มอเตอร์โชว์ 2020 ภาพสะท้อนความหวังยานยนต์ไทย
ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลากหลายต้องปิดลงหรือเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมนับตั้งแต่เมื่อปลายเดือนมีนาคมก่อนที่จะมีการทยอยผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคในแต่ละระยะและการกำหนดวิถีใหม่ในการจัดกิจกรรมด้วยขั้นตอนปฏิบัติในการป้องกันและคัดกรอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งดูเหมือนว่างานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา จะผ่านเกณฑ์และเก็บรับความสำเร็จภายใต้สถานการณ์ยากลำบากของสังคมไทยไปได้ด้วยดี จำนวนยอดผู้เข้าชมงานรวมมากกว่า 1 ล้านคนในช่วงเวลาสองสัปดาห์ของการจัดงาน ในด้านหนึ่งอาจสะท้อนภาพความสนใจของผู้บริโภคที่ต้องการเลือกซื้อยานพาหนะคันใหม่ ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งบ่งชี้ว่าประชาชนซึ่งต้องห่างหายจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการตลาดจากผลของมาตรการควบคุมที่นำไปสู่การปิดเมือง มีความต้องการที่จะกลับไปใช้วิถีชีวิตที่เป็นปกติ แม้ว่าจะมีวิถีใหม่คอยกำกับก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจจากงาน มอเตอร์โชว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของยอดจองรวมที่มีสูงถึง 22,791 คัน ซึ่งแบ่งเป็นยอดจองรถยนต์รวม 18,381 คัน และรถจักรยานยนต์รวม 4,410 คัน สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคภายในประเทศยังพอจะมีกำลังซื้อเหลืออยู่บ้างท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยและผลกระทบที่กระจายอยู่ทั่วโลก ที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายก็ตาม ข้อเท็จจริงในกรณีของประเทศไทย ซึ่งแม้จะไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นจำนวนมากเหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นๆ หากแต่ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังของรัฐตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้ส่งผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดการชะลอตัว เนื่องมาจากรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่ไม่สามารถส่งออกได้ ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จนต้องมีการปรับลดเป้าหมายการผลิตจากที่เคยกำหนดไว้ในระดับ 2 ล้านคันมาเป็น 1.4 ล้านคันในช่วงก่อนหน้านี้ และลดเหลือ 1 ล้านคันในเวลาต่อมา ภายใต้บรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในสภาวะไม่เอื้ออำนวยต่อการจับจ่ายของผู้บริโภคเช่นนี้ แม้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่มาร่วมอยู่ในงานจะพยายามนำเสนอแคมเปญส่งเสริมการขายที่ดีภายในงาน แต่ผู้บริโภคก็ยังคงชะลอการตัดสินใจในการซื้อรถออกไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ามีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้บริโภค ในการตัดสินใจใช้เงินในสภาวะดังกล่าวนี้ อย่างไรก็ดี
Read More