATS เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาตั้งแต่ปี 2545-2594 ในการบริการจัดการจราจรทางอากาศ ครอบคลุมเส้นทางบินทั้งหมดของน่านฟ้าประเทศกัมพูชา

รายได้หลักของ CATS มาจากบริการควบคุมการจราจรทางอากาศ 3 ประเภท ได้แก่ 1. รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ (Landing & Take-off: Domestic) 2. เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ (Landing & Take-off: International) และ 3. รายได้จากค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา (Overflight) ปัจจุบัน SAV มีสนามบินในกัมพูชา 6 แห่ง ได้แก่ สนามบินนานาชาติพนมเปญ สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ สนามบินนานาชาติสีหนุ สนามบินพระตะบอง สนามบินเกาะกง และสนามบินสตึงเตรง

“อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการบินกัมพูชา กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีการลงทุนสร้างสนามบินนานาชาติใหม่ 3 แห่ง เพื่อรองรับจำนวนนักเดินทางที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ 1. สนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ ในเฟสแรกสามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 10 ล้านคน  2. สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 8 ล้านคน ในเฟสแรก และมีแผนขยายให้สามารถรองรับนักเดินทางได้ถึง 20 ล้านคน ในอนาคต 3. สนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง) ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่จะรองรับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชาในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการปลายปีนี้

ทั้งนี้มีบริษัทวิจัยนานาชาติคาดว่าในปี 2567 จำนวนนักเดินทางเข้าออกกัมพูชาจะเพิ่มมากกว่าก่อนโควิด และจำนวนเที่ยวบินในกัมพูชาจะเพิ่มเป็น 134,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจาก 100,000 เที่ยวบินที่คาดการณ์ในปี 2566 เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจ โดยเฉพาะจากประเทศจีนซึ่งน่าจะกลับมาอย่างชัดเจนในต้นปีหน้า โดยล่าสุดจำนวนเที่ยวบินจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ธีระชัย ขยายความเพิ่มเติม

การกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจกัมพูชา โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ส่งผลให้ SAV มีรายได้ในปี 2565 รวม 1,220 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 761 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 199.5% นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในกัมพูชาแล้ว SAV ยังมีจุดเด่นที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวคือ การเป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินครบวงจรรายเดียวในกัมพูชา มีรายได้ประจำทั้งจากทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในประเทศกัมพูชา และทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา รวมถึงอายุสัมปทานที่เหลืออีก 29 ปี ขณะที่ธุรกิจวิทยุการบินเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง ไม่มีคู่แข่ง และมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกัมพูชาและอาเซียนมีแนวโน้มเติบโตสูง

ล่าสุด SAV เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสร้างความมั่นคงให้ธุรกิจรวมถึงบริษัทแม่ วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายพัฒนากลยุทธ์องค์กร และพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า “กลุ่มสามารถได้ลงทุนในหลากหลายธุรกิจมามากกว่า 60 ปี ในส่วนของธุรกิจด้านการบิน ได้ลงทุนในกัมพูชาตั้งแต่ปี 2454 ผ่าน บมจ. สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น ซึ่งเป็นบริษัทย่อย มีกลุ่มสามารถถือหุ้นในบริษัท 100% ทั้งนี้ SAV เป็นบริษัทเดียวที่ได้รับสัมปทานด้านการให้บริการวิทยุการบินแบบครบวงจรในกัมพูชา โดยบริษัทฯ ลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดระยะเวลา 21 ปีที่ผ่านมา พร้อมขยายระยะเวลาสัมปทานต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้ครอบคลุมระยะเวลานานถึง 49 ปี”

SAV เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในไตรมาส 3 ปีนี้ พร้อมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 224,000,000 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 35.00 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขยายหุ้นสามัญของบริษัทฯ โดยมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น เพื่อระดมทุนรองรับการขยายธุรกิจและชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ชูจุดแข็งศักยภาพธุรกิจแกร่ง ไร้คู่แข่ง ยืนหนึ่งด้านการเป็นผู้ให้บริการวิทยุการบินแห่งเดียวในกัมพูชา พร้อมเติบโตรับอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวที่จะกลับมาเติบโตสูง และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ

การไร้คู่แข่งทำให้ SAV ง่ายที่จะเติบโตในธุรกิจวิทยุการบิน สิ่งเดียวที่จะเป็นอุปสรรคขัดขวาง SAV ได้คือ การระบาดของโรคอุบัติใหม่.