คนนอก-มืออาชีพ-Nobody ชื่อ พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ
ตลอด 80 ปี ที่บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจเครื่องดื่มน้ำเมามาอย่างยาวนาน เป็นที่รู้กันว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นเป็นเพราะการบริหารงานของคนในตระกูลภิรมย์ภักดี สืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงทายาทรุ่นที่ 4 กระทั่งมีแนวนโยบายใหม่ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนอน-แอลกอฮอลล์ หลังจากสภาพของตลาดเครื่องแอลกอฮอล์ในประเทศซบเซาลง ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับสุขภาพตัวเองมากขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่สิงห์ไม่อาจปล่อยผ่านอย่างไม่สนใจได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทุกตัวจะประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค กระนั้นถึงแม้ผลิตภัณฑ์บางตัวจะไปไม่รอดแต่ก็ยังอยู่ภายใต้การบริหารของสิงห์เอง อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนผ่านเจนเนอเรชั่นของสิงห์มาสู่รุ่นที่ 4 ทำให้รูปแบบการบริหารงานในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่คนในตระกูลภิรมย์ภักดีเช่นเดิม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของวงการธุรกิจที่มักมีการดึงตัวผู้บริหารระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์เข้ามาบริหารงาน เพราะคาดหวังในประสบการณ์ที่ติดตัวมาน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ที่หมายถึงผลกำไรที่จะตามมาต่อธุรกิจ แต่ความเป็นมืออาชีพอาจทำให้ภาพลักษณ์ของตระกูลภิรมย์ภักดีถูกบดบังบนพื้นที่ของหน้าสื่อธุรกิจ ถ้าเช่นนั้นหากใครคนนั้นจะเป็นแค่ Nobody ที่จะทำให้ภาพลักษณ์ไม่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาทายาทสิงห์ อาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า ล่าสุดเมื่อตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท บุญรอดฟาร์ม จำกัด เป็นบุคคลที่ไม่ได้มีนามสกุล “ภิรมย์ภักดี” ต่อท้าย แต่ป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการการตลาดในประเทศของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อย่าง พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าใหม่ในวงการธุรกิจไทย คนนอกที่เพิ่งมาใหม่อย่างพงษ์รัตน์อาจนำประสบการณ์ด้านการตลาดที่เคยทำงานร่วมกับ ททท. มาใช้ซึ่งดูจะเอื้อประโยชน์ต่อบุญรอดฟาร์มเชียงราย หรือปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สิงห์ ปาร์ค เชียงราย ที่สิงห์พัฒนาขึ้นเพื่อหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตรเชิงนิเวศแห่งใหม่ อีกทั้งเป้าประสงค์ที่หวังจะต่อยอดธุรกิจในเชิงอุตสาหกรรมทางการเกษตร ภายใต้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “บุญรอดฟาร์ม” แต่ความท้าทายที่พงษ์รัตน์ต้องเจอคงไม่ใช่เพียงแค่การบริหารจัดการพื้นที่กว่า 8,600 ไร่ ของสิงห์ ปาร์ค ที่มีแผนจะพัฒนาโครงการพูล วิลล่า จำนวน 20 หลัง
Read More