อาหารคลายร้อน
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนเมษายน กำลังแจ้งเตือนให้ได้ตระหนักว่าการมาถึงของฤดูร้อนในประเทศไทยได้เคลื่อนเข้ามาให้ได้สัมผัสแล้ว ควบคู่กับความร้อนระอุของแสงแดดจัดจ้าและลมแล้งที่รุนแรงหนักหน่วง การมาถึงของฤดูร้อนเช่นว่านี้ ทำให้หลายๆ คนคงนึกถึงอาหารคลายร้อน ซึ่งในแต่ละวัฒนธรรมก็คงมีความหลากหลายแตกต่างกันออกไป เพราะหากเป็นวัฒนธรรมตะวันตกซุ้มขายไอศกรีม ตามหัวมุมถนนคงเป็นแหล่งรวมพลของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ต้องการสัมผัสความหวานเย็นและดับกระหายคลายความร้อนที่เผชิญ ขณะที่ในญี่ปุ่นและภาคพื้นตะวันออกไกล บะหมี่เย็นอาจเป็นคำตอบ ที่นอกจากจะให้ความชุ่มคอชื่นใจแล้ว ยังอิ่มท้องไปในคราวเดียวกันด้วย สำรับอาหารของไทยที่อุดมด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และดูจะมีความหลากหลายให้ได้เลือกเสพเลือกรับประทานสำหรับดับกระหายคลายความร้อน ต่อสู้กับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงร้อนแรงนี้ไม่ด้อยไปกว่ากัน แม้ว่าเมนูอาหารสำรับไทยบางสำรับจะดูไกลตัวออกไปหรือถูกค่อนว่าเป็นเมนูโบราณ แต่ทุกสำรับไทยกลับเป็นเมนูที่มีภูมิปัญญาชาญฉลาดแฝงอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะรับประทานดับร้อน ยังลดอาการร้อนในได้ด้วย สำรับอาหารไทยซึ่งถือเสมือนหนึ่งเป็นตัวแทนแห่งการมาถึงของฤดูร้อนสำรับแรก คงหนีไม่พ้น “ข้าวแช่” โดยการลิ้มชิมรสความอร่อยแบบสวยๆ สไตล์ชาววังของอาหารสำรับนี้ ปัจจุบันมีให้บริการหลายแห่ง โดยเฉพาะร้านไหนที่เป็นข้าวแช่ต้นตำรับดั้งเดิม ยิ่งเครื่องแน่น หลากหลาย อร่อยเพลินไปอีก โดยทั่วไปเครื่องเคียงข้าวแช่ จะประกอบไปด้วย ลูกกะปิทอด, พริกหยวกห่มสไบสอดไส้หมูและกุ้ง, หัวไชโป๊วผัดหวาน, หัวหอมสอดไส้ปลาแห้ง, ปลาช่อนผัดหวาน, หมูสับ-ปลากุเลาแห้งเค็ม บางร้านก็จะเพิ่มปลายี่สนผัดหวานให้ด้วย รับประทานคู่กับข้าวสวยแช่น้ำลอยดอกมะลิ ใส่น้ำแข็ง หอมเย็นชื่นใจ คลายร้อนได้ดีทีเดียว เคล็ดไม่ลับของการรับประทานข้าวแช่แบบถูกวิธี อยู่ที่การตักเครื่องเคียงเข้าปากก่อน แล้วค่อยตามด้วยข้าว และน้ำลอยดอกไม้ ไม่ควรตักเครื่องเคียงมาวางลงในชามข้าวสวย เพราะจะทำให้ข้าวแฉะไปด้วยน้ำมัน ซึ่งจะทำให้รับประทานไม่อร่อย เสียของไปอีก สำรับอาหารคลายร้อนอีกสำรับในช่วงฤดูร้อนเช่นนี้ ที่ขอแนะนำ “ขนมจีนซาวน้ำ” ซึ่งเป็นอีกสำรับที่เหมาะสำหรับรับประทานในช่วงหน้าร้อน
Read More