เลาะริมตลิ่งเจ้าพระยา แลนด์แบงก์สู่คอมมูนิตี้มอลล์
ย้อนหลังไปราว 6-7 ปีที่แล้ว การเดินทางจากจังหวัดนนทบุรีมายังกรุงเทพฯ เส้นทางทางน้ำถือเป็นเส้นทางที่กำหนดเวลาได้แน่นอนกว่าทางบก ที่ต้องเสี่ยงเจอกับปัญหาการจราจรติดขัด หรือมลพิษจากไอเสียรถ เรือด่วนเจ้าพระยาคือหนึ่งในตัวเลือกอันดับแรกที่แม้จะไม่รวดเร็วเท่าพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และล้อยาง แต่เสน่ห์สองข้างทางริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ชวนมองตลอดเส้นทาง ช่วยลดความน่าเบื่อในการเดินทางลงได้เยอะ บ้านเรือนไม้ริมน้ำสีขาว สีฟ้า ที่ยกพื้นสูงเพื่อป้องกันน้ำท่วมเวลาที่ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และวิถีชีวิตผู้คนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่นั่งทำกิจวัตรประจำวันกันนอกชาน ยิ่งเชิญชวนให้อยากจะเข้าไปสัมผัสประสบการณ์หรือมีบ้านริมน้ำกับเขาบ้าง ทิวทัศน์ริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งไม่ทำให้อารมณ์ครึ้มใจจางลงได้เลยแม้จะถูกน้ำกระเซ็นใส่หน้ายามที่เรือกระทบคลื่นที่เกิดจากเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นสวนไป ปัจจุบันการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากทั้งกลุ่มทุนทั้งในและนอกประเทศ ทั้งทุนใหญ่ทุนเล็ก จะส่งผลให้วิวทิวทัศน์ริมตลิ่งเจ้าพระยาเปลี่ยนแปลงไปบ้าง บางพื้นที่จะเปลี่ยนแปลงจากบ้านไม้ไปสู่อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ในบางพื้นที่ถึงจะมีการพัฒนาแต่ก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะรักษาสไตล์เดิมๆ เอาไว้ การแข่งขันเพื่อแย่งชิงพื้นที่ริมแม่น้ำขนาดใหญ่ นอกจากทุนที่หนาแล้วยังอาจจะต้องอาศัยโครงข่ายทางธุรกิจในการดำเนินการ และเมื่อสู้ราคาที่ดินไม่ไหว ทำให้ต้องมองย้อนกลับมายังพื้นที่ริมน้ำขนาดเล็กที่เป็นแลนด์แบงก์ดูจะเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่ไม่น้อย เมื่อทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยาอย่าง ณัฐปรี พิชัยรณรงค์สงคราม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุภัทราเรียลเอสเตท จะปั้นท่ามหาราชที่เดิมทีเป็นท่าเรือเอกชนรายเดียวบนเกาะรัตนโกสินทร์ ให้กลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่ชื่อว่า “ท่ามหาราช” บนเนื้อที่ 3 ไร่ของโครงการนี้ ถูกออกแบบในสไตล์โคโลเนียลฟิวชั่น แบ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น จำนวน 7 อาคารและจับเอาไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่มีความผูกพันกับสายน้ำมาใส่เอาไว้ในตลาดติดแอร์แห่งนี้ ตั้งแต่ร้านอาหารเครื่องดื่ม แฟชั่นและความงาม ตลาดพระ มวยไทย พื้นที่สำหรับจัดแสดงงานศิลปะ
Read More