ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย หนุนภาคธุรกิจไทยปรับทิศทางรับมือความเปลี่ยนแปลงในโลกยุคหลังโควิด-19 พร้อมชูสององค์กรจากวงการโทรคมนาคมและภาคการศึกษาที่นำเทคโนโลยีมาผสานกับแนวทางการปฏิบัติงานอย่างลงตัว เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ยังเดินหน้า แม้ในสภาพการณ์ปัจจุบัน
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์ที่ทุกคนและทุกองค์กรทั่วโลกต่างต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ นับเป็นบทพิสูจน์ถึงศักยภาพในการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนในการรับมือกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง โดยทุกองค์กรต้องหันกลับมาตั้งคำถามว่า ‘เรามีเครื่องมือที่พร้อมให้พนักงานเดินหน้าทำงานต่อไปได้หรือยัง?’
“สำหรับไมโครซอฟท์เอง เรามีเทคโนโลยีที่พร้อมสนับสนุนให้พนักงานรับมือกับเหตุฉุกเฉินและปรับรูปแบบการทำงานได้อย่างคล่องตัวอยู่แล้ว แต่ความท้าทายประการสำคัญที่เรายังต้องเผชิญ คือการเดินหน้าแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไปของลูกค้าแต่ละรายนั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีอย่างเดียวอาจไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคในส่วนนี้ได้ เนื่องจากความเข้าใจในความต้องการของคนทำงานในฐานะเพื่อนมนุษย์ก็เป้นองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค”
เอไอเอสยืนหยัดเคียงข้างชีวิตยุคดิจิทัล เน้นย้ำความสำคัญของการเตรียมพร้อม เพื่อสร้างความยืดหยุ่นทั่วทั้งธุรกิจ พร้อมส่งมอบบริการให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
ในฐานะผู้นำ Digital Life Service Provider อันดับหนึ่งของประเทศไทย เอไอเอสมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงทุกคนและทุกองค์กรทั่วไทยให้ยังสามารถเข้าถึงกันและกันได้ ในสภาวะที่การเดินทางมาพบปะกันไม่สามารถทำได้เช่นเดิม ด้วยเหตุนี้เอง การเสริมความยืดหยุ่นเพื่อให้ธุรกิจของเอไอเอสยังเดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น ควบคู่กับความปลอดภัยในชีวิตพนักงาน จึงเป็นสิ่งที่เอไอเอสให้ความสำคัญมาเป็นลำดับแรก
เอไอเอสได้ตัดสินใจประกาศนโยบายให้พนักงานกว่า 12,000 คน ทำงานจากที่บ้านในวันที่ 21 มีนาคม และเลือกใช้โปรแกรมสื่อสารอัจฉริยะ ไมโครซอฟท์ ทีมส์ (Microsoft Teams) แพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์กลางของการทำงานร่วมกันในโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Office 365
AISCOVID-19Microsoftมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เอไอเอสโควิด-19ไมโครซอฟท์ Read More