Home > ฝรั่งเศส (Page 4)

ฟัว กราส์ มีปัญหา

 Column: From Paris อาหารจานอร่อยของฝรั่งเศสมีหลายอย่าง อร่อยจนลืมโรคภัยที่อาจถามหา อาหารจานอร่อยบางจานเป็นอาหารท้องถิ่นของภาคต่างๆ ด้วยเหตุนี้ยามไปอัลซาส (Alsace) จะขอชิม choucroute หรือที่รู้จักกันในภาษาเยอรมันว่า sauerkraut อีกทั้ง baeckeofe ต้มเนื้อสามชนิดอันมีเนื้อวัว เนื้อแกะ และเนื้อหมูต้มกับมันฝรั่ง อาจใส่หอมใหญ่และแครอตได้ด้วย ทว่าต้องเลือกร้านที่ไม่ใส่เนื้อวัวเพราะไม่กินเนื้อวัวมานานแล้ว ไหนจะ tarte flambée แผ่นแป้งบางที่มีหน้าแฮมและหอมใหญ่ใส่เนยแข็งแล้วอบ และไม่ลืมดื่มเบียร์ด้วย เพราะชาวอัลซาสนิยมดื่มเบียร์ ไปเที่ยวชายทะเลของนอร์มองดี (Normandie) ถามหาอาหารทะเลที่มาเป็นถาดและซุปปลา–soupe de poisson ไปทางใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองมาร์เซย (Marseille) ไม่ลืม bouillabaisse ซุปปลาหลายชนิดที่ใส่หอยแมลงภู่ด้วย ถ้าไปเที่ยวถิ่นภูเขาแถบซาวัว (Savoie) ก็ต้องชิม tartiflette เนยแข็ง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนยแข็ง reblochon) ผัดกับมันฝรั่ง หอมใหญ่และหมูสามชั้นหมักเกลือที่เรียกว่า lardon และไส้กรอก อาหารจานเด่นของภาคตะวันตกเฉียงใต้คือเป็ดต้มเค็ม–confit de canard และที่ขาดไม่ได้คือฟัว กราส์ foie gras  อันที่จริง

Read More

นิทรรศการโจเซฟีน

 คอลัมน์ From Paris นโปเลอง (Napoléon) เป็นตัวละครในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสที่มีคนพูดถึงมากคนหนึ่งก็ว่าได้ จากนายทหารเล็กๆ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพในการสงคราม แล้วเป็นผู้นำโดยเรียกว่า Premier Consul ต่อมาได้ปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิ (Empereur) เริ่มต้นยุคจักรวรรดิที่ 1 (Premier Empire) ของฝรั่งเศส เรื่องราวของนโปเลองขาดสีสันหากไม่มีผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้อง และผู้หญิงที่เต็มไปด้วยสีสันคนนั้นคือโจเซฟีน (Joséphine) โจเซฟีนเป็นสาวชาวเกาะมาร์ตินิค (Martinique) เกิดในปี 1763 ครอบครัวร่ำรวย มีไร่อ้อยและข้าทาสมากมาย เคยมีหมอดูทำนายว่าเธอจะแต่งงานสองครั้ง ครั้งแรกกับชายที่จะนำเธอไปฝรั่งเศสและจะตายอย่างน่าเวทนา เขาและเธอจะมีลูกสองคน ครั้งที่สองจะแต่งงานกับคนที่ไม่เป็นที่รู้จักและยากจน แต่ในภายหลังจะประสบความรุ่งเรือง โลกจะมาสวามิภักดิ์ เขาจะนำพาเธอไปสู่ตำแหน่งสูงสุดที่ยิ่งใหญ่กว่าตำแหน่งราชินี  อเล็กซองดร์ เดอ โบอาร์เนส์ (Alexandre de Beauharnais) จะต้องแต่งงานกับสาวหนึ่ง แต่เธอเสียชีวิตเสียก่อน จึงมาจับคู่กับมารี โจแซฟ โรส ตาเชร์ เดอ ลา ปาเจอรี (Marie Josèphe Tascher de la

Read More

ธุรกิจร้านอาหาร

 คอลัมน์ From Paris ไปถนนไหนก็เห็นแต่ร้านอาหาร Chez Clément สัญลักษณ์ของร้านอยู่ที่หม้อไหกระทะทองแดงที่แขวนแต่งหน้าร้าน ขณะมองหาร้านอาหาร ชี้ชวนเพื่อนว่าไปร้าน Chez Clément ละกัน มีอาหารประจำวันที่น่าสนใจด้วย เพื่อนผู้มีรสนิยมวิไลบอกว่า เป็นเชนร้านอาหาร ไม่น่าจะอร่อย ทว่าเคยไปกินกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง ไม่พบว่า Chez Clément กินไม่ได้ Hippopotamus เป็นอีกร้านหนึ่งที่เห็นบ่อยๆ ก็เป็นเชนร้านอาหารเช่นกัน ถนัดเรื่องเนื้อปิ้งๆ ย่างๆ ได้กินครั้งแรกที่สนามบินชาร์ลส์-เดอ-โกล-ร็วสซี (Charles-de-Gaulle-Roissy) ระหว่างรอเวลาขึ้นเครื่อง ทว่าไม่ถูกใจนัก เพราะมีแต่เนื้อนั่นแหละ สั่งได้แต่สลัดผักเพราะเดี๋ยวก็ได้กินอาหารบนเครื่องแล้ว ได้กิน Hippopotamus อย่างเป็นเรื่องราวเมื่อไปเที่ยวต่างจังหวัด และแวะรับประทานอาหารระหว่างทาง  Groupe Flo เป็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร มีเชนร้านอาหารในครอบครองหลายยี่ห้อ นอกจาก Hippopotamus แล้ว ยังมี Bistro Romain, Tablapizza, Brasseries Flo, Taverne de Maître Kanter

Read More

Monuments men

Monuments men ภาพยนตร์ของจอร์จ คลูนีย์ สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกันของโรเบิร์ต เอม เอดเซล (Robert M. Edsel) ที่พิมพ์ในปี 2009 Monuments men เป็นกลุ่มที่นายพลไอเซนฮาวร์ (Eisenhauer) ตั้งขึ้นเพื่อค้นหางานศิลป์ที่พวกนาซียึดไปจากพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อาร์ตแกลเลอรีและครอบครัวชาวยิว เมื่อเยอรมันยึดครองฝรั่งเศส ก็ได้ “ปล้น” ทรัพยากรของฝรั่งเศส รวมทั้งงานศิลป์ด้วย ฮิตเลอร์เองนั้นอยากเป็นจิตรกร แต่ความสามารถไม่ถึง จึงได้แต่ชื่นชมงานศิลป์อยู่ห่างๆ ในปี 1939 ฮิตเลอร์สั่งให้สร้างพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวที่เมืองลินซ์ (Linz) ในออสเตรีย ทว่าสงครามทำให้โครงการไม่แล้วเสร็จ ฮิตเลอร์เตรียมการไว้ล่วงหน้าไว้แล้วว่าหากยึดอัมสเตอร์ดัม บรัสเซลส์ และปารีสแล้ว จะฉกฉวยงานศิลป์ชิ้นใดบ้าง โดยเขาทำรายการไว้  อย่างไรก็ตาม ทุกประเทศที่มองเห็นมหันตภัยของนาซี พลันที่มีการประกาศสงครามในปี 1939 ในฝรั่งเศสได้มีการโยกย้ายงานศิลป์ชิ้นสำคัญๆ ไปเก็บซ่อนไว้ตามพิพิธภัณฑ์ในต่างจังหวัดหรือตามปราสาทของเอกชนในภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงใต้ การโยกย้ายนั้นเต็มไปด้วยความยากลำยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นงานศิลป์ขนาดใหญ่  พลันที่ฝรั่งเศสลงนามยอมแพ้เยอรมันในเดือนกรกฎาคม 1940 การปล้นงานศิลป์ก็เริ่มขึ้น จากการยึดพิพิธภัณฑ์รัฐมาเป็นฉกฉวยจากพ่อค้างานศิลป์และเอกชนที่เป็นชาวยิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกอัครราชทูตเยอรมันที่กรุงปารีสทำบัญชีรายชื่อผู้ที่น่าจะเป็นเป้าหมายแรกๆ เช่น ครอบครัว

Read More

100 ปีรถประจำทางกรุงปารีส

RATP (Régie autonome des transports parisiens) เป็นองค์กรขนส่งมวลชนกรุงปารีส หากดูแลทั้งรถประจำทางในเมืองหลวงและชานเมือง รถไฟใต้ดินที่เรียกว่า métro และรถไฟที่วิ่งระหว่างปารีสและชานกรุงที่เรียกว่า RER รถประจำทางที่ใช้ส่วนใหญ่มีความยาว 12เมตร และที่มีความยาวพิเศษ 18 เมตรมีประมาณ 100 คันอย่างไรก็ตาม มีรถประจำทางขนาดเล็กเพื่อวิ่งในถนนสายเล็กๆ แคบๆ ดังกรณีสาย Montmartrobus ซึ่งวิ่งในย่านมงต์มาร์ทร์ (Montmartre) รถประจำทางที่ใช้เครื่องยนต์ของกรุงปารีสกำเนิดวันที่ 10 มิถุนายน 1906 จึงมีอายุครบ 100 ปีในปี 2006ในโอกาสนี้ RATP จัดงานรำลึกที่หน้าอาคารเทศบาลเขต 18 (18ème arrodissement ) ของกรุงปารีส ผู้ชมอาจได้รับแจก “หนังสือพิมพ์” ซึ่งผู้โดยสารในครั้งนั้นอาจนำไปอ่านบนรถประจำทาง รถประจำทางสายแรก AM วิ่งระหว่างมงต์มาร์ทร์ (Montmartre) และแซงต์-แจร์แมง-เดส์-แพรส์ (Saint-Germain-des-Prés) เป็นระยะทาง 5.8 กิโลเมตร ในวันนั้น

Read More