ฝุ่นพิษ PM 2.5 กลับมาวิกฤต!! อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและดวงตา
ช่วงนี้สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้กลับมาส่งผลกระทบต่อสุขภาพและดวงตาของประชาชนอีกครั้ง ทั้งยังเพิ่มขึ้นสูงเกินค่ามาตรฐานปกคลุมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ย่านใจกลางเมืองที่วิกฤตหนัก ซึ่งเราสามารถพบเห็นกันในรูปแบบของหมอกควัน ที่ทำเอาหลายคนกังวลใจในสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคและฝุ่นพิษที่เป็นอันตราย และเป็นภัยใกล้ตัวต่อร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม จักษุแพทย์แห่ง “แว่นท็อปเจริญ” โดย นายแพทย์นพวุฒิ ตรีพรชัยศักดิ์ จึงได้รวบรวมวิธีการดูแลสุขภาพและดวงตามาเน้นย้ำกันอีกครั้งดังนี้ “นอกจากสถานการณ์ไวรัสอันตรายที่เกิดขึ้นทั่วโลกแล้ว ฝุ่นละอองหรือฝุ่นพิษ PM2.5 ในบ้านเราก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังให้มาก โดยเฉพาะแหล่งชุมชนที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น มีปริมาณความหนาแน่นจากการเผาไหม้ไอเสียรถยนต์ มีควันจากโรงงานอุตสาหกรรมหรือการเผาขยะในพื้นที่กลางแจ้ง ฝุ่นละอองที่มีค่า PM 2.5 ในปริมาณสูง จะส่งผลทำให้ร่างกายของมนุษย์มีปฏิกิริยากับมลภาวะนี้ได้ชัดเจน ทั้งระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง โดยเฉพาะดวงตา จึงควรระมัดระวังในกลุ่มเสี่ยงทั้งวัยเด็กเล็ก ผู้สูงวัย หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจและหลอดเลือดหัวใจ หอบหืด ภูมิแพ้ ฯลฯ อาจส่งผลให้รู้สึกหายใจลำบาก แสบคันจมูก คันคอ เมื่อสูดฝุ่นเข้าไปสะสมในหลอดลมหรือปอดนานๆ จะส่งผลต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้ อาจเกิดอาการระคายเคืองหรือแสบคันตาได้ เนื่องจากฝุ่นดังกล่าวที่ลอยอยู่ในอากาศมีอนุภาคเล็กมากกว่า 2.5 ไมครอน จนเราไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ฝุ่นละอองจึงสามารถเข้าสู่ร่างกายและดวงตาได้มากกว่าฝุ่นขนาดใหญ่หลายเท่า ซึ่งมีความอันตรายต่อสุขภาพดวงตาเป็นอย่างมาก”
Read More