Home > การ์ทเนอร์

การ์ทเนอร์คาดสิ้นปีหน้าจะมียานยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนถึง 85 ล้านคัน

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าสิ้นปีหน้า (2568) จะมีปริมาณรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) จำนวน 85 ล้านคัน วิ่งบนท้องถนน ครอบคลุมประเภทต่าง ๆ อาทิ รถยนต์, รถบัส, รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ โจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "แม้จะมีอุปสรรคหลายอย่างส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่เรายังคาดการณ์ว่าในปีนี้ยอดรวมของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะอยู่ที่ 64 ล้านคัน และจะเพิ่มขึ้น 33% ในปี 2568 ซึ่งผลจากการที่บริษัทหลายแห่งต่างประเมินสูงเกินจริงไปว่าการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดขึ้นรวดเร็ว นั่นส่งผลให้ต้องเลื่อนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกไป โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในปีหน้านั้น หลัก ๆ มาจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นในจีน (58%) และยุโรป (24%) ซึ่งเมื่อนับรวมกันแล้วคิดเป็น 82% ของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก" การ์ทเนอร์คาดว่า สิ้นปี 2568 ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEVs) จะมีจำนวนเกือบ 62 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 35% จากปี

Read More

การ์ทเนอร์คาดการณ์ภายในสิ้นปี 2566 พนักงานที่มีทักษะความรู้ทั่วโลก 39% จะทำงานแบบ Hybrid

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปี 2566 จะมีพนักงานที่มีทักษะความรู้ทั่วโลกประมาณ 39% ทำงานแบบไฮบริด (Hybrid) เพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2565 รันจิต อัตวาล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “การทำงานไฮบริดไม่ใช่แค่การเติมไฟทำงานให้แก่พนักงาน แต่ยังเป็นความคาดหวังของพนักงานอีกด้วย ในปี 2565 มีพนักงานจำนวนมากทยอยกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ โดยที่รูปแบบการทำงานไฮบริดจะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปีนี้และอนาคต บริษัทนายจ้างควรปรับตัวโดยการนำนโยบายการทำงานที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centric Work Design) มาปรับใช้ในองค์กร รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่นและการมีส่วนร่วมในงาน และมีรูปแบบการจัดการพนักงานที่ทำงานไฮบริดอย่างเข้าอกเข้าใจ” ตัวอย่างเช่น บุคลากรไอทีมีแนวโน้มลาออกมากกว่าบุคลากรในสายงานอื่น ๆ เนื่องจากพวกเขาต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานมากขึ้น และมีสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) และมองหาโอกาสในการทำงานที่ดีขึ้น โดยผู้บริหารไอที (หรือ CIOs) สามารถเพิ่มโอกาสในการรักษาและดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะความสามารถระดับหัวกะทิได้ โดยการปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่เป็นการมอบคุณค่าแก่พนักงาน (Employee Value Proposition) ที่เข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้น การ์ทเนอร์ให้คำจำกัดความ พนักงานกลุ่ม Hybrid Workers คือผู้ที่เข้าทำงานในสำนักงานอย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ ส่วนพนักงานกลุ่ม Fully Remote

Read More

การ์ทเนอร์เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2566

การ์ทเนอร์ อิงค์ ประกาศ 10 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงที่องค์กรธุรกิจต้องจับตาและศึกษา เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในปี 2566 ฟราสซิส คารามูซิส รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “เพื่อยกระดับสถานะทางการเงินในช่วงเศรษฐกิจผันผวนขององค์กร ผู้บริหารและผู้นำด้านไอทีทั้งหลายต้องมองการณ์ไกลกว่าแค่การประหยัดต้นทุนไปสู่รูปแบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพใหม่ ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องเร่งการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์มเมชันอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ที่มาแรงในปี 2566 จะพัฒนาขึ้นมาจากสามธีมหลัก ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพ (Optimize) การปรับขยาย (Scale) และการเป็นผู้ริเริ่ม (Pioneer) ที่เทคโนโลยีสามารถช่วยองค์กรธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพความยืดหยุ่นในการดำเนินงานหรือสร้างความเชื่อมั่น พร้อมปรับขยายโซลูชันและส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความเฉพาะ และริเริ่มรูปแบบการมีส่วนร่วม การตอบสนองใหม่ ๆ ที่รวดเร็ว หรือสร้างโอกาสให้ธุรกิจได้” เดวิด กรูมบริดจ์ นักวิจัยอาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “อย่างไรก็ตามในปีหน้านี้ การส่งมอบเทคโนโลยีจะไม่เพียงพออีกต่อไป เนื่องด้วยธีมเหล่านี้ต่างได้รับผลกระทบจากความคาดหวังและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (หรือ ESG) ซึ่งหมายถึงความรับผิดชอบร่วมกันในการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน ในทุกการลงทุนทางเทคโนโลยีจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องคำนึงถึงคนรุ่นต่อ ๆ ไปในอนาคต “Sustainable by Default

Read More

การ์ทเนอร์คาดอีกสี่ปีข้างหน้า ผู้คน 25% จะใช้เวลาใน Metaverse อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง

การ์ทเนอร์คาดอีกสี่ปีข้างหน้า ผู้คน 25% จะใช้เวลาใน Metaverse อย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง การเติบโตของ Metaverse จะก่อให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่ช่วยขยายการทำธุรกิจดิจิทัล การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์ภายในปี พ.ศ. 2569 ผู้คนราว 25% ทั่วโลกจะใช้เวลาอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงไปกับการทำงาน ช้อปปิ้ง เรียนรู้ เข้าสังคมและ/หรือความบันเทิงรูปแบบต่าง ๆ ในโลก Metaverse มาร์ตี้ เรสนิค รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ กล่าวว่า “ผู้ให้บริการพร้อมสร้างแนวทางการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลให้แก่ผู้ใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การเข้าร่วมคลาสเรียนแบบเวอร์ชวลไปจนถึงการซื้อที่ดินดิจิทัลหรือสร้างบ้านเสมือนจริง แม้กิจกรรมเหล่านี้จะดำเนินอยู่ในคนละสภาพแวดล้อม แต่ท้ายที่สุดกิจกรรมทั้งหมดจะไปรวมอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวนั่นคือ Metaverse ปลายทางที่รวมเทคโนโลยีและประสบการณ์หลากหลายไว้ด้วยกัน” การ์ทเนอร์ให้นิยามของ Metaverse ว่าเป็นพื้นที่เสมือนจริงที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันมาแบ่งปันใช้ร่วมกัน โดยสร้างขึ้นจากการผสมผสานความเป็นจริงทางกายภาพและดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถเข้าถึงผ่านอุปกรณ์ชิ้นเดียวหรืออุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ตั้งแต่แท็บเล็ตจนถึงจอแสดงผลแบบสวมศีรษะ เนื่องจากไม่มีผู้ให้บริการใดที่เป็นเจ้าของ Metaverse แต่เพียงผู้เดียว การ์ทเนอร์คาดว่าจะมีรูปแบบเศรษฐกิจเสมือนจริงเกิดขึ้นและขับเคลื่อนโดยสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล (NFTs)

Read More

คาดยอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าปี 65 พุ่งแตะ 6 ล้านคัน จุดชาร์จไฟรวม 2 ล้านจุด

การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้าปี 65 พุ่งแตะ 6 ล้านคัน ในปีนี้ทั่วโลกมีจุดชาร์จไฟสาธารณะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารวม 2 ล้านจุด การ์ทเนอร์คาดการณ์ยอดจัดส่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (แบบใช้พลังงานจากแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด) ในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นเป็น 6 ล้านคัน จาก 4 ล้านคันในปี 2564 โจนาธาน ดาเวนพอร์ท ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “จากที่ประชุม COP26 เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว สมาพันธ์ Zero Emission Vehicle Transition Council มีข้อตกลงเห็นพ้องตรงกันว่า ภายในปี 2583 ผู้ผลิตรถยนต์จะเดินหน้าผลิตและจำหน่ายยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ จากที่ก่อนหน้านี้ได้กดดันให้ผู้ผลิตในตลาดรถยนต์ชั้นนำเตรียมพร้อมรับมือกับแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ กับภาคการขนส่ง ทั้งนี้ยานยนต์ไฟฟ้า (หรือ EVs) นั้นเป็นเทคโนโลยีระบบส่งกำลังที่มีความสำคัญต่อการช่วยลดการปล่อย CO2 ในภาคการขนส่ง ภาวะขาดแคลนชิปยังส่งผลกระทบต่อเนื่องกับยอดการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปีนี้ แม้สัดส่วนการจัดส่งรถยนต์พลังไฟฟ้าประเภทรถตู้ (Vans) และรถบรรทุก (Trucks) ยังมีขนาดเล็กในปัจจุบัน แต่การจัดส่งยานยนต์ในกลุ่มนี้จะเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเจ้าของกิจการเล็งเห็นถึงประโยชน์ทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและด้านการเงิน เมื่อเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า” การ์ทเนอร์คาดว่ารถยนต์

Read More

การ์ทเนอร์ เผยมูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 64 สูงแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การ์ทเนอร์ เผยมูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 64 สูงแตะ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมระบุเงินทุนสำหรับธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆ ไม่ได้มาจากไอที การ์ทเนอร์เผยแนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2564 สูงแตะ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.4% จากปี 2563 โดยแหล่งที่มาของเงินทุนเพื่อเริ่มธุรกิจดิจิทัลใหม่ๆ นั้นมาจากแผนกธุรกิจอื่นๆ นอกแผนกไอที และคิดเป็นต้นทุนการผลิตหรือต้นทุนการขาย (COGS) นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ อิงค์ กล่าวว่า “ไอทีไม่เพียงแต่ปรับโฉมรูปแบบการดำเนินงานขององค์กรไปสู่สิ่งใหม่ๆ แต่ยังมีส่วนสำคัญในการส่งมอบและเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ นอกเหนือจากการพลิกบทบาทจากการทำงานเบื้องหลังไปสู่ส่วนหน้าของธุรกิจแล้ว ไอทียังเปลี่ยนต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้กลายเป็นแหล่งเงินทุนใหม่ๆ อาทิ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ การติดตามตรวจสอบ และบางครั้งตัดต้นทุนบางอย่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้องค์กรมุ่งเน้นในสิ่งที่สร้างรายได้” การ์ทเนอร์คาดว่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทุกเซกเมนต์จะเติบโตต่อเนื่องไปถึงปี 2565 อุปกรณ์ดีไวซ์จะเติบโตสูงสุด (14%) ขณะที่ซอฟต์แวร์ระดับองค์กรเติบโต (10.8%) เนื่องจากองค์กรต่างๆ หันมาให้ความสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานระยะไกลเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ทีมงาน หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ องค์กรให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นกับทั้งประสบการณ์และความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการลงทุนด้านเทคโนโลยีในด้านต่างๆ แห่งอนาคต อาทิ โซเชียลซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มทำงานร่วมกัน และซอฟต์แวร์การบริหารทุนมนุษย์ในองค์กร

Read More

การ์ทเนอร์เผยปัญหาชิปขาดแคลนทั่วโลกจะลากยาวจนถึงไตรมาส 2 ปี 2565

การ์ทเนอร์ อิงค์ คาดการณ์ว่าปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกจะส่งผลกระทบตลอดทั้งปีนี้ และจะกลับคืนสู่ภาวะปกติช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 คานิสกัส ชัวฮาน นักวิเคราะห์หลัก ฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานและการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ ประเภทในปีนี้ ขณะที่โรงงานผลิตขึ้นราคาแผ่นเวเฟอร์ที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตชิป และมีผลต่อเนื่องไปถึงบริษัทผู้ผลิตชิปก็ขึ้นราคาตามไปด้วย” ปัญหาการขาดแคลนชิปเริ่มเกิดกับอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ก่อน อาทิ อุปกรณ์สำหรับการจัดการพลังงาน จอแสดงผล และไมโครคอนโทรลเลอร์ ที่ผลิตจากบนโหนดการทำงานแบบเดิม ๆ ของโรงงานผลิตชิปขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว ซึ่งมีวัตถุดิบจำกัด เวลานี้ปัญหาการขาดแคลนส่งผลต่อไปยังอุปกรณ์อื่นๆ และมีข้อจำกัดด้านความจุ รวมถึงขาดสารตั้งต้นในการผลิต กระบวนการเชื่อมลวดทองคำ ส่วนประกอบแบบพาสซีฟ วัสดุและการทดสอบ ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานที่กำลังเป็นปัญหานอกจากเรื่องโรงงานผลิตชิป เนื่องจากส่วนประกอบเหล่านี้เป็นสินค้าในอุตสาหกรรมโภคภัณฑ์ขั้นสูงและมีความยืดหยุ่นน้อย และส่งผลต่อความสามารถในการเพิ่มการลงทุนเชิงรุกในระยะเวลาสั้นๆ การ์ทเนอร์คาดว่าปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์แทบทุกหมวดหมู่จะกระทบต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2565 (ดูรูปภาพที่ 1) ในขณะที่ข้อจำกัดด้านปริมาณของสารตั้งต้นในการผลิตชิปอาจใช้เวลาไปถึงไตรมาส 4 ปี 2565 ภาพที่ 1. Gartner Index of Inventory Semiconductor

Read More