วันเสาร์, เมษายน 20, 2024
Home > Cover Story > วิยะดา ศรีนาคนันทน์ ผู้นำหญิงแห่ง 3เอ็ม จากนักกฎหมายสู่ผู้บริหาร

วิยะดา ศรีนาคนันทน์ ผู้นำหญิงแห่ง 3เอ็ม จากนักกฎหมายสู่ผู้บริหาร

“พลังของ 3เอ็มเริ่มมาจากเราเป็นบริษัทที่ดำเนินการอย่างมีเป้าหมาย” หนึ่งในแนวคิดการทำงานของ วิยะดา ศรีนาคนันทน์ ประธานบริหาร บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด

ปัจจุบันความแตกต่างทางเพศคงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรอย่าง 3เอ็ม ที่มีวัฒนธรรมองค์กรเป็นเครื่องหนุนนำการทำงานในทุกระนาบ ทั้งการยอมรับในความหลากหลาย ความแตกต่าง ที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่า วิยะดา ศรีนาคนันทน์ จะไม่ใช่ผู้นำหญิงคนแรกของ 3เอ็ม ประเทศไทย เพราะผู้ดำรงตำแหน่งคนแรกคือ นภาพร รัตนแสงหิรัญ กรรมการผู้จัดการบริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย แต่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการถูกยกเลิกไปตามโครงสร้างใหม่ที่ 3เอ็มทั่วโลกจัดทำขึ้นเมื่อปี 2563 และปรับเปลี่ยนเป็น ประธานบริหาร หรือ Country Leaders

วิยะดา ศรีนาคนันทน์ ร่วมงานกับ 3เอ็ม ประเทศไทย มาตั้งแต่ปี 2559 ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย คณะกรรมการบริหาร นอกจากภาระหน้าที่หลักเกี่ยวกับกฎหมายในบริษัทแล้ว วิยะดายังมีโอกาสได้ทำงานด้านอื่นในบริษัท 3เอ็ม ด้วย เช่น ประธานผู้นำสตรี ประธานเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร

กระทั่งก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายหญิงของ 3เอ็ม ที่หลายคนอาจมองว่าพลิกบทบาทไม่น้อย แต่วิยะดามองว่า การทำงานด้านกฎหมายและงานด้านอื่นๆ ช่วยให้มีมุมมองที่กว้างมากกว่าแค่งานด้านกฎหมายเพียงอย่างเดียว

“ด้วยพื้นฐานที่ทำงานด้านกฎหมายมาโดยตลอด แต่ก็ชอบทำงานอื่นด้วย เช่น งานฟอรัมผู้นำสตรี งานด้าน E&I แม้ว่ากิจกรรมตรงนั้นจะเป็นกิจกรรมของพนักงาน แต่เรานำมาต่อยอดได้ พอมารับตำแหน่งนี้ใหม่ๆ ด้วยความที่เราทำกิจกรรมพวกนั้นมา เป็นภาพใหญ่ ทำให้มุมมองของเราอยู่นอกเหนือกฎหมาย เลยสามารถมองเป็นภาพใหญ่ได้”

นอกจากการพลิกบทบาทจากนักกฎหมายมาสู่ผู้บริหารระดับสูงที่มีความท้าทายอยู่ไม่น้อย ห้วงยามที่วิยะดาก้าวขึ้นมากุมบังเหียนของ 3เอ็มนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เมื่อในเวลาที่ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริหารนั้น เป็นช่วงที่ทั่วโลกกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตโควิด ที่ส่งผลกระทบเป็นระลอกคลื่นต่อเศรษฐกิจในทุกระดับ วิถีชีวิตของประชาชน วิกฤตในครั้งนั้นถือเป็นเรื่องใหม่ ที่ยากจะรับมือได้

ทว่า วิยะดาใช้สติและประสบการณ์การทำงานที่นอกเหนือจากงานด้านกฎหมายมาใช้ให้เกิดประโยชน์ “การทำกิจกรรมต่างๆ ที่นอกจากงานด้านกฎหมาย มีผลให้ในช่วงที่มีโควิดเรารับมือได้ดี คือ สถานการณ์โควิด ความปลอดภัยของพนักงานต้องมาก่อน พร้อมกับที่ธุรกิจจะต้องดำเนินต่อไป ในเวลานั้นเราตัดสินใจให้พนักงานทำงานที่บ้าน อุปสรรคที่เกิดขึ้นคือ เรื่องการขนส่งทั้งภายในและต่างประเทศ ทำให้มีปัญหาเรื่อง Supply Chain ตามมา และด้วยความที่สินค้าของเราเป็นปัจจัยในการช่วยเหลือทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

“เชื่อว่าเวลาที่ทุกคนเจออะไรใหม่ๆ เช่น สถานการณ์โรคอุบัติใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิด ทุกคนย่อมมีความกลัว ตื่นตระหนกเป็นธรรมดา รวมถึงตัวดิฉันเองด้วย แต่สิ่งที่ช่วยให้ดิฉันสามารถบริหารจัดการ ดูแลพนักงานได้ดีคือ การตั้งสติ พอตั้งสติได้เราจะรู้ว่า เราสามารถบริหารจัดการได้ อะไรสำคัญที่สุด และเราจะทำอย่างไรเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น ฉะนั้นสติมาปัญญาเกิด นี่คือวิธีที่ดิฉันจัดการบริหารค่ะ”

ดูเหมือนว่า แนวคิดในการทำงานของวิยะดา ศรีนาคนันทน์ นอกจากการนำประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ มาประยุกต์ใช้แล้ว การตั้งสติเพื่อรับมือกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญ อีกสิ่งหนึ่งคือ “วัฒนธรรมองค์กร” ที่ไม่ใช่เพียงแค่ระดับผู้บริหารจะให้ความสำคัญ แต่ยังถ่ายทอดและแทรกซึมไปสู่พนักงานในทุกระดับชั้นก็ว่าได้

3เอ็ม ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกสายงาน เพื่อสร้างสถานที่ทำงานที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ การเติบโต และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของบุคลากร 3เอ็ม ได้ปลูกฝังจิตอาสาให้กับบุคลากร เพื่อนำความรู้และความเชี่ยวชาญมาสร้างประโยชน์สูงสุดแก่สังคม

วิยะดาย้ำกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ว่า “อีกสิ่งหนึ่งคือ วัฒนธรรมองค์กร ลูกค้าคือหัวใจสำคัญ เราต้องเน้นการฟังเสียงของลูกค้า ในเรื่องของ Power by inclusion ขับเคลื่อนด้วยพลังของพนักงาน การทำงานด้วยกันเป็นทีม ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ถูกต้อง ในองค์ประกอบวัฒนธรรมขององค์กรของ 3เอ็ม เป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ เป้าหมายและวัฒนธรรมขององค์กรเป็นสิ่งที่นำทางให้พนักงาน ให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุข และบริษัทเราจะเติบโตอย่างมั่นคง”

ลูกค้า และพนักงาน เป็นสิ่งที่ 3เอ็มให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะการทำงานของพนักงานในช่วงวิกฤตโควิด 3เอ็ม ปรับเปลี่ยนนับตั้งแต่โควิดเป็นต้นมา ภายใต้โมเดลที่มีชื่อว่า Work Your Way เพื่อสร้างความสมดุล และเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้มากขึ้น และยังคงปรับใช้ต่อจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งมีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ การทำงานที่ออฟฟิศ (Onsite) การทำงานแบบผสม (Hybrid) และการทำงานแบบทางไกล (Remote) เพื่อสนับสนุนการมีสุขภาวะดีของบุคลากร ซึ่งพลังจากบุคลากรจะช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคง

รูปแบบที่ยืดหยุ่นนี้ช่วยให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นโมเดลที่เกิดจากความไว้วางใจ ว่าพนักงานในทุกระดับจะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย “แต่นโยบายการทำงานของ 3เอ็ม ยังคงใช้ Work Your Way และพนักงานส่วนใหญ่จะเลือกรูปแบบ Hybrid ตัวดิฉันเองก็เลือกรูปแบบนี้ เวลาทำงานที่บ้านตอนกลางวันก็ออกกำลังกาย โมเดลนี้มาจากความไว้เนื้อเชื่อใจ บางครั้งพนักงานก็จะแจ้งมาว่า ขอไปรับลูกก่อน แล้วจะโทรกลับ ซึ่งหากยังทำงานในโลกแบบเก่า อาจทำให้พนักงานรู้สึกว่าขาดความยืดหยุ่นในการดูแลชีวิตส่วนตัว แต่ตอนนี้เขาสามารถพูดได้อย่างสบายใจ เช่น ขอตัวไปทำธุระ เรารู้ว่าเขารับผิดชอบ และจะมาชดเชยเวลาทำงาน”

3เอ็ม ได้รับการยกย่องให้เป็นบริษัทที่มีจริยธรรมสูงที่สุดในโลก โดยสถาบัน Ethisphere (สถาบันชั้นนำระดับโลกด้านการวัดและประเมินมาตรฐานจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ) เป็นปีที่ 9

“เป็นเรื่องที่ดีใจมากเวลาที่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะเป็น Best Practice ในการที่เราได้รางวัล ไม่ใช่แค่เพราะเรามีจรรยาบรรณในการทำธุรกิจอย่างเดียว แต่ในทุกๆ วันเรามีการให้ความรู้แก่พนักงาน ต้อง Do the right thing ทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น เราปลูกฝังให้กับพนักงาน มีการฝึกอบรมทุกเดือน ด้วยการทำออนไลน์ Training ซึ่งไม่ได้จบแค่การอบรม แต่ยังมีแบบฝึกหัด ข้อสอบที่ทุกคนต้องผ่านด้วย นอกจากนี้ยังมี case scenario ซึ่งหัวหน้างานจะแชร์ประสบการณ์ให้กับทีมของเขาเอง เพื่อที่จะได้มีความรู้ ระมัดระวัง

นอกจากนี้ 3เอ็ม ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกาในเรื่องการต่อต้านการทุจริต เช่น การบริจาคสิ่งของ หรือให้ของขวัญใคร เรามีระเบียบภายในที่ค่อนข้างรัดกุมมาก ว่าเราให้ไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร เราจะให้โดยที่ต้องไม่มีวัตถุประสงค์ที่มิชอบแอบแฝง

ดังนั้นการที่เราได้รางวัลนี้มาจากมาตรการที่หลากหลาย ให้ความสำคัญเป็น Tone from the Top และ Leaders ของเราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่พนักงาน”

3เอ็ม ก่อตั้งมานานกว่า 120 ปี และ 3เอ็ม ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจมา 55 ปี การถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กร ดูจะเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของ 3เอ็ม ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนทำงาน

วิยะดา ศรีนาคนันทน์ ทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า “พลังของ 3เอ็ม เริ่มมาจาก เราเป็นบริษัทที่ดำเนินการอย่างมีเป้าหมาย ต้องบอกว่า ในแต่ละวันเราจะไปถึงจุดจุดนั้นได้อย่างไร ในการทำงานพอเรามีเป้าหมาย เราต้องสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า ให้กับโลกใบนี้ ทำให้แต่ละวันเราต้องตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด นี่เป็นเคล็บลับอย่างหนึ่งในการทำงานต่อๆ ไป”.