ทุนใหญ่รุกธุรกิจสื่อทีวี ช่องทางที่จำเป็นต้องมี?
ข่าวการรุกคืบเข้ามาในธุรกิจสื่อทีวีของกลุ่มทุนใหญ่ที่มีองค์ประกอบทางธุรกิจหลากหลายไม่ว่าจะเป็นจังหวะก้าวของกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ ที่เข้าซื้อช่องอมรินทร์ 34 และช่อง GMM25 หรือการรุกของกลุ่มปราสาททองโอสถ ที่มีช่อง PPTV อยู่ในมือ ควบคู่กับการเข้าซื้อช่อง ONE จากกลุ่ม Grammy กำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของธุรกิจสื่ออย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางการล้มหายไปของผู้ประกอบการสื่อรายเดิม ที่ดูเหมือนว่านับวันจะยิ่งอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกได้ว่า “กู่ไม่กลับ” ไปโดยปริยาย การเข้าซื้อกิจการทีวีดิจิทัลของกลุ่มทุนใหญ่ ได้รับการประเมินว่าเกิดขึ้นจากเหตุที่เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ด้วยจำนวนผู้ประกอบการที่มีมากขึ้น ขณะที่การหารายได้และโฆษณากลับหดตัว จนเจ้าของธุรกิจเดิมเริ่มแบกรับภาระไม่ไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบส่วนกับรายได้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากผลของพัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่ทำให้แพลตฟอร์มในการสื่อสารกับผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ความเป็นไปของธุรกิจสื่อ ซึ่งประสบปัญหารายได้ลดลงและขาดทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กลายเป็นภาพที่เห็นได้เจนตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นในกรณีของ BEC อสมท Grammy RS รวมถึง อมรินทร์พริ้นติ้ง ซึ่งล้วนแต่มีรายได้และผลกำไรลดลง หรือจนถึงขั้นขาดทุน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลโดยเฉพาะการจ่ายค่าใบอนุญาตที่สูง ทำให้บริษัทมีปัญหาขาดสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจอย่างไม่อาจเลี่ยง ความพยายามของผู้ประกอบการสื่อที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อมั่นในความคิดที่ว่า information is power หรือ content is King กำลังถูกกระแสธารของเทคโนโลยีและพลังแห่งทุนโหมกระหน่ำ จนไม่สามารถที่จะรักษาเสถียรภาพและบทบาทนำได้อย่างที่เคยเป็นเคยมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่สถานการณ์เศรษฐกิจบีบคั้น จนทำให้บางรายเลือกที่จะปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้น หรือตัดทอนธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก
Read More