Home > manager360 (Page 326)

โรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี เตรียมเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้

ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการโรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี ประเทศเคนยา หลังจากปิดชั่วคราวช่วงเหตุการณ์ก่อความไม่สงบในบริเวณ 14 รีเวอร์ไซด์ คอมเพล็กซ์ เมื่อไม่นานมานี้ โดยคาดว่าการปรับปรุงจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2562 โรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี ตั้งอยู่บริเวณ 14 รีเวอร์ไซด์ คอมเพล็กซ์ ในย่านเวสต์แลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งธุรกิจและศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ เป็นที่ตั้งของสำนักงานต่างประเทศ ร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562 คอมเพล็กซ์ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อความไม่สงบ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 21 คน ซึ่งนับรวมถึงพนักงานประจำของโรงแรม 4 คน และพนักงานชั่วคราว 2 คน โดยลูกค้าของโรงแรมทุกคนปลอดภัยและไม่ถูกทำร้ายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ 14 รีเวอร์ไซด์ คอมเพล็กซ์ ได้กลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้งในวันที่ 28 มกราคม 2562 ด้วยความร่วมมือของผู้เช่าและเจ้าของธุรกิจที่ช่วยกันปรับปรุงพื้นที่ให้สวยงามเหมือนเดิม อีกทั้งยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการรับรองในระดับสากลที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพระบบที่คอมเพล็กซ์มีอยู่แล้ว โรงแรมดุสิตดีทู ไนโรบี เปิดให้บริการครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2557 นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีมาตรฐานในระดับสากลพร้อมการบริการที่ดีเยี่ยม และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในด้านรองรับธุรกิจไมซ์และสถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์ชั้นนำต่างๆ

Read More

เศรษฐกิจไทยปี 2562 ถึงเวลาเชือดไก่ ต้มหมู เซ่นสังเวย?

ท่ามกลางบรรยากาศของการรณรงค์หาเสียงในมหกรรมการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้นทุกขณะ โดยหลายฝ่ายประเมินว่าจะมีส่วนช่วยให้เกิดการสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยฟื้นความเชื่อมั่นต่อการใช้จ่ายของภาคประชาชนและการลงทุนของภาคธุรกิจในระยะถัดไป หากแต่ในอีกด้านหนึ่งของสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่สะท้อนผ่านการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา อาจให้ภาพที่สะท้อนถึงสภาพตลาดโดยรวมที่ถูกกดดันจากความกังวลของประชาชนต่อกำลังซื้อ ทั้งจากผลกระทบที่ได้รับจากฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ทำให้พวกเขามีภาระในการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 นี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 8,000-10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ความคึกคักของเทศกาลตรุษจีนที่ถดถอยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในด้านหนึ่งได้รับการประเมินว่าเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนประพฤติกรรมของคนไทยเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ ที่ไม่เคร่งครัดกับแบบแผนประเพณีเหมือนคนรุ่นก่อน แต่ประเด็นที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มิติมุมมองต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เน้นกิจกรรมประหยัด และระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น เพราะต่างตระหนักว่ากำลังซื้อในแต่ละปีไม่ได้เพิ่มขึ้น จากผลของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ต่อเนื่องยาวนาน กรณีดังกล่าวเห็นได้ชัดจากกลุ่มประชากรที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับล่าง ซึ่งอ่อนไหวต่อปัจจัยด้านกำลังซื้อ ที่พร้อมปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของกิจกรรมบางอย่างที่ทำได้ และเน้นความประหยัด ทั้งการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ การแจกเงินแต๊ะเอีย รวมถึงการทำบุญ ท่องเที่ยว ขณะที่เครื่องเซ่นไหว้ โดยเฉพาะกระดาษไหว้เจ้า กลายเป็นส่วนประกอบที่ถูกลดทอนลงมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมจากเหตุของการตื่นตัวเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปริมาณเม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2562 ที่ผ่านมา ได้รับการประเมินว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระดับร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) หากแต่เมื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะที่ยาวออกไปหลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ในระดับร้อยละ 3.6-3.8 ซึ่งเป็นการเติบโตแบบชะลอตัวจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ได้รับการประเมินว่าส่วนหนึ่งจะมาจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวงเงิน

Read More

ไฟไหม้ฟาง: ฝุ่นพิษเริ่มจาง มาตรการหดหาย

ข่าวความเป็นไปของฝุ่นพิษ PM2.5 ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในด้านหนึ่งได้สร้างความตื่นตัวในประเด็นว่าด้วยสุขภาพให้กับสังคมไทยอย่างเอิกเกริก และส่งผลให้กลไกภาครัฐต้องขยับตัวเร่งแก้ไขสถานการณ์ฝุ่นพิษอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการหลากหลาย ซึ่งสะท้อนวิถีความคิดและศักยภาพในการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับความเป็นไปของสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ในด้านหนึ่งอยู่ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา สังคมไทยเผชิญกับภาวะมลพิษทางอากาศ และคุณภาพอากาศเลวร้ายมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นขนาดใหญ่ PM10 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝุ่นจากผลของการก่อสร้าง ขณะที่ฝุ่นพิษ PM2.5 ก็เคยปรากฏให้เห็นมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากแต่ได้รับการประเมินว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในลักษณะ “ตามฤดูกาล” และจะบรรเทาเบาบางลงเมื่อเวลาเปลี่ยนผ่านไป กระบวนทัศน์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคู่กับสำนึกตระหนักทางสังคมในมิติดังกล่าวทำให้สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 เกิดขึ้นซ้ำซากในแต่ละปี และพร้อมที่จะทวีความหนักหน่วงรุนแรงเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ตามปริมาณฝุ่นที่สะสมอยู่ในสภาพแวดล้อม ขณะที่แหล่งที่มาหรือต้นทางแห่งการเกิดฝุ่นพิษ PM2.5 ยังดำเนินไปอย่างเป็นปกติ โดยไม่ได้มีมาตรการระยะยาวในการจัดการที่เป็นรูปธรรมมากนัก ประเด็นที่น่าสนใจจากความพยายามของกลไกภาครัฐในการบริหารจัดการเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM2.5 ในด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นมิติของการขับเคลื่อนองคาพยพของหน่วยงานราชการ เมื่อการประชุมในระดับคณะรัฐมนตรีมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวรวมมากถึง 11 หน่วยงาน ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ สำนักนายกรัฐมนตรี แนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในเขตกรุงเทพมหานครปริมณฑล และในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ภายใต้กลไกรัฐที่กำกับดูแลเหล่านี้ พยายามระบุว่า กรอบแนวคิด

Read More

เอสซีจี ผนึก ศศินทร์ จัดงาน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019

เอสซีจี ผนึก ศศินทร์ จัดงาน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019 การแข่งขันแผนธุรกิจยกระดับธุรกิจสตาร์ทอัพต่อยอดแนวคิดคนรุ่นใหม่ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เอสซีจี ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดประกวดและแข่งขันแผนธุรกิจสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019 - Scaling Impact Through Innovation ชิงชนะเลิศรางวัลเกียรติคุณพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และ รางวัลเกียรติคุณพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 โดยในปีนี้มีนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาโท จากสถาบันการศึกษาชั้นนำรวม 71 ทีม จาก 40 สถาบัน ใน 19 ประเทศ จาก 4 ทวีปทั่วโลก รวมทั้งทีมของประเทศไทย

Read More

เซ็นทรัลทุ่มงบ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนใน Grab เดินหน้าสร้าง ‘นิว เอ็กซ์พีเรียนซ์ อีโคโนมี’

กลุ่มเซ็นทรัล ทุ่ม 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงทุนด้านดิจิทัลครั้งใหญ่ ในแกร็บประเทศไทย เดินหน้าสร้าง ‘นิว เอ็กซ์พีเรียนซ์ อีโคโนมี’ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกออมนิแชแนลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือกับบริษัท แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ (แกร็บ) ผู้นำแพลตฟอร์ม O2O (Online to Offline) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลงทุนในแกร็บ ประเทศไทย เป็นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าถือหุ้นแบบไม่มีอำนาจควบคุมในสัดส่วนที่มีนัยยะสำคัญ โดยการจับมือเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ ‘นิว เอ็กซ์พีเรียนซ์ อีโคโนมี’ (New Experience Economy) ที่มอบประโยชน์ให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงผู้ให้บริการรายย่อยจำนวนมาก นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจกับ แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ และลงทุนเป็นจำนวน

Read More

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ดัน “บราโว่ สตูดิโอ” เสริมทัพผู้นำด้านคอนเทนต์ครีเอเตอร์

จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ดัน “บราโว่ สตูดิโอ” เสริมทัพผู้นำด้านคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ดึงดีเอ็นเอความเป็นไทย ตั้งธงผลิตผลงานคุณภาพ สู่ระดับอินเตอร์ ก้าวสู่ปีที่ 3 ของ บราโว่ สตูดิโอ ในเครือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารงานของ เอกชัย เอื้อครองธรรม ครีเอเตอร์ดีกรีผู้กำกับฯ ระดับอินเตอร์ ที่สามารถสร้างแบรนด์ดิ้งชัดเจนด้วยการ ครีเอทคอนเทนต์ซีรีส์ไทยที่มีเอกลักษณ์ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มมิลเลเนี่ยล (Millennials) และกลุ่ม YA (Young Adults) โดยตั้งเป้าเสริมทัพเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์คุณภาพให้แกรมมี่ ยกระดับคอนเทนต์ไทยให้สู่สายตาผู้ชมทั่วโลก ซึ่ง นายเอกชัย เอื้อครองธรรม เปิดเผยถึงภาพรวมความสำเร็จของ บราโว่ สตูดิโอ ในปีที่ผ่านมาว่า “บราโว่ สตูดิโอ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของคุณไพบูลย์ ที่อยากให้มีหน่วยงานที่ผลิตคอนเทนต์ที่ขยายผลทรัพย์สินทางปัญญาทางด้านเพลงของแกรมมี่ที่มีมากมาย โดยในปีแรกเริ่มต้นด้วยการสร้างซีรีส์ที่มีอินสไปเรชั่นจากเพลงฮิต 100 ล้านวิว โดยคอนเทนต์ได้รับกระแสการตอบรับที่เกินคาด หลังจากบราโว่เปิดตัวไป

Read More

‘ซีพีแอล’ เผย 3 ปีลงทุน 450 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 62 ลงทุนเพิ่ม 125 ล้าน ลุย 2 โปรเจ็คท์-รุกขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิต

CPL เผยปี 2562 เดินหน้าลงทุนเพิ่ม ตั้งงบลงทุนเบื้องต้น 125 ล้านบาทสำหรับขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิต หลังจาก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีนี้ใช้งบลงทุนต่อเนื่อง 450 ล้านบาท เชื่อการชะลอตัวของธุรกิจเนื่องจากปัจจัยภายนอกไม่เอื้ออำนวยจะส่งผลกระทบในช่วงสั้นๆ แต่หากไม่เตรียมพร้อมสำหรับรับออเดอร์ใหม่จะทำให้เสียโอกาสได้ พร้อมตั้งเป้าธุรกิจฟอกหนังปีนี้โตจากปีก่อน 50% ส่วนธุรกิจผลิตหนังสำเร็จรูปโตเพิ่ม 10% ขณะที่สินค้ากลุ่มเซฟตี้ โปรดักส์ คาดว่าจะโตเพิ่มราว 15% นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้ โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยว่า ในปี 2562 จะเป็นปีแห่งการลงทุนขยายโรงงานและขยายกำลังการผลิตของ CPL ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 2-3 ปีแล้ว โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

Read More

บ้านปูฯ เปิดตัวสำนักงาน ณ แหล่งผลิตที่สหรัฐอเมริกา พร้อมต่อยอดความสำเร็จในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจร

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรแห่งเอเชีย-แปซิฟิก ประกาศเปิดตัว สำนักงาน ณ แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ ณ เมือง ทังค์แคนน็อค มลรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับเกียรติจากนางสาวบุศรา กาญจนาลัย อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน และ นายนิพนธ์ เพ็ชรพรประภาส กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการนี้ยังมีผู้นำท้องถิ่นและพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ประกอบด้วย มร. นอร์แมน บอล นายกเทศมนตรีเมืองทังค์แคนน็อค นางเคเรน โบแบค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มลรัฐเพนซิลเวเนีย มร. เคิร์ท คอคโคดริลลี ผู้อำนวยการ USDA มลรัฐเพนซิลเวเนีย รวมถึงผู้บริหารและพนักงานบริษัทบริหารจัดการกองทุน Kalnin Ventures นับเป็นอีกก้าวสำคัญของกลุ่มบ้านปูฯ ที่แสดงถึงความพร้อมในการต่อยอดความสำเร็จจากการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน และตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจด้านพลังงานแบบครบวงจรอีกด้วย ที่ผ่านมา บ้านปูฯ ได้เริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ

Read More

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จับมือ ดีเคเอสเอช เปิดตัวแฟล็กชิพสโตร์ Famous Amos คุกกี้แบรนด์ดังนำเข้าจากอเมริกา ส่งมอบความอร่อยอบสดใหม่จากเตาทุกวัน

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตอกย้ำความเป็นศูนย์รวมความอร่อยเดินหน้าพาเหรดแบรนด์อาหารและร้านดังเจ้าอร่อยมาไว้ในแห่งเดียว ดึงดูดลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสู่จุดหมายปลายทางความอร่อย (FOOD DESTINATION) โดยล่าสุดจับมือ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแฟลกชิพสโตร์ (Flagship Store) สาขาแรกในประเทศไทยของร้าน “เฟมัส เอมอส” (Famous Amos) คุกกี้แบรนด์นำเข้าจากอเมริกา ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศผ่านกรรมวิธีการอบสดใหม่หอมกรุ่นจากเตาทุกวัน พร้อมส่งมอบความอร่อยแล้ววันนี้ที่ชั้น 5 โซน A และยังอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยจุดจำหน่ายอีกแห่งที่โซน TAKE HOME ชั้น G ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่ www.mbk-center.co.th และ www.facebook.com/mbkcenterth

Read More

สกว.หนุนวางแผนเมืองนิเวศกทม.-ปริมณฑล ส่งเสริมพลวัตของภูมิอากาศแบบมีส่วนร่วม

ปัจจุบันเมืองต่างๆ ของไทยมีความเปราะบางต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การส่งเสริมให้เมืองมีความปลอดภัยและมีความพลวัตต่อการเปลี่ยนแปลงให้ได้มากที่สุดนั้น จำเป็นที่หน่วยงานระดับท้องถิ่นและระดับประเทศจะต้องให้ความสำคัญกับนโยบายเหล่านี้ รวมถึงการวางแผนเพื่อส่งเสริมเมืองพลวัตให้เป็นไปอย่างมีส่วนร่วมและทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤติต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ในประเทศที่มีความเสี่ยงและประชากรส่วนใหญ่ยังมีรายได้น้อยหรือปานกลาง อีกทั้งมีความไม่เท่าเทียมอยู่ การวางแผนเมืองอย่างมีส่วนร่วมยังถือว่าเป็นเรื่องท้าทายมาก หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นอาจจะยังขาดเครื่องมือและขีดความสามารถในการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมกับประชาชนทุกคน ความท้าทายสำคัญคือ การสื่อสารข้อมูลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ซึ่งสามารถเตรียมการวางแผนเพื่อปรับตัวไว้ล่วงหน้า แทนที่จะเป็นการรับมืออย่างเดียว คณะวิจัยจากหน่วยวิจัยอนาคตเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้พัฒนาชุดเครื่องมือ “กินดี..อยู่ดี” เพื่อใช้ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นและมีเป้าหมายในการช่วยให้เกิดความตระหนักรู้ถึงสินทรัพย์ที่มีในชุมชนว่าจะช่วยสร้างความพลวัตรองรับภาวะวิกฤติในอนาคตทั้งระดับส่วนตัวและระดับส่วนรวมได้หรือไม่ โดยจำลองภาวะวิกฤติทางภูมิอากาศและวิกฤติเศรษฐกิจ ล่าสุดหน่วยวิจัยอนาคตเมืองฯ ได้ร่วมกับ Internation Institute for Environment and Development (IIED) สหราชอาณาจักร ภายใต้การสนับสนุนของโครงการพัฒนาเครือข่ายวิจัยนานาชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ “การวางแผนเพื่อเมืองนิเวศและสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความพลวัตของภุมิอากาศ: การเสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อการวางแผนอย่างมีส่วนร่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” เพื่อนำเสนอองค์ความรู้จากงานวิจัย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้นำหรือตัวแทนชุมชนเครือข่าย โดยใช้เครื่องมือกินดีอยู่ดีในการส่งเสริมการวางแผนเมืองอย่างมีส่วนร่วม “ทีมวิจัยเราสนใจการพัฒนาเมืองแบบมีส่วนร่วมจึงจำเป็นต้องมีเครือข่ายจำนวนมากเพื่อที่จะตอบโจทย์ท้องถิ่นและเขตที่ดูแลได้ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอาจเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับประชาชนและหน่วยงานภาครัฐและอยากให้เห็นว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด ฝนตกหนักนอกฤดูและถี่ขึ้น จะจัดการแบบเดิมๆ หรือร่วมกันวางแผนหากเกิดบ่อยขึ้นในอนาคต เพราะจะกระทบต่อน้ำท่วม น้ำแล้ง การกัดเซาะของน้ำทะเล ฯลฯ โดยการออกแบบที่อยู่อาศัย สินทรัพย์ การออมทรัพย์

Read More