วันอาทิตย์, เมษายน 28, 2024
Home > New&Trend > “ฐิติภูมิ โชควัฒนา” ทายาทบิ๊กเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุก บุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ “ห้างทองกลมเกลียว”

“ฐิติภูมิ โชควัฒนา” ทายาทบิ๊กเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุก บุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ “ห้างทองกลมเกลียว”

“ฐิติภูมิ โชควัฒนา” ทายาทบิ๊กเครือสหพัฒน์ เปิดเกมรุก บุกธุรกิจร้านทอง คิกออฟ “ห้างทองกลมเกลียว” สาขาแรก ที่สาธุประดิษฐ์ 58 ชูโมเดลห้างทองเพื่อชุมชน

“ฐิติภูมิ โชควัฒนา” ทายาทประธานเครือสหพัฒน์ “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” มองแนวโน้มธุรกิจร้านทองเติบโต ลุยเปิด “ห้างทองกลมเกลียว” ประเดิมสาขาแรกที่หน้าบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซอยสาธุประดิษฐ์ 58 ซึ่งเป็นฐานทัพใหญ่ของเครือสหพัฒน์ ตั้งเป้าเป็นร้านทองของคนในชุมชน ที่ให้บริการซื้อ ขาย แลก เปลี่ยน ทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง รวมถึงขายฝาก และเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยเป็นเจ้าของทอง ด้วยบริการออมทองเพียง 100 บาทต่อเดือน เตรียมขยายสาขาเพิ่มในย่านสาธุประดิษฐ์ – พระราม 3 อีก 3 สาขา

นายฐิติภูมิ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเค ไพรเมรี่ จำกัด กล่าวว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ประเภทสินทรัพย์ปลอดภัย คนส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อเพื่อเก็บออมหรือลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูง เช่น เงินเฟ้อ เงินฝืด หรือเกิดวิกฤตต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจร้านทองมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งตนเองมีความสนใจในธุรกิจร้านทองเป็นทุนเดิม และมีประสบการณ์จากการเปิดบริษัทรับทำบัญชีและวางแผนภาษีให้กับร้านทองทั่วประเทศ จึงได้เปิด บริษัท ทีเค ไพรเมรี่ จำกัด ขึ้น เพื่อดำเนินธุรกิจ “ห้างทองกลมเกลียว” โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านทองมาเสริมทัพด้วย

“ที่มาของชื่อห้างทองกลมเกลียว ส่วนหนึ่งมาจากคำว่าเครือสหพัฒน์ ซึ่ง “สห” หมายถึงการร่วมกันที่ต้องมีความกลมเกลียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตระกูลโชควัฒนายึดมั่น อีกส่วนหนึ่งมาจากความต้องการให้ทีมงานของห้างทองของเรามีความสามัคคีกัน และต้องการให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนบ้านที่มีความกลมเกลียวกัน มีความใส่ใจที่จะมอบสินค้าและบริการที่ดีให้กับชุมชนรอบข้าง” นายฐิติภูมิ กล่าว

สำหรับห้างทองกลมเกลียวสาขาแรก เปิดให้บริการเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเกินเป้าหมาย โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 58 และบริเวณใกล้เคียง ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักชื่อเสียงของเครือสหพัฒน์ จึงมั่นใจที่จะมาใช้บริการ

นายฐิติภูมิ กล่าวว่า ทองคำเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง การทำธุรกิจร้านทองจึงต้องได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ยิ่งร้านทองที่มีบริการออมทองยิ่งต้องได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากขึ้น การที่ทายาทเครือสหพัฒน์มาเปิดร้านทอง จึงทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นที่จะมาใช้บริการ นอกจากนี้ การที่ห้างทองกลมเกลียวเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยเป็นเจ้าของทองง่ายขึ้นด้วยบริการออมทองเพียง 100 บาทต่อครั้ง ขั้นต่ำเดือนละครั้ง ก็ยิ่งทำให้มีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก

โดยบริการออมทองของห้างทองกลมเกลียว จะให้ลูกค้าสะสมเงินจนครบตามราคาทองที่ลูกค้าต้องการ เมื่อครบแล้วสามารถแจ้งให้แปลงมูลค่าเงินเป็นน้ำหนักทอง ณ วันที่ตัดออม และรับทองได้ทันที

“การตอบรับที่ดีจากสาขาแรก ทำให้เราวางแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 สาขาในปี 2566 และเปิดอีก 2 สาขาในปี 2567 โดยจะยึดทำเลย่านสาธุประดิษฐ์ – พระราม 3 เป็นหลัก นอกจากนี้ เรากำลังพัฒนาแอปพลิเคชันที่เป็นเครื่องมือให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น โดยลูกค้าที่ออมทองสามารถดูประวัติการออม และจำนวนเงินที่สะสมได้ และเฟสต่อไปจะพัฒนาแอปให้ลูกค้าสามารถแปลงเงินออมเป็นน้ำหนักทองได้ด้วยตนเอง รวมทั้งซื้อ ขาย หรือจองทอง ผ่านแอปได้ด้วย โดยจะเปิดใช้งานปลายเดือนมิถุนายนนี้” นายฐิติภูมิ กล่าว