ความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมของทุกประเทศทั่วโลก จากสถิติขององค์การสหประชาชาติเมื่อปี 2556 พบว่า 35% ของผู้หญิงทั่วโลกเคยตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการถูกทำร้ายร่างกายหรือการถูกบังคับขืนใจจากคนรักหรือคนในครอบครัว และสูงถึงสองเท่าหรือ 70% ในประเทศเอธิโอเปีย จากสถิติยังพบอีกว่าผู้หญิงที่อยู่อาศัยในเขตชนบทในประเทศกำลังพัฒนาจะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงมากกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง ถึงแม้ว่าทุกวันนี้หลายๆ ประเทศทั่วโลกจะหันมาให้ความใส่ใจกับปัญหานี้มากขึ้น ด้วยการประกาศใช้กฎหมายต่างๆ เพื่อยุติปัญหาความรุนแรงในครอบครัว แต่ปัญหานี้ก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะลดน้อยลงเลย เมื่อมีจำนวนผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายจากคนรักมากขึ้น และมีจำนวนไม่น้อยเลยที่ถูกทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิต คำว่า Femicide ที่มีความหมายว่า ผู้หญิงที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของคนรักหรือคนในครอบครัวจึงได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหานี้ที่ต้องได้รับการแก้ไข ปัจจุบันนี้มีผู้หญิงที่ถูกฆ่าตายจากคนใกล้ตัวมากกว่า 66,000 คนต่อปี หรือมากกว่า 180 คนต่อวัน องค์การสหประชาชาติได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า มีจำนวนผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 15–45 ปี เสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกายจากคนที่รักมากกว่าจำนวนผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ไข้มาลาเรีย และอุบัติเหตุจากทางรถยนต์รวมกันซะอีก ประเทศอิตาลีเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ยังคงมีปัญหาเรื่องความรุนแรงในครอบครัวในสัดส่วนที่สูงอยู่ ในปี 2555 องค์การสหประชาชาติได้พูดถึงประเทศอิตาลีเกี่ยวกับเรื่องความรุนแรงในครอบครัวว่า เป็นรูปแบบของความรุนแรงที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดในประเทศอิตาลี เรียกได้ว่าปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นในประเทศอิตาลีนั้นแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเหมือนกับเหตุการณ์รถชนกันบนถนนในบ้านเรา ที่ประเทศอิตาลี ทุกๆ สองหรือสามวันจะมีผู้หญิงถูกฆ่าตายจากสามีหรืออดีตสามีของพวกเธอ ในปี 2556 มีผู้หญิงที่ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของคนรักถึง 130 คน กระทรวงมหาดไทยของประเทศอิตาลียังได้เปิดเผยข้อมูลสถิติที่อ้างอิงมาจาก Eures ว่า ในปี 2556
FemicideItalyอิตาลี Read More